ตอนที่ 7 เย็นนี้ไม่มีแขก...มีแค่เขาคนเดียว

1392 Words
หลังจากกินข้าวเช้าร่วมกันเงียบ ๆพี่บอยก็ขี่วินไปส่งนิรินที่หน้าคณะเหมือนทุกวัน นิรินลงจากรถ แล้วยิ้มให้เขาเบา ๆ “เย็นนี้...หนูจะรออยู่ที่นี่เลยนะคะ อย่าลืมมารับนะ” เขาพยักหน้า ไม่ตอบ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ทั้งวันนั้น นิรินเรียนตามปกติ แต่ไม่มีการแต่งหน้าเตรียมตัว ไม่มีชุดพับไว้ในกระเป๋าผ้า ไม่มีแชทคุยกับแขก มือถือของเธอขึ้นแจ้งเตือนหลายครั้ง “คืนนี้ว่างมั้ยครับ?” “เงียบไปเลยนะน้อง” “ต้องให้โอนเพิ่มมั้ย?” แต่เธอแค่กดลบโดยไม่ตอบกลับ เพื่อนยังคุยกันเรื่องติวสอบ เรื่องผู้ชาย เรื่องการฝึกงานส่วนเธอ...นั่งเงียบ แต่น้ำหนักบนอกกลับเบากว่าทุกวัน พอเรียนเลิกเธอยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ข้างลานหน้าอาคารพี่บอยขี่รถมาจอดตรงหน้า วันนี้เขามาถึงเร็วกว่าทุกวัน เหมือนใจเขาเอง...ก็รีบกลับมาเธอสวมหมวกกันน็อก แต่แทนที่จะซ้อนขึ้นไปเหมือนเคย เธอแตะบ่าเขาเบา ๆ แล้วพูด “วันนี้...หนูไม่ไปที่เดิมนะคะ” พี่บอยชะงักเล็กน้อยเขาหันมามองเธอแววตาไม่ได้ตกใจ...แต่มันมีบางอย่างที่ “อ่อนลง” ชัดเจน “แล้ว...จะไปไหน” “อยากเดินเล่นค่ะ ไปตลาดนัดข้างมหาลัยกันไหม?” เธอยิ้ม ยิ้มแบบที่เขาไม่ค่อยเห็นเขาพยักหน้า แล้วออกรถช้า ๆมือของเธอกอดเอวเขาแน่นเหมือนเดิม แต่ใจของเขาเริ่มไม่เหมือนเดิมเธอไม่แต่งหน้าไม่มีน้ำหอมกลิ่นเดิมไม่มีโน้ตติดกระจกหน้าห้อง ไม่มีการเตรียมตัวเป็น "ใครก็ได้"วันนี้...เธอเป็นแค่นิรินที่อยากเดินเล่นกับเขา ตลาดนัดช่วงเย็นคึกคักเสียงเพลงจากลำโพงร้านน้ำปั่นดังกลบเสียงเครื่องปั่นไฟ เธอซื้อไก่ปิ้งสองไม้กับนมเย็นหนึ่งแก้วแล้วยื่นให้อีกแก้วกับพี่บอยแบบไม่พูด เขารับไว้เงียบ ๆไม่กล้าถามอะไรแต่ใจเขา...เต็มไปด้วยคำถาม “ไม่ไปรับแขกเหรอ?” “เหนื่อยหรือเปล่า?” “หนู...เปลี่ยนไป หรือพี่แค่คิดไปเอง?” แต่สุดท้าย เขาก็ไม่พูด เพราะกลัวว่า ถ้าเอ่ยคำถามออกไป เธออาจไม่ชวนเขามาเดินเล่นอีก เขาเลยแค่เดินข้าง ๆเงียบ ๆและบอกตัวเองว่า... ต่อให้เธอยังไม่หยุดทำงานนั้น…แค่วันนี้เธอเลือกพี่ มันก็พอแล้ว หลังจากเดินตลาดนัด พี่บอยก็พาเธอกลับหอเหมือนเคย นิรินเงียบลงเล็กน้อยหลังมื้อเย็น เธอดูเหนื่อยง่ายกว่าทุกวัน เดินช้าลงเล็กน้อยและมีท่าทางระแวงเหมือนกำลังพยายามปกปิดอะไรบางอย่าง เมื่อเข้าห้อง เธอรีบเข้าห้องน้ำทันทีเสียงเปิดซองผ้าอนามัยดังเบา ๆ ในห้องน้ำ…พอให้คนที่นั่งอยู่ด้านนอกได้ยินถ้าเงียบพอและพี่บอย…ก็เงียบพอจะได้ยิน เขาไม่ถาม ไม่แม้แต่จะเอียงหูฟัง แต่เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ ให้ตัวเอง เหมือนเข้าใจทุกอย่างแล้วนิรินออกมาจากห้องน้ำด้วยเสื้อยืดตัวเดิมของเขา เธอเดินช้าลง แววตาเจือความกังวล “วันนี้...หนูคงไม่ได้ทำอะไรนะคะ” “ขอโทษนะ ถ้าพี่อยาก…” “ไม่อยาก” เขาตอบทันที ขัดเธอกลางประโยคสายตาพี่บอยนิ่งแต่ในแววตานั้นมีอะไรบางอย่างที่เหมือนจะพูดว่า “ไม่ต้องขอโทษเลย เพราะหนูไม่ใช่ของพี่แบบนั้น” เขาขยับตัวบนฟูก แล้วเปิดผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นอย่างเงียบ ๆ “มานี่” เสียงสั้น ๆ แต่หนักแน่น นิรินชะงักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ เดินไปนั่งข้างเขา และเอนตัวลงในอ้อมแขนของเขาอย่างวางใจ เขากอดเธอไว้แน่นจากด้านหลังมือหนึ่งกุมมือเธอ อีกมือลูบผมเบา ๆ หัวใจของเธอเต้นแรงแต่สงบ เหมือนถูกกล่อมด้วยอ้อมแขนแทนเสียงดนตรี คืนนั้น ไม่มีเสียงเตียง ไม่มี sex มีแต่ผ้าห่มผืนใหญ่ กับอ้อมกอดจากชายคนหนึ่งที่ไม่ต้องการอะไรจากเธอเลย แค่ได้อยู่ข้างกัน…ก็เพียงพอแล้ว ก่อนเธอจะหลับเขากดจมูกลงบนหน้าผากเธอเบา ๆ อีกครั้ง แล้วพูดเสียงแผ่วที่สุดในรอบหลายวัน “ไม่ต้องเป็นของใครทั้งนั้นคืนนี้...เป็นของพี่พอแล้ว” เวลาผ่านไปหลายวันไม่มีโน้ตหน้าห้องไม่มีน้ำหอมกลิ่นเดิมไม่มีสายจากแขกยามค่ำ มีแค่...กลิ่นเสื้อยืดเก่า ๆ จากร้านอาหารเสียงล้างจานในหลังร้าน และปลายนิ้วแดง ๆ จากการถือแก้วน้ำแข็งทั้งคืนพี่บอยยังคงไปรับไปส่งนิรินเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ ปลายทาง เขาไม่ได้ไปส่งเธอที่โรงแรมอีกแต่ไปส่งที่ร้านอาหารตามสั่งแถวแยก หรือบางคืน...ก็ร้านเหล้าหัวมุมที่เด็กมหาลัยนั่งกันโหวกเหวกเขาขี่วินมาจอดตรงเวลา มองเธอเดินลงจากร้านด้วยเสื้อพนักงานสีหม่นมีผ้ากันเปื้อนพาดไหล่ผมเธอมัดลวก ๆ หน้าไม่ได้แต่งแต่มือเปื้อนน้ำมันล้างจานเขาไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ชมว่าเธอดีขึ้นไม่ได้ถามว่าเหนื่อยไหมแค่ยื่นผ้าเย็นให้แล้วพูดสั้น ๆ “ขึ้นรถ” บางคืนเธอชงเหล้าในร้านเล็ก ๆไม่ได้ขายตัวแค่ยืนยิ้ม ฝืน ๆถือแก้วเหล้าไปวางตามโต๊ะ พูดคุยเบา ๆ กับลูกค้าแบบที่ไม่ต้องแตะตัวเขานั่งรออยู่นอกร้านเสมอไม่ได้เข้าไป แต่เธอรู้ว่าเขารออยู่ตรงนั้น…ทุกคืนบางวันเธอเหนื่อยจนหลับบนรถหัวพิงหลังเขา ลมหายใจอ่อน ๆ กระทบต้นคอเขาตลอดทางกลับหอ เขาไม่เคยพูดแต่เธอรู้ว่าเขา “เห็น”และเพราะเขาไม่พูดนี่แหละ เธอเลยอยากพยายามมากขึ้น แม้แค่ทีละก้าว คืนหนึ่งขณะกำลังขี่รถพาเธอกลับเธอพิงแผ่นหลังเขาแน่นขึ้น แล้วกระซิบเบา ๆ “พี่บอย...พี่เคยผิดหวังในหนูมั้ยคะ?” เขาไม่ตอบทันทีขี่รถช้า ๆ ผ่านไฟแดง แล้วจอดตรงหน้าหอก่อนจะเอี้ยวตัวกลับมา สบตาเธอด้วยสายตานิ่ง ๆ “ไม่เคยเลย” “หนูพยายามอยู่ พี่รู้” แล้วเขาก็ยื่นมือมาแตะหัวเธอเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วแทบละลายทั้งหัวใจ “เหนื่อยก็พัก…ไม่ต้องฝืนเป็นคนดีทันทีหรอก” “แค่ไม่กลับไปเจ็บ...พี่ก็พอแล้ว” นิรินก้มหน้า น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ เพราะเธอไม่เคยรู้มาก่อนว่า...การมีคนที่ “ไม่หวังอะไร” จากเรา มันอบอุ่นขนาดนี้ ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาข้างเขา ทุกคืนที่ได้ซบลงบนแผ่นหลังของเขา นิรินรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังได้รับการเยียวยาอย่างช้าๆ แต่สม่ำเสมอ เธอรู้ว่าหนทางข้างหน้าอาจยังอีกยาวไกล และบาดแผลในใจของเธออาจต้องใช้เวลาในการรักษา แต่การมีพี่บอยอยู่ข้างๆ ผู้ชายที่เข้าใจเธอโดยไม่ต้องพูดอะไร ทำให้เธอรู้สึกถึงความหวังและแรงผลักดันที่จะก้าวต่อไป เธอไม่จำเป็นต้องเป็น "คนดี" ในพริบตา ไม่ต้องฝืนทำอะไรที่เกินตัว แค่เพียงพยายามและไม่กลับไปทำร้ายตัวเองอีกครั้ง นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ และนั่นก็เพียงพอสำหรับเธอแล้ว ในทุกๆ วันที่ผ่านไป ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น ความเงียบของเขากลายเป็นภาษาที่เข้าใจกันดีที่สุด และในอ้อมกอดของเขา นิรินก็พบกับความสงบที่แท้จริง ซึ่งไม่เคยมีใครมอบให้เธอได้มากเท่านี้มาก่อน เธอจะยังคงก้าวเดินต่อไป ทีละก้าว ช้าๆ แต่มั่นคง พร้อมกับความอบอุ่นจากใจที่ "ไม่หวังอะไร" ของพี่บอย ที่คอยโอบกอดเธอไว้เสมอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD