หลังจากครึ่งวันที่พวกเขาผลัดกันรัก
นิรินนอนนิ่งในผ้าห่มหนานุ่ม ร่างกายยังระบมด้วยความสุขที่แลกมาด้วยแรงใจ
เสียงแอร์ยังดังเบา ๆ ข้างหู แต่ในใจเธอสงบแบบที่ไม่เคยเป็นมานาน
พี่บอยลุกออกจากเตียงเงียบ ๆ แล้วกลับมาพร้อมแก้วน้ำเธอรับมากินทีละนิด ก่อนสบตาเขาแบบเก้อ ๆ
“เมื่อกี้...มันไม่ใช่แค่เพราะอารมณ์ใช่มั้ยคะ?”
“ไม่เลย”
“มันเป็นเพราะพี่รู้แล้ว...ว่าหนูไม่ใช่ใครก็ได้”
“และพี่...ไม่อยากให้หนูเช่าห้องนี้อีกต่อไปแล้ว”
เธอหันไปมองเขาเต็มตา
“หมายความว่ายังไงคะ?”
พี่บอยสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะจับมือนิรินมากุมไว้แน่น
“ย้ายไปอยู่บ้านพี่เถอะหนู”
“บ้านพี่ไม่ใช่คอนโดหรู แต่มีห้อง มีครัว มีระเบียง แล้วก็มีพี่”
“อยู่ฟรี...ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เรียน พัก และใช้ชีวิตที่ไม่ต้องเจ็บ”
นิรินอึ้งน้ำตาเริ่มคลออีกครั้ง ไม่ใช่เพราะอ่อนไหวง่าย
แต่เพราะเธอไม่เคยมีใครพูดกับเธอแบบนี้...จริง ๆพี่บอยยิ้มบาง ๆ แล้วพูดต่อ
น้ำเสียงเรียบแต่หนักแน่น
“พ่อแม่พี่เคยมีตึกแถวให้เช่าหลายที่ พอเขาจากไปก็ยกไว้ให้พี่คนเดียว”
“ทุกเดือนก็มีค่าเช่าตึกเข้ามา...พอใช้ได้ ไม่ต้องหรูหราแต่ไม่ลำบาก”
“พี่ไม่เคยขึ้นค่าเช่าเลยแม้แต่บาทเดียว ตั้งแต่พ่อแม่ยังอยู่”
“ลูกบ้านเลยรักพี่ เขามักจะส่งของมาให้ ช่วยเก็บบ้าน ช่วยดูแล...เพราะพี่เป็นแค่ผู้ชายตัวคนเดียว ที่ไม่ค่อยพูด”
เขาหยุดเล็กน้อย แล้วแตะผมนิรินเบา ๆ
“ที่พี่ขับวิน ก็เพราะอยากเข้าใจวิถีคนข้างล่าง”
“อยากรู้ว่ากลิ่นฝนตอนเช้าเป็นยังไง อยากรู้ว่าสาวไซด์ไลน์มองคนขับวินยังไง...ก่อนที่หนูจะมองพี่แบบอื่น”
เธอร้องไห้จนสะอื้นในอกเขากอดเขาแน่น ไม่ใช่เพราะขอบคุณ
แต่เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่า เธอไม่ต้องซื้อความรักจากใครเลย
“พี่บอย...”
“ถ้าหนูย้ายไป หนูจะไม่ทำให้บ้านพี่รก”
“หนูจะล้างจาน ทำครัว ซักผ้า...จะช่วยดูตึกก็ได้”
“ไม่ต้องเลย...หนูแค่ใช้ชีวิตให้หายเหนื่อยก็พอ”
“ส่วนเรื่องอื่น พี่จัดการเองได้หมดแล้ว”
และในเย็นวันนั้นนิรินก็ตัดสินใจเก็บของใส่เป้บางส่วน
พร้อมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบ้านที่ “ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า”
และในหัวใจของผู้ชายที่ “จ่ายทุกอย่างให้เธอ...โดยไม่ต้องขอคืน”
บ้านของพี่บอยอยู่ในซอยลึกหลังใหญ่แต่เงียบสงบ
มีรั้วสีขาว ไม้ดอกริมทาง และเสียงนกร้องในยามสาย
ไม่ใช่คฤหาสน์โอ่อ่า แต่ทุกอย่างเป็นระเบียบ อบอุ่น และดู “ผู้ดี” อย่างประหลาด
นิรินเดินตามพี่บอยเข้ามาเงียบ ๆเขาวางกระเป๋าเธอไว้ข้างโซฟา
ก่อนจะเดินไปเปิดหน้าต่าง เปิดม่าน ปล่อยให้แดดอุ่น ๆ สาดเข้ามาในห้องรับแขก
“อยากอาบน้ำก่อนมั้ย?” เขาถามเรียบ ๆ
“มีผ้าเช็ดตัวใหม่ในตู้ พี่ซื้อไว้ตั้งแต่วันก่อนแล้ว”
เธอยิ้มบาง ๆ พยักหน้าเบา ๆแล้วเดินเข้าห้องน้ำเงียบ ๆ
ระหว่างที่ยืนอยู่หน้ากระจกนิรินมองตัวเอง...ผิวของเธอยังเต็มไปด้วยรอยแดงจากเมื่อวาน
ริมฝีปากยังบวมเจ่อจากจูบและในแววตาของเธอ มีทั้งความสุข และ ความกลัว
“ทำไมบ้านเขาดูเรียบร้อยจัง...”
“ทำไมเขาใจดีกับเรา...ทั้งที่เราไม่เคยเล่าอดีตให้เขาฟังเลยสักครั้ง...”
นิรินอาบน้ำนานกว่าปกติเธอไม่ได้ร้องไห้แต่ใจมันวูบ ๆ เหมือนกำลังเดินเข้าไปในที่ที่ เธออาจไม่ควรเข้าไป
พอออกจากห้องน้ำเธอก็เห็นพี่บอยนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้ริมระเบียงเขาชงกาแฟไว้สองแก้ว
และมีแซนด์วิชจานเล็กวางไว้ตรงหน้าเธอ
“กินรองท้องก่อน เดี๋ยวบ่ายพี่จะพาไปเดินดูข้างบ้าน”
“ข้าง ๆ มีสวนกับที่จอดรถ หนูจะเดินเล่นตอนเย็นได้สบาย”
เธอพยายามยิ้มแต่แล้วก็เผลอหลุดคำถามที่กดไว้ในใจมาหลายชั่วโมง
“พี่บอย...”
“หนูเคยรับงานมาไม่น้อย”
“เคยนอนกับผู้ชาย...ที่ไม่แม้แต่จะจำชื่อหนูได้”
“พี่ไม่เคยถาม ไม่เคยว่าเลย...พี่ไม่กลัวเหรอคะ”
พี่บอยไม่ตอบทันทีเขาเพียงแต่มองเธอนิ่ง ๆก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือเธอไว้ แน่น แต่ไม่บีบ
“พี่ไม่กลัวอดีตหนู”
“พี่กลัวแค่สิ่งที่หนูคิดกับตัวเองมากกว่า”
เขาหยุดเล็กน้อย ก่อนพูดต่อ
“ถ้าหนูคิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับบ้านหลังนี้ หรือกับพี่...”
“ก็แค่พิสูจน์ว่าหนูจะ ‘เป็น’ มากกว่าที่เคย ‘เป็นมา’ ก็พอ”
น้ำตาเธอไหลอีกรอบแต่ไม่ใช่เพราะความเจ็บ
มันเป็นเพราะเขา...ไม่เคยมองเธอด้วยสายตาอื่นเลย นอกจากคำว่า "คนที่อยากอยู่ด้วยไปนาน ๆ"
เธอก้มลงหอมหลังมือเขาเบา ๆและในใจของเธอ...ก็เริ่มบอกกับตัวเองว่างั้นเธอจะเป็นคนของบ้านนี้ให้ได้...โดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
เช้าวันใหม่ในบ้านหลังใหญ่
แดดลอดผ้าม่านบาง ๆ เข้ามาอาบผิวของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่ในครัว ที่ไม่ใช่ของเธอ แต่เธอเลือกจะเข้ามาอยู่ตรงนี้เอง
พี่บอยออกไปหน้าบ้าน บอกว่าจะไปรับของจากลูกบ้านคนหนึ่ง
นิรินเลยแอบเปิดตู้กับข้าว เปิดตู้เย็น หยิบวัตถุดิบง่าย ๆ ที่มีอยู่แล้วในบ้าน
มีไข่ มะเขือเทศ หมูบด ข้าวหอมมะลิ และเครื่องปรุงครบครัน
“ไม่เคยทำให้ใครแบบนี้เลยนะ...”
“แต่...เคยทำให้น้องกันต์กินตลอดอยู่แล้ว แค่นี้เอง สบาย”
เสียงตะหลิวกระทบกระทะดังแผ่ว ๆ
ไข่เจียวฟูนุ่มถูกตีใส่หมูสับ หอมหวนขึ้นมาในอากาศ
พร้อมกับต้มจืดมะเขือเทศใส่เต้าหู้ไข่แบบที่น้องชายเธอชอบกินเวลาไม่สบาย
เธอหันไปมองรอบ ๆ ห้องครัว
แม้จะสะอาด เป็นระเบียบ และดูใหม่แต่มันก็เหมือนห้องที่ขาดชีวิต จนเธอเข้ามา
“ต่อไปนี้...มันจะไม่เงียบอีกแล้วใช่มั้ย”
พี่บอยกลับมาพร้อมกับต้นไม้กระถางเล็กในมือทันทีที่เขาเปิดประตู กลิ่นข้าวสวยหุงใหม่กับไข่เจียวฟูหอมก็แตะจมูกเขาชะงักไปหนึ่งจังหวะ
ก่อนจะวางต้นไม้ลงข้างประตู แล้วเดินเข้ามาในครัว
“นี่...หนูทำเหรอ”
นิรินพยักหน้าแก้มขึ้นสีเล็กน้อย มือรีบจัดจานอย่างประหม่า
“ถ้าไม่อร่อยก็อย่าว่าหนูนะคะ”
“แต่มันคือเมนูที่เคยทำให้น้องชายตอนป่วย...”
พี่บอยนั่งลงช้า ๆใช้ช้อนตักไข่เจียวเข้าปากตามด้วยน้ำซุปอุ่น ๆ
เขาไม่พูดอะไรนานหลายวินาทีก่อนจะวางช้อนลง แล้วเงยหน้ามาสบตาเธอ
“...อร่อยกว่าทุกอย่างที่เคยกินมาเลย”
นิรินยิ้มดีใจ
แล้วนั่งลงตรงข้ามเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
ในตอนนั้น เธอไม่ได้รู้สึกว่าเธอกำลังกินข้าวกับ “เจ้าของบ้าน”
แต่กำลังกินข้าวกับ ผู้ชายที่เห็นคุณค่าของเธอ แม้ในสิ่งเล็กที่สุด
และในเช้าวันนั้น
บ้านหลังใหญ่หลังนี้...ก็เริ่มมีเสียงหัวเราะ
เริ่มมีเสียงจานช้อน
เริ่มมีคนที่ “อยากอยู่ต่อ” โดยไม่ต้องหลบซ่อนตัวตนอีกต่อไป