ตอนที่ 9 รักแบบเงียบ ๆ...แต่ทำทุกอย่างเหมือนเป็นของกันและกัน

1243 Words
ไข้ของนิรินลดลงแล้วแต่ร่างกายยังอ่อนแรงเธอพยายามจะลุกขึ้นทำอะไรด้วยตัวเอง แต่ก็ถูกเสียงดุ ๆ ของคนขรึม ๆ คนหนึ่งขัดไว้ก่อน “จะรีบตายเลยมั้ยล่ะ” “นั่งนิ่ง ๆ เดี๋ยวพี่ทำให้” พี่บอยเดินออกจากห้องไปช่วงบ่าย แล้วกลับมาพร้อมถุงพลาสติกสองสามใบ ยา นมอุ่น ข้าวต้ม กล่องยาดมและเจลลดไข้ “ของกิน?” “ยา?” “ทำไมพี่ซื้อเยอะขนาดนี้คะ…” “พี่ไม่ได้ทำแค่วันนี้” เขาตอบสั้น ๆแล้วก็แกะกล่องข้าวต้มมาเป่าให้ตลอดบ่ายนั้นเขานั่งข้างเตียงดูแลเธอเหมือนเป็นคนในบ้าน เธอกินได้มากขึ้น หายใจโล่งขึ้นแต่ยังไม่รู้เลยว่า...นั่นเป็นแค่ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่เขาทำ คืนนั้นหลังจากเธอหลับพี่บอยนั่งเงียบที่ปลายเตียงหยิบมือถือขึ้นมา แล้วส่งข้อความหาเพื่อนสนิทคนเดิม “โอนให้เด็ก 14 ตามเลขบัญชีที่เคยให้ไปนะ” “หมื่นห้า ค่าเทอม กับยารักษาแม่” ปลายสายตอบกลับมาแค่ “เรียบร้อย กูจัดให้หมดแล้ว เด็กคนนั้นพิมพ์มาว่าขอบคุณ ‘พี่คนนั้น’ ด้วย” พี่บอยมองหน้าจอเงียบ ๆไม่ได้ยิ้มไม่ได้ดีใจแต่เขาแค่หลับตาแน่น...แล้วถอนหายใจยาว เหมือนปล่อยความเจ็บในอกให้ไหลออกไปพร้อมลมหายใจนั้น “พี่คนนั้น…” เขาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ “ไม่ต้องรู้จักชื่อพี่ก็ได้ แค่รู้ว่า…มีคนอยู่ข้างหนูก็พอแล้ว”รุ่งเช้านิรินตื่นขึ้นมาพบไข่ต้มสองฟองกับโจ๊กอุ่น ๆ ยาเรียงบนโต๊ะมีโพสต์อิทแปะไว้ว่า “พี่ไปวิน ไม่ต้องออกไปไหน ถ้าจะออกโทรเรียก” ตัวหนังสือแข็ง ๆ แต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นไปถึงหัวใจเธอไม่รู้เลยว่า ขณะที่เธอนอนหลับ มีคนหนึ่งกำลัง “ใช้ชีวิตทั้งชีวิตที่เหลืออยู่” เพื่อห่มให้เธออุ่น...แม้เธอจะไม่เคยขอเลยสักครั้ง บ่ายวันนั้นแสงแดดลอดเข้ามาในห้องอย่างอ่อนแรงเหมือนเจ้าของห้อง นิรินกำลังเก็บเสื้อผ้าลงตะกร้าในมือเธอคือโทรศัพท์ที่เปิดแชท “น้องกันต์” ค้างไว้ เธอแค่กะจะตอบแต่ข้อความล่าสุดที่เพิ่งเด้งเข้ามากลับทำให้มือของเธอหยุดนิ่งทันที “พี่ หนูได้ค่าเทอมกับค่ายาแม่แล้วนะ” “คนที่ชื่อ ‘พี่คนนั้น’ โอนมาให้…ผ่านพี่ผู้ชายที่เคยโทรหาแม่เมื่อก่อนนู้น” “แม่ถามว่าใช่พี่ไหม แต่หนูตอบไม่ได้” “หนูแค่รู้ว่า เขาไม่ได้หวังอะไรจากพี่เลย…” นิรินยืนนิ่งในมือยังถือเสื้อที่พับค้างไว้ขอบตาเธอเริ่มร้อนใจเต้นแรงอย่างไม่เข้าใจ “พี่คนนั้น…” เธอเริ่มต่อภาพเริ่มเห็นทุกอย่างที่เขาทำการซื้อของกิน การอยู่เงียบ ๆ ข้างเตียง การไม่เคยถาม ไม่เคยห้ามแต่กลับอยู่ตรงนั้น…เสมอเสียงประตูเปิดออกเบา ๆ พี่บอยกลับมาพอดีในมือเขามีถุงน้ำเต้าหู้กับขนมปังสองชิ้นแต่สิ่งที่เขาเห็นเมื่อเข้ามา คือนิรินยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง น้ำตาคลอเต็มสองตามือถือสั่นน้อย ๆ ในมือเธอเขาวางถุงของลงช้า ๆเดินเข้าไปหา “เป็นอะไร” เธอส่ายหน้าแต่สีหน้ากลับแสดงออกทุกอย่าง “หนูเพิ่งรู้…” เสียงเธอสั่น “ว่าทุกอย่างที่หนูพยายามแบก…พี่กำลังแบกให้หนูทั้งหมด” เขาไม่ตอบไม่แก้ตัวไม่ปฏิเสธเขาแค่เดินเข้าไปใกล้ แล้วกอดเธอไว้แน่น แน่นแบบที่เธอไม่ต้องยืนแกร่งคนเดียวอีกต่อไป “พี่บอย…หนูจะหาเงินคืนให้” “ไม่ต้อง” เขาพูดเสียงหนักแน่นขึ้น “พี่มีพอ…แล้วพี่เลือกเอง” เธอสั่นมือกำเสื้อเขาแน่น “พี่อย่าให้หนูเลย...หนูไม่อยากเป็นคนที่เอาเปรียบ” เขาดึงตัวเธอออกมาสบตา ดวงตานิ่ง ๆ ที่ไม่เคยพูดมากเกินคำว่า “โอเค” ตอนนี้กลับเปล่งประกายหนักแน่นที่สุดในชีวิต “หนูแค่เรียนก็พอ” “ไม่ต้องไปทำงาน ไม่ต้องล้างจาน ไม่ต้องฝืนหัวเราะใส่ใครอีกแล้ว” “แค่เรียน…แล้วใช้ชีวิตให้มีความสุข” “ที่เหลือ...พี่ดูแลเอง” เธอกัดริมฝีปากแน่นพยักหน้าช้า ๆแล้วโผเข้ากอดเขาอีกครั้ง ครั้งนี้...เธอกอดแน่นก่อนและน้ำตาเธอก็ไหลเต็มแก้ม โดยไม่มีคำว่า “ขอโทษ” หรือ “ขอบคุณ” มีแค่คำหนึ่ง...ที่เธอพูดในใจซ้ำ ๆ “หนูไม่ต้องลำพังอีกต่อไปแล้ว” หลังจากที่พี่บอยพูดคำว่า “แค่เรียน…ที่เหลือพี่ดูแลเอง” ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบนิรินยืนนิ่งเหมือนโลกหยุดหมุน หัวใจของเธอสั่น…แต่กลับสงบมือยังจับชายเสื้อเขาไว้แต่น้ำตาไม่ได้ไหลเพราะเจ็บอีกต่อไป เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาเงียบ ๆพี่บอยยังคงนิ่งเหมือนทุกครั้ง ไม่พูดอะไรต่อไม่ทวงคำขอบคุณไม่แม้แต่จะก้มลงมาหา เขาแค่ อยู่ตรงนั้นให้เธอได้เลือกว่าจะ “เดินเข้ามา” หรือ “เดินหนีไป” และเธอ...ก็เดินเข้ามานิรินเขย่งปลายเท้าเบา ๆวางสองมือบนบ่าของเขา แล้วกดริมฝีปากตัวเองลงบนปากเขา อย่างแผ่วเบา แต่แน่นพอจะจมลึกไปถึงหัวใจ พี่บอยเบิกตานิดหน่อยไม่ใช่เพราะตกใจแต่เพราะไม่คิดว่า...เด็กผู้หญิงคนที่เขาเคยแค่ขี่วินมาส่งตอนกลางคืน จะกลายเป็นคนที่ “ทำให้เขารู้สึกมีชีวิต” อีกครั้ง จูบนั้นยาวนานไม่มีเสียง ไม่มีลมหายใจหอบแค่ริมฝีปากที่แนบกันเงียบ ๆ เหมือนจะหลอมรวมความเหนื่อยทั้งหมดของสองคนไว้เมื่อเธอผละออกน้ำตาเธอก็คลออีกครั้ง แต่ครั้งนี้...มุมปากยิ้ม “จูบเมื่อกี้…ไม่ได้เพราะเป็นหนี้” “แต่เพราะรักพี่จริง ๆ ค่ะ” เขาไม่ตอบแค่เอื้อมมือมากอดเธอแน่นอีกครั้งกดจมูกลงบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา นิรินซบหน้ากับอกของเขา รับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ดังมั่นคง จังหวะที่เธอไม่เคยได้ยินจากใครมาก่อนในชีวิต ความรู้สึกปลอดภัยแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังโอบกอดเธอไว้ บทสรุปของความเข้าใจ คืนนั้น ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันอีก แต่ทุกสัมผัส ทุกอ้อมกอด คือการสื่อสารที่ลึกซึ้งกว่าถ้อยคำใดๆ นิรินรู้แล้วว่า เธอไม่ต้องวิ่งหนีจากอดีตอีกต่อไป เธอไม่ต้องซ่อนเร้นความเหนื่อยล้า หรือแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง เพราะมีคนคนหนึ่งที่พร้อมจะรับฟังและเข้าใจเธอในทุกๆ ด้าน โดยไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน และพี่บอยก็ได้พบความหมายใหม่ของการมีชีวิต ความสุขที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่การได้ครอบครอง แต่คือการได้อยู่เคียงข้าง ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเยียวยา และได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของคนที่เขารัก จากนี้ไป ไม่ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร พวกเขาก็จะก้าวผ่านมันไปด้วยกัน ด้วยความรักและความเข้าใจที่ก่อตัวขึ้นจากความเงียบงัน...แต่ดังลึกไปถึงหัวใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD