๔ ไกลบ้าน2

815 Words
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่วันที่ถูกพาเข้าไปในห้องโถงคราวนั้น กอหญ้าแทบไม่ย่างกรายเข้าไปในส่วนนั้นของบ้านอีก ส่วนใหญ่จะขลุกอยู่แต่ห้องครัวและที่พัก แต่คุณนายงามตาก็ไม่ว่าอะไร กลับคิดว่าดีแล้วที่เด็กสาวไม่เพ่นพ่านไปจนถึงห้องของลูกชาย ส่วนภพธรเองจากที่เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วก็ดูเหมือนจะพูดน้อยลงไปอีก กลับบ้านก็น้อยครั้ง บางทีก็ไม่กลับ ราวกับว่าเขาไม่อยากเห็นหน้าใครบางคน สามเดือนต่อมา กอหญ้าเรียนจบและได้เกรดเฉลี่ยสูงอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด ไม่นานจากนั้นเด็กสาวก็รู้ผลว่าตนนั้นสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐเป็นอันดับต้นๆ ในคณะพยาบาลศาสตร์ สร้างความยินดีแก่นางเรียมเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่ภพธรเมื่อได้รู้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจไปกับสาวน้อยด้วย อนาคตที่สดใสรอหล่อนอยู่ข้างหน้าแล้ว ทว่ามีบางอย่างฉุดรั้งให้เด็กสาวไม่สดใสเท่าที่ควร เช่นเดียวกับภพธร ยิ่งรับรู้ว่าหล่อนเต็มไปด้วยความหวังกับอนาคตของตนเองมากเท่าใด เขายิ่งรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปมากขึ้นเท่านั้น เด็กสาวในวันนั้น ค่อยๆ เติบโตเป็นสาวน้อย รูปร่างอ้อนแอ้น หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราคาดเดาได้ว่าเติบใหญ่คงเป็นสาวงามไม่น้อยหน้าลูกสาวบ้านไหน และวันนี้หล่อนกำลังถูกส่งตัวเข้าไปเรียนต่อยังเมืองหลวงตามที่มารดาของเขาลั่นวาจาเอาไว้ แต่ดูเหมือนคุณนายงามตาจะลืมเลือนเรื่องของการหมั้นหมายที่เคยให้สัญญาเอาไว้เมื่อสามเดือนก่อน ขณะที่ภพธรติดงานสำคัญอยู่ในจังหวัดอื่น คุณนายก็เร่งให้เด็กสาวเก็บเสื้อผ้าเพื่อให้คนขับรถพาไปส่งที่หอพักอย่างรีบร้อน นางเรียมได้แต่อัดอั้นตันใจ เพราะคิดเอาไว้แล้วว่าคุณนายจะต้องมาไม้นี้ ทว่าเมื่อมองไปทางหลานสาวที่กำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าก็ต้องผ่อนลมหายใจยาว ขยับเข้าไปนั่งข้างๆ พร้อมกับช่วยพับเสื้อผ้าให้หลาน “เรื่องหมั้นล่ะ” คำถามของนางเรียมทำเอามือเล็กๆ ชะงักงัน ครู่เดียวก็ขยับพับผ้าใหม่อีกครั้งพลางบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไร้ความรู้สึกใดๆ “ช่างมันเถอะแม่ใหญ่ หญ้าไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก” คำตอบของหลานสาวทำให้คนเป็นยายนิ่วหน้า เพราะไม่ว่าอย่างไรกอหญ้ามีสิทธิ์ที่จะได้รับการชดเชยจากภพธร คนพวกนั้นต้องรับผิดชอบหลานของตนสิถึงจะถูก “แต่คุณหนึ่งรับปากเราเอาไว้แล้ว” สาวน้อยถอนหายใจยาว ยัดผ้าตัวสุดท้ายใส่กระเป๋าแล้วรูดซิป ก่อนจะหันมามองนางตรงๆ “แล้วคุณหนึ่งของแม่ใหญ่อยู่ไหนล่ะ เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ตอนนี้มีแค่เราและก็เจ้าของบ้านตัวจริง ในเมื่อคุณนายอยากให้หญ้าไป หญ้าก็จะไป ดีเสียอีกจะได้ไม่ต้องเจอหน้าคนที่หญ้าไม่อยากเจออีกนานๆ” นางเรียมนิ่งอึ้ง ก่อนจะถอนหายใจอย่างไม่เห็นด้วยเลยสักนิด หลานสาวพอจะรู้ว่ายายของตนคิดเช่นไร จึงดึงมืออีกฝ่ายมากุมไว้พลางบอก “แม่ใหญ่ เราสองคนรู้ดีว่าคุณนายไม่มีวันยอมรับหญ้า แต่ในเมื่อท่านรับปากส่งเสียหญ้าให้เรียนสูงๆ หญ้าก็จะรับเอาไว้ หญ้ามาคิดดูแล้ว มันดีกว่าการที่หญ้าจะต้องเกี่ยวข้องกับพวกเขาไปตลอดชีวิต เพราะพอหญ้าเรียนจบ หญ้าจะพาแม่ใหญ่ออกไปอยู่ที่อื่น ที่ที่ไม่ต้องเจอพวกหน้าเนื้อใจเสือพวกนี้อีกต่อไป” คำตอบของหลานสาวทำให้นางเรียมนิ่งอึ้ง ผ่านไปครู่ใหญ่จึงถอนหายใจยาวอีกครา ก่อนจะยกมือขึ้นลูบผมนุ่มสลวยของสาวน้อย กอหญ้าขยับเข้าไปกอดแม่ใหญ่เอาไว้ น้ำตาเอ่อซึมออกมาบางๆ แม้ต้องจากนางไปไกล แต่ทั้งหมดก็เพื่ออนาคต... วูบหนึ่ง ใบหน้าคมคายของภพธรผ่านเข้ามาในความคิด เด็กสาวหลับตาแน่น พยายามปัดภาพความทรงจำที่มีเขาออกจากความคิดของตนโดยเร็ว พร้อมกับสัญญาเอาไว้อย่างแน่วแน่ว่าสักวัน หล่อนจะทำให้พวกเขาทุกคน สำนึกได้ว่าแม้หล่อนจะเป็นเพียงดอกหญ้า แต่พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเหยียบย่ำซ้ำเติม เพราะหล่อนจะเป็นดอกหญ้าที่เข้มแข็ง ไม่ว่าจะร้อนหรือจะหนาว จะฝ่าฟันไปให้ถึงจุดหมายปลายทางที่วาดฝันไว้ ทั้งภพธรและคุณนายงามตา จะได้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้เหนือไปกว่าดอกหญ้าเช่นหล่อนเลยสักเพียงนิด...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD