ตอนที่6

1293 Words
วันต่อมา มหาลัยE คลาสเรียน 15:30น. เอริ ฐิติมน…. พรึบ “เห้อ”ฉันผ่อนลมหายใจออกมาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้เพราะมันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วน่ะสิ ฉันไม่มีกระจิตกระใจจะเรียนในคลาสนี้เลย เพราะฉันเอาแต่คิดเรื่องเงินและงานที่ฉันจะทำเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอมยังไง และงานอะไรที่จะได้เงินไวๆและได้เงินเยอะๆเงินหลักแสนสำหรับเด็กกำพร้าที่ต้นทุนชีวิตต่ำแบบฉันมันเป็นเงินที่มีมูลค่าสูงมากจริงๆแค่งานที่ฉันทำทุกวันนี้เงินก็แทบจะไม่พอแล้วไหนจะค่ากินค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าแฟลตค่า ค่าเทอมค่าอะไรต่างนาๆที่มันเกินตัวของฉันไปมาก เด็กอายุยี่สิบที่ดิ้นรนหาเงินหลักแสน “ได้ข่าวว่าเมื่อคืน…ขุนศึกเดินไปส่งเธอถึงที่แฟลตเลยเหรอ?”เสียงกระซิบเชิงแซวๆฉันดังมาจากเพลงขวัญเพื่อนสนิทที่สุดของฉันในรั้วมหาลัยเอกชนที่อยู่ในเพื่อนแก๊งเดียวกับฉันซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับเพื่อนๆของขุนศึกนั้นแหละ ที่เพลงขวัญรู้คงเป็นเพราขุนศึกคงจะบอกเพื่อนๆเขาที่เป็นเพื่อนของฉันเหมือนกัน เห็นว่าวันนี้เขามาไม่ไหวเพราะแพ้ขนหมีจนคันเป็นผื่นแดงขึ้นทั้งตัวแล้วไหนจะต้องเดินตากน้ำค้างตอนกลางคืนที่เขาเดินไปส่งฉันที่แฟลตและไหนจะต้องเดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อที่เขาเอารถไปจอดทิ้งไว้อีก ซึ่งระยะทางก็หลายกิโลเมตรอยู่แล้ว แล้วใครใช้ให้เขาทำล่ะ เขาอยากทำมันเองหนิ ฉันไม่ได้บังคับซะหน่อยเขาเลือกเองทั้งนั้น….. “อืม…”ฉันตอบเพลงขวัญไปเสียงแผ่วเบา “เขามองดูชอบเธอมากเลยนะเอริ…”เพลงขวัญบอกฉันอีกพลางยิ้มหวานให้ฉัน ฉันก็ทำหน้าเอือมๆให้เธอไปผู้ชายคาสโนว่าตัวพ่ออย่างขุนศึกก็ชอบผู้หญิงไปทั่ว มั่วไปทั่วนั้นแหละ “เขาก็ชอบผู้หญิงทุกคน….”ฉันแย้งเพลงขวัญไปตามความจริงเพราะขุนศึกชอบผู้หญิงทุกคนจริงๆ ซึ่งฉันก็พอจะได้ยินชื่อเสียงของเขาผ่านหูมาบ้าง ผู้ชายที่หล่อหน้าตาดี รวยขนาดนั้นมีเหรอที่จะไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขาน่ะ “ก็ใช่…แต่เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ”เพลงขวัญตอบฉันกลับมา ฉันก็มองหน้าเธอพลางขมวดคิ้วงุนง งฉันไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆเหรอยังไงกัน ฉันก็เป็นผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ผิดแปลกไปที่ฉันมีรูปร่างและผิวที่ขาวใสที่อมชมพูเกินกว่าผู้หญิงไทยทั่วไปเพราะฉันจะออกไปแนวทางผู้หญิงญี่ปุ่นมากกว่า ผิดก็แค่ที่ตาของฉันเป็นสองชั้น “ไม่เหมือนยังไงเหรอ…?”ฉันถามเพลงขวัญไปอย่างสงสัยพลางขมวดคิ้วจ้องหน้าเพลงขวัญ เธอก็ยิ้มกริ่มออกมา “ก็เธอไม่ชอบเขาน่ะสิ…”เพลงขวัญว่าพลางยิ้มให้ฉันอย่างเอ็นดู ฉันกับเพลงขวัญเราสนิทกันมากเลยล่ะ ฉันรู้จักเธอเมื่อตอนปีหนึ่งตอนรับน้อง เธอมีนิสัยดีเฟรนลี่เลยทำให้เรารู้จักกันและสนิทกันในที่สุด และที่สำคัญเธอมีแฟนแล้ว เธอเป็นเด็กเสี่ยที่ร่ำรวยสุดๆและเธอก็เป็นเด็กยากจนเหมือนฉันนี่แหละ “เธอก็รู้…ว่าขุนศึกเป็นคนยังไง?”ฉันบอกขวัญไปเธอก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะเพื่อนๆในกลุ่มและคนอื่นๆรู้จักนิสัยของขุนศึกดีไม่งั้นเขาจะถูกเรียนขานว่าคาสโนว่าตัวพ่อเหรอ?เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่เคยคบใครเป็นตัวเป็นตน จีบทิ้งๆขว้างๆพอได้แล้วก็ทิ้ง “ใช่…เธอพูดอีกก็ถูกอีก…”เพลงขวัญว่าพลางทำสีหน้าคุ้นคิดฉันก็ยิ้มบางๆให้เธอ “ความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์?”ฉันพึมพำขึ้นอย่างคิดไตร่ตรองความสัมพันธ์นี้ ถึงจะไม่ใช่การขายตัวเหมือนพวกเด็กไซด์ไลน์ที่เด็กๆในมหาลัยของฉันบางคนก็เลือกเดินเส้นทางนี้ เงินดีงานสบายใครๆก็ชอบทั้งนั้น แต่เมื่อก่อนฉันอาจจะเถียงและมั่นคงกับคำตอบของตัวเองมากว่าไม่ใช่ฉันแน่นอนที่เลือกอาชีพสบายๆที่ขายศักดิ์ศรีแบบนั้น แต่มาวันนี้ฉันหมดหนทางแล้วจริงๆ “เมื่อวานอาจารย์เรียกเธอไปทำไมเหรอ?”เพลงขวัญหันมาเอ่ยถามฉัน ฉันที่ห่วงคิดเรื่องเงินอยู่จึงหันไปมองหน้าเธอด้วยสีหน้าเหวอๆและงุนงงเพลงขวัญเลยเอ่ยถามฉันใหม่อีกรอบ “เมื่อวานอาจารย์เรียกเธอไปทำไมเหรอ?” “อ้อ….เรื่องค่าเทอมน่ะ…เขาแจ้งว่าทางมหาลัยของเพิ่มค่าหน่วยกิต..” “เห้อ…เพิ่มอีกล่ะ…นี่เสี่ยก็บ่นฉันอุบแล้วเนี่ย..”เพลงขวัญว่าพลางทำสีหน้าหงุดหงิด ฉันก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มบางๆให้เธอ “เสี่ยให้เงินเดือนเธอ...เดือนละเท่าไหร่เหรอ?” “ก็สองสามแสนอ่ะ…แต่ค่าช้อปปิ้งต่างหากนะ^_^” “อืม…” “ถามทำไม…อย่าบอกนะ…ว่าสนใจจะเป็นอิหนูของเสี่ยแบบฉันบ้างน่ะ?”เพลงขวัญมองหน้าฉันทำแววตาลุกวาว เพราะเธอเคยชวนฉันให้ไปทำความรู้จักกับเพื่อนเสี่ยๆของเธอแต่ฉันก็ปฏิเสธเธอไปทุกครั้ง “บางที…ฉันก็ควรจะรู้และตัดสินใจได้แล้วถ้ามันอยู่ในเวลาที่ขับขันจริงๆ”ฉันตอบเพลงขวัญไป เธอก็มองหน้าฉันด้วยสีหน้าให้กำลังใจเธอเอื้อมมือมาจับมือฉันเพื่อให้กำลังใจฉัน ใช่ฉันควรจะตัดสินใจได้แล้ว เพราะศักดิ์ศรีของฉันต้องเสียไปเพื่อแลกกับอนาคตของตัวฉันเองฉันก็จะไม่เสียใจหรอก…มั้ง… สนามบาสเกตบอล คณะบริหารธุรกิจ… 18:30น. พรึบ “ฟิว!” “หะห๊ะ?”ฟิวที่กำลังเดินออกมาจากสนามบาสด้วยท่าทางเหนื่อยล้าและเหงื่อโทรมกายเอ่ยขึ้นอย่างตกใจที่ฉันมายืนรอและดักหน้าเขาทำให้เขาตกใจกับการมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงของฉัน “นายรู้ไหมว่าคืนนี้…ขุนศึกจะออกไปเที่ยวผับไหนหรือไปไหนรึเปล่า…” “เขาจะออกจากบ้านไหม?” “หรือว่าถ้าเขาออกเที่ยวเขาจะไปตอนไหน”ฉันเอ่ยถามฟิวรัวเป็นชุดเขสก็กระพริบตาปริบๆมองหน้าฉันก่อนจะอ้าปากหวอเพราะไม่รู้จะตอบคำถามไหนของฉันก่อน “เอ่ออ”ฟิวอ้ำๆอึ้งๆ “ฟิว…”ฉันเอ่ยเรียกเขาเสียงแผ่วเบาพลางจ้องหน้าเขาด้วยแววตาอ้อนวอนขอร้องเพราะคำตอบของเขามันเป็นผลกับชีวิตและอนาคตของฉันต่อจากนี้มากจริงๆ เพราะใกล้จะถึงกำหนดจ่ายค่าเทอมทั้งหมดของฉันแล้ว “คืนนี้ไอ้ขุนนัดพวกฉันที่ผับแอลอ่ะ…” “สี่ทุ่ม…โต๊ะเก้า..” “ขอบคุณนะ…”ฉันยิ้มบางๆให้ฟิว “อืม…”ฟิวก็ยิ้มแหยๆให้ฉัน “งั้นเราไปก่อนนะ..”ฉันบอกฟิวพลางยกมือโบกบ๊ายบายลาเขา “ครับ…”ฟิวตอบรับฉันก่อนจะยกมือโบกบ๊ายบายให้ฉันกลับด้วยสีหน้างุนงง ฉันก็เดินหันหลังให้ฟิวและมุ่งหน้ากลับแฟลตเพื่อไปหาชุดสวยๆเพื่อไปดักรอขุนศึกในค่ำคืนนี้….เพราะถ้าฉันจะขายศักดิ์ศรีของตัวเองให้ใครสักคนก็คงเป็นเขาผู้ชายคาสโนว่าเนี่ยแหละ เพราะถ้าเป็นเขาเขาคงจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครแน่ เพราะความสัมพันธ์ที่เกินเลยของเราทั้งคู่จะถูกลบเลือนไปในรุ่งเช้าของอีกวัน.....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD