จุดเริ่มต้น

1486 Words
บทนำ ปาลิน หรือ สปาย คือชื่อของฉัน ฉันที่เกิดมาในครอบครัวที่พร้อมหน้า แม่เปรียบเสมือนนางฟ้าที่เป็นทุกอย่างของฉัน ส่วนพ่อ แม้จะไม่มีความเป็นผู้นำ เพราะติดเหล้าหนัก แต่พ่อก็รักฉันที่สุด นอกจากพ่อและแม่ ฉันก็มีน้องชายที่เป็นทุกอย่าง ไม่เกเร อยู่ในกรอบที่พ่อกับแม่วางไว้ แค่นั้นสำหรับฉัน ก็ถือว่ามันดีมาก ปัญหาครอบครัว ฉันเชื่อว่าทุกบ้าน ต่างก็เคยมีปัญหาแบบนี้กันทั้งนั้น พ่อดื่มเหล้า เมาแล้วมาทะเลาะกับแม่ นี่คือหนึ่งปัญหาที่เกิดในบ้านของฉันซ้ำๆ แม่ต้องเป็นเสาหลัก เลี้ยงครอบครัว ส่งลูกเรียน ทุกอย่างแม่ต้องแบกรับหมดเลย 'อดทนก่อนนะทุกคน ฉันจะตั้งใจเรียน จบมาจะได้มีงานดีๆ ทำ ฉันนี่แหละจะเลี้ยงทุกคนเอง' นี่คือสิ่งที่ฉันย้ำกับตัวเองมาโดยตลอด บ้านฉันไม่ได้ร่ำรวย พ่อแม่ไม่ได้มีทุกอย่างให้ แต่กำลังใจ กำลังกาย ที่ท่านให้ฉันมาโดยตลอด จะผลักดันให้ฉันไปถึงฝั่งฝันให้ได้ในสักวัน "แม่ ปายจะไปเรียนแล้วนะ" ฉันคว้ากระเป๋าเป้มาสะพายหลัง ทุกครั้งที่ฉันเอ่ยคำนี้ แม่จะรู้ดี ว่าฉันหมายความว่ายังไง "แม่มีแค่นี้ พอไหม" ธนบัตรแบงค์สีม่วงที่อยู่ในมือแม่ ทำให้ฉันใจหายวาบ แม้ฉันจะบอกตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน สุดท้ายแล้ว คนเราก็สามารถผลักดันตัวเองให้ไปอยู่ในจุดที่ต้องการได้ แต่สุดท้ายแล้วมันก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้อยู่ดี เพื่อนของฉันทุกคน มีเงินไปโรงเรียนมากกว่าฉันเป็นสิบเท่า พวกเขาสามารถกินอะไรก็ได้ที่อยากกิน แตกต่างจากฉัน ที่ต้องเลือกกิน ให้เพียงพอกับจำนวนเงินที่มี "แม่ กายจะไปเรียนแล้วครับ" ประวิทย์ หรือสกาย น้องชายเพียงคนเดียวของฉันที่เอ่ยคำนั้น พร้อมกับการก้าวขาลงมาจากบันได ยิ่งทำให้สีหน้าของแม่สลดลง "งั้นแม่แบ่งให้สกายก็แล้วกัน ไว้วันไหนที่แม่มีตังค์ ปายค่อยจ่ายค่ารายงานให้เพื่อนละกัน" "ได้เหรอลูก ไม่เป็นไรนะ แบ่งๆ กับน้องก็ได้ หมดก็ไม่เป็นไร ไว้เดี๋ยวแม่หาใหม่" ฉันรู้ว่าแม่แค่พูดให้กำลังใจ พูดไปเพื่อให้ฉันสบายใจ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว แม่ฉันเหนื่อยจะตาย "วันนี้ปายไม่เอาตังค์ค่ะ ตอนเย็นเจอกันนะคะ ไปเรียนแล้วค่ะแม่ สวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้แม่ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งแบบที่ชอบทำ จากนั้นก็หมุนตัวออกมาจากบ้านทันที จริงๆ วันนี้ฉันต้องจ่ายค่ารายงาน ลำพังขอแม่ทุกวัน แม่ก็ไม่รู้จะหาที่ไหนให้อยู่แล้ว ฉันคงต้องพึ่งพาตัวเอง @โรงเรียนมัธยม "ทำไรอ่ะ" เสียงทักทายของคนข้างๆ ทำให้ฉันละสายตาออกจากสมุด แล้วหันมองเจ้าของเสียงทันที "รับจ้างทำงานให้พวกนั้นอีกแล้ว?" "ชู่ววว เบาๆ สิฉาย เดี๋ยวอาจารย์มาได้ยิน" ฉันคีบปากาน้ำหมึกสีน้ำเงินมาจรดที่ริมฝีปาก เป็นการส่งสัญญาณให้อีกคนเงียบ ตะวันฉาย หรือฉาย เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเดียวกับฉัน และที่สำคัญ เราคบกัน "ลำพังแค่งานตัวเองก็เยอะจะแย่ ไม่ต้องทำเลยปาย นิ้วพองไปหมดแล้วเนี่ย" จบคำ ตะวันฉายก็แย่งสมุดพวกนั้นออกไปจากฉัน แต่คิดว่าฉันจะยอมเหรอ "ไม่นะฉาย สมุดสามเล่มที่นายกำลังแย่งไป มันทำเงินให้ฉันหลายบาทเลยนะ" "แล้วมันคุ้มกับที่นิ้วเธอพองแบบนั้นไหมล่ะ เธอรับค่าจ้างมาเท่าไหร่" "ฉาย..." ฉันเอ่ยชื่อหมอนั่นอย่างเหนื่อยใจ ตะวันฉายเป็นผู้ชายที่ดื้อมาก และไม่เคยยอมใครเลยจริงๆ "เท่าไหร่ปาย ตอบ" "สิบหน้าพันหนึ่ง" ฉันตอบอย่างขัดใจ "ฉันให้เธอห้าพัน แล้วเอาสมุดไปคืนเพื่อนซะ" "บ้า ไม่เอา สามเล่มฉันได้ตั้งสามพัน แล้วอีกอย่าง ฉันไม่เอาตังค์นาย" "ทำไมต้องแคร์ เธอเป็นแฟนฉัน แล้วทำไมฉันจะให้เธอไม่ได้!" จบคำ ตะวันฉายก็แย่งปากกาออกไปจากมือฉัน พร้อมทั้งรวบสมุดทั้งหมดไปกอดไว้แล้วเดินผ่านหน้าฉันไปทันที "ฉาย..." ฉันได้แต่มองตามหมอนั่นตาละห้อย ฉันกับหมอนี่เราคบกันตั้งแต่เรียนม.5 แม้จะเป็นการคบหากันแบบเด็กๆ แต่หมอนี่ก็ทำตัวน่ารักกับฉันเสมอ ไม่เคยปล่อยให้ใครมาเอาเปรียบกันง่ายๆ ไม่ยอมให้ฉันใช้ความรู้ที่ฉันมี เพื่อไปทำงาน ให้เพื่อนคนไหนได้เอาไปส่งครูได้ง่ายๆ เหมือนอย่างเทอมที่แล้ว ตอนที่ฉันลำบาก แล้วฉันแอบทำแบบนั้น จากที่การเรียนของฉัน โดดเด่น จนสอบได้ที่หนึ่งเป็นประจำ และไม่เคยมีใครมีคะแนนเทียบเท่าฉัน เพื่อนหลายๆ คนที่ใช้งานฉัน คะแนนจึงเกือบติดอันดับฉัน ทั้งที่ผ่านมาเพื่อนเหล่านั้นไม่ได้ตั้งใจเรียนเลย หลังจากที่ตะวันฉายเอาสมุดไปคืนเพื่อนพวกนั้นจนครบถ้วน หมอนั่นก็เดินกลับมาอีกครั้ง พร้อมทั้งยื่นธนบัตรแบงค์สีเทาให้ฉันสองใบ "สามพันที่เธอได้มา ฉันคืนพวกนั้นให้เธอแล้ว ส่วนที่เหลือเธอเก็บเอาไว้ ถือว่าฉันให้เธอ" "เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้สักทีฉาย" "แล้วเธอล่ะ เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้สักที พวกนั้นเอาเปรียบเธอจะตาย งานยากฉิบหาย พวกนั้นทำไม่ได้ มันก็เลยมาใช้เธอไง" "..." "รับปากฉันเลยนะปาย ทีหลังจะไม่ทำแบบนี้อีก" "..." "สปาย!" "อื้อ รู้แล้วล่ะน่า" ฉันพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ หมอนี่ชอบขัดฉันเป็นประจำเลย "ที่ยอมทำงานให้เพื่อน แลกกับเงินค่าจ้าง วันนี้ไม่มีเงินมาโรงเรียน?" "อื้อ" ฉันตอบตรงๆ ตะวันฉายรู้อยู่แล้ว ว่าบ้านฉันจน แตกต่างจากบ้านของเขาโดยสิ้นเชิง "ไม่มีเงินแล้วทำไมไม่บอกฉัน มีปัญหาทำไมไม่ยอมเล่าให้ฉันฟัง" "เพราะฉันรู้ไง ว่าถ้าฉันเล่า นายก็จะหาทางช่วยฉันอยู่ดี" "แล้วเราคบกันเพื่อ?" "..." "เราคบกันเพราะเรารู้สึกดีต่อฉัน ฉันรู้สึกดีกับเธอ เธอรู้สึกดีกับฉัน เราจะเป็นกำลังใจให้กันและกัน และเราจะผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน" นี่คือสิ่งที่ตะวันฉายพูดกับฉันมาโดยตลอด "ฉันรู้ว่านายหวังดีกับฉัน แต่ฉันก็ไม่อยากรบกวนนายทุกครั้ง" "แม่ฉันเป็นครู แม่ฉันบริจาค แม่ฉันมอบทุนเพื่อการศึกษาให้แต่ละโรงเรียนไม่ใช่น้อยๆ ถ้าแม่ฉันรู้ ว่าฉันช่วยเธอ ผลักดันเธอในเรื่องการเรียน ฉันเชื่อว่าแม่ฉันจะไม่มีวันเสียใจ" มันไม่มีเหตุผลไหน ที่ทำให้ฉันปฏิเสธผู้ชายที่ชื่อตะวันฉาย ฉันรู้ ว่าฉันกับหมอนี่ต่างกันมาก แต่ที่ผ่านมาเขาก็ทำให้ฉันเห็นว่า เขาไม่ได้คบกันที่ฐานะเลย "ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า เธอก็รู้ ว่าบ้านฉันรวยจะตาย ฉันจะเป็นตะวันฉายสายเปย์ให้เธอไปตลอดเลย" หมอนั่นขยิบตาใส่ฉัน ฉันโชคดีจัง ทั้งที่หมอนี่มีดีทุกอย่าง เขาฮอตมาก หล่อมาก และรวยมาก แต่กลับมาเลือกคบผู้หญิงแบบฉัน "ขอบใจนายมากนะ ขอบคุณด้วยที่ดีกับฉัน" "เคครับ ว่าแต่ คณิตศาสตร์ส่งยัง ขอลอกหน่อยดิ" คนพูดหรี่ตามองพร้อมกับยิ้มแห้งๆ "ตลอดเลย หาเวลาว่างให้ฉันเลยนะ ฉันจะติวคณิตศาสตร์ให้นาย" "ไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์ ชอบวิชาเพศศึกษามากกว่า" "อย่ามาทะลึ่งกับฉันนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะใช้ปากกาทิ่มตานาย" "ใจร้าย คนสวยอะไร ใจร้ายชะมัดเลย" "เดี๋ยวเถอะ" ฉันมองค้อนใส่คนตัวสูงกว่า ในขณะที่หมอนั่นเอาแต่ขยิบตาใส่ฉัน คนทั้งโรงเรียน เขารู้กันหมดว่าเราคบกัน บ้างก็ว่าฉันโชคดีมาก บ้างก็ว่าอิจฉาฉัน บ้างก็ว่าหมอนั่นตาต่ำ บ้างก็ว่าเราไม่สมกันเลย แต่ทุกอย่างเหล่านั้น ล้วนถูกสร้างขึ้นมาจากความคิดคนอื่นทั้งนั้น ตะวันฉายบอกฉันเสมอ ว่าฉันไม่ควรเก็บมาใส่ใจ ----------- เริ่มต้นคบหาจากรั้วโรงเรียนมัธยม ฝากกดไลค์ ฝากคอมเมนต์ให้เนมหน่อยนะคะ อ้อนๆ ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD