08 เลิกเล่นละคร

1304 Words
08 เลิกเล่นละคร @หลายวันต่อมา เสียงฝีเท้าของชายฉกรรจ์หลายคนก้าวเข้ามาภายในบ้านก่อนที่ชายชรารูปร่างผอมโซค่อยๆก้าวเท้าลงมาจากรถตู้ โดยมีลูกน้องคนสนิทช่วยประครองร่างเอาไว้ เหตุผลที่ร่างกายของเขาผอมโซ เป็นเพราะคิดถึงลูกชายคนเล็กจนตรอมใจ แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านมาเกือบสองปีแล้ว แต่ความแค้นของคนเป็นพ่อยังฝังลึกอยู่ในใจ “ความจริงพ่อไม่ต้องมาก็ได้นะครับ ฮ่องกงอยู่ใกล้แค่นี้เอง ผมนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปก็ได้” “ที่พ่อมาเพราะพ่ออยากมาดูให้เห็นกับตาว่าแผนของเจ้าไปถึงไหนแล้ว” อีวานค่อยๆหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟาหรูภายในบ้านหลังใหญ่ที่อีริคเป็นคนซื้อเอาไว้ แม้กระทั่งเมริษาเองก็ไม่รู้ว่าเขามีบ้านที่เมืองไทย เพราะเขาตั้งใจให้เธอรับรู้เรื่องราวทุกอย่างแค่เพียงผิวเผินเท่านั้น “ก็เหมือนที่ผมรายงานพ่อทุกวันนั่นแหละครับ” “แต่นี่ก็ผ่านมาเกือบสองปีแล้วนะ ลูกกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบๆทำให้จบแล้วรีบกลับฮ่องกงซะ” “ผมพยายามแล้วครับ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมพาผมไปเจอที่บ้านสักที” ที่เขาคะยั้นคะยออยากให้เมริษาพาไปเปิดตัวกับที่บ้านเพราะเขาจะได้ถือโอกาสนี้ตามสืบว่าเงินทั้งหมดที่พวกมันสูบจากอาร์เธอร์ไป อยู่ที่ไหน “ไม่ใช่ว่าเจ้ากำลังติดใจแม่นั่นอยู่หรอกนะ” อีวานหรี่ตามองลูกชายคนโตด้วยสายตาไม่ไว้ใจ ปกติคนอย่างอีริคไม่เคยอดทนกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักนานขนาดนี้ กลัวว่าอีริคจะหลงเสน่ห์ผู้หญิงไทยอีกคน บอกตรงๆว่าเขาไม่มีทางเลือกลูกสะใภ้ที่มาจากตระกูลวรโชติเมธีแน่นอน “ผมแค่กำลังทำตามแผนอยู่ครับ ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีอะไรน่าพิศวาทเลยด้วยซ้ำ” “ให้มันจริงเถอะ พ่อกลัวว่าเจ้าจะเป็นเหมือนน้องอีกคน” “พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมกับอาร์เธอร์ไม่เหมือนกัน ผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น ไม่เคยรัก และจะไม่มีวันรักเด็ดขาด” อีริคเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เมริษาเป็นได้แค่ทางผ่าน พอหมดผลประโยชน์ก็คงไม่ต่างอะไรจากหมาตัวหนึ่ง “พูดแบบนี้พ่อค่อยสบายใจหน่อย” อีวานกระตุกยิ้มมุมปาก ตอนแรกคิดว่าอีริคจะโดนแม่นั่นหว่านมนต์เสน่ห์ใส่แล้วซะอีก “พ่อจะไม่มีวันรับลูกสะใภ้จากตระกูลเห็บไรนี้เด็ดขาด ใครก็ได้…ที่ไม่ใช่คนพวกนี้” “ครับพ่อ” อีริคขานรับเบาๆ “แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อ พ่อไม่ได้มีชีวิตยืนยาวขนาดนั้นนะ พ่ออยากให้นังเสรเลวนั่นได้รับกรรมที่มันทำสักที” “อีกไม่นานเกินรอหรอกครับ ผู้หญิงที่ชื่ออามีนาจะกลับเมืองไทยอาทิตย์หน้า” มุมปากหยักของอีริคแสยะยิ้มเบาๆ ถึงเวลาที่เขาต้องเผยธาตุแท้ออกมาสักที ถือว่าเขาอดทนเล่นละครมาตั้งนานแต่เมริษาก็ยังไม่เคยพาเขาเข้าบ้านสักที หลังจากนี้เขาคงไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเธอแล้วแหละ เพราะอามีนากำลังจะกลับมา! “ถึงเวลาที่ผมต้องเลิกเล่นละครตบตาผู้หญิงหน้าโง่สักที” “ดีแล้ว ถ้าเป้าหมายกลับมาก็เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นซะ พ่อไม่อยากให้ลูกเอาตัวเข้าไปพัวพันนาน” “ไม่ต้องห่วงครับ อะไรก็ตามที่พอหมดผลประโยชน์ก็จะดูไร้ค่าทันที ผมเองก็รู้สึกเบื่อๆแล้วเหมือนกัน ถือว่าผมมีความอดทนมากที่ทนผู้หญิงคนนั้นมาได้ตั้งหลายเดือน” “เจ้าจงจำคำของพ่อเอาไว้นะอีริค อย่าหลงละเลยจนลืมความเจ็บปวดของน้องเด็ดขาด รีบจบเรื่องนี้แล้วรีบกลับบ้านซะ ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป” อีวานเตือนลูกชายด้วยความเป็นห่วง ขึ้นชื่อว่ามารยาหญิงต่อให้แข็งแกร่งมาจากไหนสุดท้ายก็พ่ายแพ้ได้อยู่ดี ดังนั้นอีริคต้องรีบจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด! อีกฟากหนึ่ง... พอสอบวิชาสุดท้ายเสร็จเพื่อนๆในกลุ่มนัดเลี้ยงฉลองหลังเรียนจบที่ไนท์คลับหรูใจกลางเมือง แต่เมริษาก็เลือกปฏิเสธเพื่อนๆไปเพราะไม่อยากเที่ยวกลางคืน กลัวว่าอีริคจะไม่ชอบ แต่วันนี้รู้สึกแปลกๆเธอโทรหาอีริคตั้งแต่เช้า แต่ก็ติดต่อไม่ได้สักที หลังสอบเสร็จคิดว่าเขาจะส่งข้อความกลับมา ปรากฏว่าก็ยังเงียบกริบ หรือว่าวันนี้เขางานยุ่ง? “หายไปไหนกันนะ” เมริษาหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาแฟนหนุ่มอีกรอบ แต่โทรยังไงก็โทรไม่ติด สงสัยวันนี้เขาคงติดงานด่วนตั้งแต่เช้า เธอจึงตัดสินใจนั่งแท็กซี่กลับบ้านโดยไม่ได้รอให้อีกฝ่ายมารับ แต่หารู้ไม่ว่าแฟนหนุ่มของเธอจงใจปิดเครื่อง เพื่อไม่ให้เธอติดต่อได้ และกลางดึกของคืนนั้นกลุ่มเพื่อนก็มารวมตัวกันที่ไนท์คลับหรูใจกลางเมืองโดยไม่มีเมริษามาด้วย “แกโทรชวยยัยเมษาหรือยังพิมพ์” วาสิตาเอ่ยถามพิมผกาเพราะคิดว่าอีกฝ่ายโทรชวนเมริษาแล้ว “ฉันชวนตั้งแต่หลังสอบเสร็จแล้ว แต่เมษาปฏิเสธ สงสัยกลัวแฟนว่า” “นี่แหละหนาคนมีแฟน จะไปไหนมาไหนกับเพื่อนก็ไม่ได้ไป” วาสิตาเบ้ปากด้วยสีหน้าเหม็นบูด ส่วนคนโสดอย่างเธอก็ต้องทำใจต่อไป ไม่มีคนคอยหึงหวงเหมือนคนมีแฟน “เมษาก็เป็นแบบนี้แหละ กลัวพี่อีริคไม่ชอบ กลัวพี่อีริคโกรธ พูดแบบนี้ทุกวัน” “เอาน่าพิมพ์ ตอนนี้เมษากำลังถูกความรักบังตา โลกทั้งใบมีคงแต่สีชมพู ส่วนคนโสดๆอย่างเราไปหาคู่เอาข้างหน้าดีกว่าเนอะ หวังว่าวันนี้จะเจอผู้งานดีนะ” วาสิตาโอบไหล่พิมผกาแล้วเดินตามกลุ่มเพื่อนเข้าไปในร้าน ตั้งแต่เมริษามีแฟนเธอก็เริ่มแยกตัวออกจากกลุ่ม ไปค่อยไปไหนมาไหนกับเพื่อน คอยดูเถอะ! อกหักเมื่อไหร่แม่จะซ้ำเติมซะให้เข็ดเลย แต่ในระหว่างที่เพื่อนๆกำลังเลือกโต๊ะกันอยู่นั้น จู่ๆหางตาของวาสิตาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีลักษณะคุ้นหน้าคุ้นตาคล้ายๆแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิท กำลังนั่งดื่มอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชายโดยมีผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งอยู่ข้างกาย “เดี๋ยวก่อนยัยพิมพ์! นะ…นั่นคุณอีริคแฟนยัยเมษาปะ” วาสิตาชี้ไปยังผู้ชายชุดดำที่นั่งอยู่ในมุมมืด “ใช่! นั่นคุณอีริคแฟนยัยเมษาจริงๆด้วย เขามาทำอะไรที่นี่” “ก็มาดื่มสิถามได้ แล้วนี่ยัยเมษารู้หรือเปล่าว่าแฟนแอบมาเที่ยว” “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ยัยเมษาเคยบอกฉันนะว่าคุณอีริคเป็นคนบ้างาน ไม่ชอบดื่มเหล้า ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน แล้วที่เห็นอยู่ตรงนั้นคืออะไร” สองสาวหันมามองหน้ากันแล้วเกิดความสงสัย เพราะอีริคดูสนิทกับพนักงานในร้านเหลือเกิน แสดงว่าเขาต้องมาที่นี่บ่อยมากแน่ๆ วาสิตาหยิบมือถือขึ้นมาแอบถ่ายแล้วส่งไปให้เพื่อนสนิทดู ให้เห็นถึงพฤติกรรมของแฟนหนุ่มว่าเขาร้ายกาจกว่าที่คิด “บอกแล้วว่าฉันดูคนไม่ผิด คราวนี้ยัยเมษาได้ตาสว่างแน่!” ——————
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD