หลังแยกกับแม่และเข้ามาในห้องนอน หมวยลี่ก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาโมมายด์ทันทีเพื่อขอบคุณ ก่อนจะถาม ว่ารู้ได้ยังไงเรื่องที่เธอไม่ได้กลับบ้าน
(ฉันเห็นแกไปกับเฮีย)
ได้ยินอย่างนั้นลมหายใจของร่างเล็กก็สะดุดขาดห้วงไปวูบหนึ่ง น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความสงสัย
“ทำไมคิดว่าลี่จะไม่กลับล่ะ”
(ไม่รู้สิ อาการแกแปลก ฉันแค่โทรไปบอกเผื่อไว้)
“ขอบคุณนะมายด์”
(มีอะไรจะบอกฉันไหมลี่)
สิ้นสุดประโยคของเพื่อนสายก็เงียบไปพักหนึ่ง หมวยลี่เม้มปากแน่น เธอรู้ว่าโมมายด์ไม่ได้ต้องการเค้นเอาคำตอบ เพราะคงรู้ดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอและค่าย
“มายด์รู้อยู่แล้ว ทุกอย่างที่มายด์คิดเป็นจริงทั้งหมดเลย ลี่ไม่รู้จะเล่าอะไร”
(ทำไมถึงตัดสินใจแบบนั้น รู้ตัวไหมว่ากำลังเป็นของเล่นของเขา)
“รู้สิ ลี่รู้ดี”
(ยอมงั้นเหรอ)
“ลี่รักเฮีย ตอนนี้รักมากกว่าเดิมซะอีก ทำยังไงดีมายด์”
(หมวยลี่ แกพลาดมากเลยรู้ตัวไหม)
คำเตือนนั้นทำให้มือเล็กเผลอกำโทรศัพท์แน่น หัวใจที่เหมือนจะดีขึ้นกลับปวดหนึบขึ้นมาอีกครั้ง เธอสูดหายใจเบา ๆ แล้วเอ่ยตอบเสียงแผ่ว
“ไม่ใช่เลยมายด์ มันไม่ใช่ความผิดพลาด ลี่ตั้งใจ”
(คิดอะไรอยู่)
“โกรธใช่ไหม ผิดหวังในตัวลี่หรือเปล่า”
(ชีวิตของแก ฉันแค่เป็นห่วง)
“ลี่รักเฮีย”
(อือ รู้แล้ว)
หลังจากวางสาย หมวยลี่ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ความเจ็บปวดที่ยังหลงเหลือตามร่างกายทำให้เธอตัดสินใจเอนตัวลงบนเตียงเพื่อพักผ่อน
เมื่อคืนไม่รู้เลยว่าหลับไปตอนไหน กิจกรรมที่เกิดขึ้นมันยืดยาวจนทนไม่ไหว ทั้งที่มันเป็นครั้งแรกของเธอแท้ ๆ แต่ความรุนแรงจากค่ายกลับไม่เคยมีคำว่าปรานี
ช่วงค่ำ
ขณะที่กำลังอาบน้ำ กระจกสะท้อนเผยให้เห็นร่องรอยบนตัวจากฝีมือของค่าย รอยแดงราวกับตราประทับที่เขาทิ้งไว้ หมวยลี่มองมันด้วยความรู้สึกดี พลางใช้มือลูบวนบนรอยนั้นซ้ำไปมา
“อะ” ระหว่างถูฟองสบู่ มือเผลอถไปโดนจุดที่ยังช้ำระบมอยู่ เสียงอุทานหลุดออกมาด้วยความเจ็บ พร้อมกับร่างที่สะดุ้งเล็กน้อย
มีวูบหนึ่ง ที่ภาพเหตุการณ์บนเตียงเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัว ทำเอาเธอร้อนผ่าว พยายามไล่ภาพเหล่านั้นออกจากความคิด
หมวยลี่รีบต่อว่าตัวเองในใจที่ดันคิดเรื่องลามกแบบนั้น ก่อนจะสูดหายใจลึก ๆ แล้วอาบน้ำต่อจนเสร็จ
ร่างเล็กนุ่งกระโจมอกออกมาจากห้องน้ำ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียงถูกหยิบขึ้นมา ที่ผ่านมาค่ายไม่ได้ส่งข้อความหาเธอบ่อยนัก ซึ่งมันเป็นปกติที่หน้าจอจะไม่มีแจ้งเตือนจากเขา แต่ที่แปลกคือ หมวยลี่กำลังเฝ้ารอ
และสุดท้าย เธอก็รอไม่ไหว
แชต: ค่าย
หมวยลี่: เฮียทำอะไรอยู่คะ
@บริษัททรัพย์หิรัญสกุล
ติ้ง~ เสียงแจ้งเตือนที่ดังขึ้น ทำให้มือที่กำลังเซ็นเอกสารอยู่ชะงักนิ่ง สายตาคมกริบเหลือบมองหน้าจอที่ปรากฏชื่อของกระตายตัวน้อยที่เขาเพิ่งไล่ต้อนเข้ากรง มุมปากหยักยกยิ้มบาง ๆ ทว่าไม่แม้แต่จะหยิบมันขึ้นมาอ่าน
“วันนี้คุณโบว์บินไปฮ่องกงครับ”
“อืม” ด้ามปากกาในมือถูกวางลงบนกระดาษขาว ก่อนที่ร่างสูงจะเอนหลังไปพิงกับเก้าอี้ตัวใหญ่ ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและนิ่งเฉย ยากที่จะคาดเดาอารมณ์
“ให้ผมส่งคนตามไปไหมครับนาย”
“ช่วยคิดทีสิธัน ว่าฉันควรทำแบบนั้นหรือเปล่า”
แม้จะรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก แต่ธันวาไม่เคยรู้เลยว่าค่ายกำลังคิดอะไรอยู่ เขาถูกสั่งให้ตามติดอดีตคนรักของเจ้านายอย่างเงียบ ๆ มาพักหนึ่ง โดยไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงเลยว่าทำไปเพื่ออะไร
“คิดว่าเธอจะไปทำไมที่ฮ่องกง” มือหนาพลันกำแน่น แววตาฉายแววอารมณ์ที่ร้อนระอุภายใน เขาถามลูกน้องคนสนิททั้งที่รู้ดีว่าอดีตคนรักไปหาใคร
เธอบอกกับเขาว่าจะเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้น ไม่รู้ว่ากี่ครั้งที่เขาเชื่อคำหลอกลวงนั้น ในขณะที่เธอไม่เคยทำมันได้เลย
หลายครั้งที่ยอมมองผ่าน และยึดติดกับเธอมากเกินไปจนกลายเป็นคนโง่ แต่ตอนนี้เขาอยากปล่อยวางจากความรู้สึกที่ถูกทรยศมาตลอด
ถึงอย่างนั้น ค่ายกลับไม่เข้าใจตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่
“อยากดื่มชาสักแก้วไหมครับ ผมจะไปชงมาให้”
“ไม่ ฉันจะกลับ”
“เอ่อ… แล้วเรื่องคุณโบว์”
ค่ายถอนหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ส่งคนตามไป”
ทันทีที่พูดจบ ขาแกร่งก็ก้าวตรงไปยังประตู ทว่าก่อนจะเปิดออก เขากลับหยุดนิ่ง ใบหน้าคมคายค่อย ๆ หันกลับมามองลูกน้องอีกครั้ง ดวงตาคมกริบทอดมองนิ่ง ก่อนที่เสียงทุ้มเข้มจะเปล่งคำถามออกมา
“เธอกินยาคุมหรือยัง”
เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ นั้น คนเป็นลูกน้องก็รู้ดีว่าหมายถึงใคร
“กินเรียบร้อยแล้วครับนาย”
“เห็นกับตา?”
“ครับ”
“อืม”
จากความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นเพราะคนในอดีต แต่เมื่อนึกถึงกระต่ายน้อยสีขาวตัวนั้น อารมณ์ของค่ายก็พลันสงบลงอย่างน่าประหลาด บ่อยครั้งที่เธอคนช่วยเขาให้เย็นลง
“นายครับ เรื่องลี่ ผมว่าอย่าถลำลึกไปมากกว่านี้เลย” ธันวาตั้งใจแล้วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องนี้ แต่เขาก็ห้ามตัวเองไม่ได้ การที่ผู้เป็นนายยังแอบส่งคนตามดูอดีตคนรักอยู่เงียบ ๆ ในขณะที่ตัวเองไปมีพันธะกับลูกสาวแม่บ้าน มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
หมวยลี่เปรียบเหมือนน้องสาวแท้ ๆ ของเขา เพราะเหตุนี้ จึงอดเป็นห่วงไม่ได้เลยจริง ๆ
“งานของมึงคือเสือกเรื่องเจ้านาย?”
“ขอโทษครับ” ธันวารีบก้มหน้า ลงสองมือประสานแน่น เมื่อเห็นแววตาคู่ดุดันของผู้เป็นนาย
“ไม่ใช่กูที่เริ่ม เธอต่างหากที่เลือกเดินเข้ามาในความสัมพันธ์นี้เอง”