ค่ายพยายามสลัดมันทิ้งไป แต่กลับวนเวียนอยู่ในหัว ยิ่งเป็นแบบนี้ เขาก็ยิ่งหัวเสีย หลังจากสูบบุหรี่หมดมวน เขาก็หยิบขึ้นมาจุดสูบอีกครั้งในเวลาไม่นาน ราวกับลืมว่าเพิ่งสูบหมดไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ขณะที่ควันถูกพ่นออกช้า ๆ ผ่านริมฝีปาก โทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั่นเตือนขึ้นมา และเพียงแค่เห็นชื่อสายเรียกเข้า ไฟในอกที่คุกรุ่นอยู่แล้ว ก็ยิ่งถูกกระตุ้นให้ลุกโชนหนักกว่าเดิม ดวงตาคมจ้องเขม็งมองเบอร์ของพ่อที่เด่นชัดบนหน้าจอ ค่ายชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ระหว่างจะกดวางหรือรับสาย และสุดท้าย ก็เลือกที่จะกดรับ แม้ในใจยังเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองก็ตาม (เข้ามาที่บ้านใหญ่) “มีอะไรค่อยคุยวันหลังครับ ผมอารมณ์ไม่ดี” เสียงทุ้มเย็นตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ ทว่าขณะที่กำลังยกบุหรี่ขึ้นมาสูบ มือกลับชะงักกลางคัน เมื่อได้ยินเสียงเหนื่อยล้าของพ่อที่ตอบกลับมา (ค่าย แกไม่เคยรั้นพ่อขนาดนี้เลยนะ รู้ตัวไหมว่าเปลี่ยนไปมากขนาดไหน) “เดี๋ย

