๒ ยิ่งเจ็บยิ่งรัก.3

2010 Words
วันเดินทางกลับเมืองไทย กษิดิศกระหืดกระหอบกลับมาถึงห้อง เขาได้พบว่าอันธิตาเตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว รอเพียงเขาเท่านั้น... “ขอโทษที พอดีพี่ตื่นสายไปนิด” เขาอ้อมแอ้มบอกเพียงแค่นั้นก็รีบก้าวเข้าไปรับกระเป๋าจากหญิงสาวมาถือไว้ ลอบมองใบหน้าหวานที่เรียบสนิท ไม่มีแม้รอยยิ้มให้กับเขาอย่างอึดอัด และกำลังคิดว่าหล่อนคงโกรธที่เขามาช้า เพราะถูกปาริสารั้งเอาไว้กว่าจะมาได้ก็เกือบได้เวลาขึ้นเครื่อง ทว่าชายหนุ่มไม่รู้ว่าสาเหตุไม่ใช่เพียงแค่เรื่องนี้ แต่รวมไปถึงเรื่องคืนวันก่อนซึ่งเกี่ยวกับภาพและคลิปวิดีโอจากคนรักของเขากระทั่งทั้งสองขึ้นเครื่อง หญิงสาวก็ยังคงเงียบ จนชายหนุ่มทนไม่ไหวจึงต้องเอ่ยถามออกมาในที่สุด “อันโกรธพี่ใช่ไหม” เขาถามเบาๆ ทำให้หญิงสาวหันมองเขาแวบหนึ่งก่อนจะตอบออกมาว่า “ถ้าอันจะโกรธพี่ดิศ ก็คงจะโกรธไม่มีที่สิ้นสุดหรอกค่ะ เพราะแต่ละวันพี่ดิศทำแต่เรื่องให้อันต้องโกรธหลายต่อหลายเรื่อง”คำตอบของหญิงสาวทำให้คนที่ฟังอยู่เลิกคิ้วขึ้น เป็นนานจึงผ่อนลมหายใจออกมาอย่างยอมรับ และนิ่งเงียบเพราะไม่มีอะไรจะเถียงหล่อนได้เลย ทั้งสองเดินทางถึงประเทศไทยในวันสุดท้ายของการฮันนีมูน และไม่มีใครได้รู้เลยว่าทั้งสองเดินทางไปต่างประเทศแทนที่จะไปอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์ตามที่บอกไว้! “คุณผู้หญิงคะคุณหนูกับคุณดิศกลับมาแล้วค่ะ” สาวใช้ต้นห้องของคุณอารยาชะเง้อคอยาวพลางหันมาบอกกับเจ้านาย “ไปเตรียมเครื่องดื่มมาให้ลูกฉันสิ มัวตื่นเต้นทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้” คุณอารยาเอ็ดสาวใช้ต้นห้อง ฝ่ายนั้นยิ้มแหยก่อนจะคลานต้วมเตี้ยมออกไป แล้วหันไปยิ้มให้บุตรสาวและบุตรเขยที่เดินตามกันเข้ามา “สวัสดีค่ะคุณแม่” “สวัสดีครับคุณแม่” ร่างบางเข้าไปนั่งข้างมารดาแล้วกอดท่านพร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่ กษิดิศนั่งลงฝั่งตรงข้ามสองแม่ลูก อมยิ้มกับภาพที่เห็น เพราะเมื่ออันธิตาอยู่กับมารดา หญิงสาวเป็นเพียงคุณหนูอันของทุกคนในบ้าน หาใช่นักธุรกิจหญิงหรือภรรยาคนสวยของเขา... กษิดิศชะงักกับความคิด หล่อนเป็นภรรยาน่ะถูก แต่ไม่ใช่ของเขาอย่างแน่นอน บอกกับตัวเองเช่นนั้น แต่เมื่อมองไปยังร่างเล็กเขากลับรู้สึกราวกับใจหวิวแปลกๆ เมื่อหญิงสาวยิ้มเต็มใบหน้า ซึ่งถือเป็นยิ้มแรกนับจากที่เขาและหล่อนออกจากบ้านจนกลับมาบ้านอีกครั้งในวันนี้สาวใช้คนเดิมก้าวเข้ามาพร้อมกับเครื่องดื่ม และตั้งป้อมยิ้มแป้นอยู่ตรงนั้นพลางถาม “คุณหนูไปเที่ยวมาสนุกไหมคะ” คำถามของสาวใช้ทำเอาอันธิตาต้องชะงัก แต่เมื่อสบตามารดาก็แสร้งยิ้มหวานแล้วตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง “สนุกจ้ะ แต่ต้องขอโทษด้วยนะ อันไม่ได้ซื้อของมาฝากใครเลย” “อุ๊ย ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่คุณหนูสนุกก็พอแล้ว” คุณอารยาค้อนสาวใช้ต้นห้องของตนพลางเอ็ดเบาๆ “นี่หล่อน เอากระเป๋าคุณหนูขึ้นไปเก็บได้แล้ว มัวแต่มาปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ได้” “โธ่คุณผู้หญิง ก็ดวงคิดถึงคุณหนูนี่คะ” “เอาละๆ ไปได้แล้ว” สาวใช้ยิ้มแป้นก่อนจะหันไปเรียกพรรคพวกมาลากกระเป๋าของอันธิตาและกษิดิศขึ้นไปบนห้องของทั้งสองกษิดิศเองก็ลอบผ่อนลมหายใจยาวเมื่อสาวใช้พูดเก่งคนนั้นออกไป ก่อนหันกลับไปมองภรรยาที่กำลังคุยอยู่กับมารดาของหล่อน “แม่ว่าหนูเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักผ่อนก่อนเถอะนะจ๊ะ ดิศก็เหมือนกัน ไปพักผ่อนเถอะจ้ะ” อันธิตาสบตากษิดิศแวบหนึ่งแล้วทำเมิน มองหน้าเขาทีไร ก็คิดถึงคลิปนั้นเสียทุกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอตัวก่อนนะครับ อันไปเถอะ ยังไม่หายดีเลยนี่” เขาว่าจะไม่พูด แต่เมื่อหญิงสาวทำท่าไม่ยอมขึ้นไปบนห้องพร้อมกันเลยจำเป็นต้องปูดความจริงส่วนหนึ่งออกมา ทำให้คุณอารยาพิจารณาบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง “เอ๊ะ เป็นอะไรล่ะลูก” ท่านลูบคลำบุตรสาว พลางหันไปมองบุตรเขยอย่างคาดคั้น ทำให้อันธิตาต้องรีบบอกก่อนฝ่ายนั้นขยับปาก “ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แค่ไข้หวัดธรรมดา ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วด้วย”หญิงสาวตอบพลางตวัดสายตาค้อนสามีแวบหนึ่ง คุณอารยาไม่ทันเห็นจึงได้แต่ถอนใจอย่างโล่งอก “งั้นขึ้นไปพักผ่อนเลยไป พรุ่งนี้ต้องไปทำงานอีก เดี๋ยวจะทรุดลงไป” “ก็ได้ค่ะ เย็นนี้เจอกันนะคะ” “จ้ะ” คุณอารยามองบุตรสาวที่เดินเคียงคู่ไปกับกษิดิศแล้วผ่อนลมหายใจ รู้สึกพอใจที่อันธิตาเป็นฝั่งเป็นฝากับผู้ชายที่ผู้หญิงค่อนเมืองต้องการ เมื่อต้องเข้ามาอยู่ภายในห้องด้วยกันตามลำพัง ความเงียบก็เข้ามามีอิทธิพลอีกครั้ง แต่คราวนี้กษิดิศไม่คิดจะยอมให้หล่อนเงียบอีกต่อไป “อันมีอะไรไม่พอใจพี่ก็พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า อย่ามาทำเป็นเงียบแบบนี้” เขาเปิดฉากทันทีที่ประตูห้องปิดลง ซึ่งทำให้ร่างระหงที่เดินไปวางกระเป๋าถือบนโต๊ะหันกลับมาสบตาด้วย “ที่เงียบเพราะอันไม่มีอะไรจะพูด คนไม่มีอะไรจะพูด แล้วจะให้พูดอะไร” พูดจบร่างบางก็เดินผ่านหน้าเขาไป กษิดิศคว้ามือหล่อนเอาไว้แต่หญิงสาวสะบัดออกอย่างรุนแรงจนชายหนุ่มแปลกใจยิ่งขึ้น และยิ่งไม่เชื่อในคำพูดของหล่อน “นี่ไง ถ้าแค่ไม่มีอะไรจะพูดคงไม่สะบัดมือเหมือนรังเกียจพี่ขนาดนี้หรอกมั้ง” ดวงตาสีเข้มมองหญิงสาวอย่างเครียดขรึม เต็มไปด้วยคำถาม อันธิตาสบตาคมวับก่อนยิ้มหยัน “ไม่เห็นต้องคิดให้มาก สะบัดมือออกก็เพราะอันไม่ต้องการให้พี่ดิศมาถูกตัวอัน” คำตอบที่ได้รับทำให้กษิดิศสะอึก เสียหน้า ขณะที่อันธิตาคิดถึงภาพนั้น ซึ่งติดตาหล่อนไม่ยอมจาง ก่อนจะแขวะออกมาอย่างอดไม่ได้ “คราวหน้าถ้าจะไปพลอดรักกันก็ช่วยบอกกับคนรักของพี่ด้วยว่าไม่ต้องส่งคลิปวิดีโอบ้าๆ นั่นมาให้อัน เพราะอันไม่สนสักนิด ว่าพี่กับเขาจะไปหัวหกก้นขวิดกันที่ไหน!” คิ้วหนาขมวดมุ่นพร้อมกับมือใหญ่ถูกสะบัดทิ้ง ซึ่งทำให้เขางงงัน ไม่เข้าใจกับสิ่งที่หล่อนต่อว่าออกมาสักนิด สืบเท้ายาวๆ ตรงไปยังห้องน้ำที่อันธิตาหายเข้าไป “ออกมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน อันพูดเรื่องอะไร คลิปอะไร อัน!” เขาเคาะประตูห้องน้ำ เมื่ออันธิตาพาตัวเข้าไปในนั้นแล้วล็อกแน่นหนา ก่อนจะเดินไปเดินมาด้วยความว้าวุ่น ครุ่นคิดถึงสิ่งที่หล่อนบอก มันอะไรกัน ภาพอะไร เขาไม่เห็นรู้เรื่อง เขาเดินกลับไปยังเตียงนอนแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนนั้น สายตาไปหยุดที่กระเป๋าถือของหญิงสาว ครุ่นคิดแกมสังหรณ์หันไปมองประตูห้องน้ำ ก่อนจะลุกขึ้นไปค้นกระเป๋าสะพายของภรรยาอย่างไม่เคยคิดจะทำมาก่อน เขาคว้าเอาสมาร์ตโฟนของหล่อนออกมาเลื่อนดู แล้วสะดุดที่สายล่าสุดซึ่งเป็นสายของเขาเองแล้วนิ่วหน้า เพราะวันเวลาที่บอกนั้นเขาอยู่กับปาริสาและไม่ได้โทร.หาหล่อนแน่นอน แล้วทำไมที่หน้าจอของอันธิตาจึงปรากฏชื่อของเขา ที่สำคัญเป็นข้อความ... เขาตัดสินใจกดดูแล้วต้องนิ่งอึ้ง เมื่อพบทั้งภาพและคลิปวิดีโอของปาริสา! “ทำแบบนี้ทำไมปลา!” เขากัดฟันกรอด นึกโกรธคนรักที่ทำเรื่องแย่ แบบนี้นี่เองที่ทำให้อันธิตามึนตึงต่อเขา ชายหนุ่มรีบลบข้อความนั้นทิ้งแล้วเก็บเข้ากระเป๋าหล่อนตามเดิม ก่อนจะกลับไปนั่งที่เตียงอีกครั้งพร้อมกับถอนใจยาวเหยียด เมื่อรู้ถึงที่มาที่ไปซึ่งทำให้ภรรยาโกรธเขามากขนาดนี้ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจ หากเป็นเขาก็คงจะโกรธ แม้จะไม่ได้รักได้ใคร่แต่เมื่อต้องมาเจอกับภาพบาดตาบาดใจแบบนี้คงไม่มีใครที่จะไม่โกรธ แต่เมื่อคิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน เพราะอย่างน้อยมันก็ย้ำให้อันธิตารู้ ว่าเรื่องของเขาและหล่อนไม่อาจเป็นไปได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงนั่งรอหญิงสาวอย่างใจเย็นลง แล้วต่อสายถึงคนรักเพื่อบอกว่าเขาเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว อันธิตายืนนิ่งอยู่หน้ากระจกอย่างพยายามสงบอารมณ์ของตนเองให้เป็นปกติ ยอมรับว่าโกรธปาริสามากเหลือเกิน และน้อยใจกษิดิศจนทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่ออารมณ์เย็นลง หญิงสาวจึงคิดได้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นแย่มาก รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รักและไม่ได้อยากจะแตะต้องหล่อนสักนิดแต่หล่อนกลับทำกิริยาไม่น่ารักกับเขา แม้จะไม่แสดงอาการหึงหวงจนออกนอกหน้า แต่คิดว่าเขาคงพอจะดูออก ไม่ควรเลยจริงๆ หญิงสาวส่ายหน้าให้กับเงาในกระจก ก่อนจะตัดสินใจออกจากห้องน้ำ เพื่อขอโทษสิ่งที่หล่อนทำลงไป แต่แล้วต้องชะงัก เมื่อร่างสูงที่ยืนหันหลังให้นั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับคนรักของเขา “แค่นี้แล้วกันนะปลา แล้วผมจะโทร.หาทีหลัง” จบบทสนทนาหญิงสาวก็รีบเดินเลี่ยงชายหนุ่มไปยังตู้เสื้อผ้า รู้สึกปวดหนึบขึ้นมาอีก กษิดิศเงยหน้าขึ้นมองท่าทางเหงาหงอยของภรรยาจึงนึกอยากขอโทษทุกเรื่องเกี่ยวกับเขาและปาริสา แต่ถ้าเขาพูดอันธิตาก็จะรู้ว่าเขาเสียมารยาทละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัว ไปยุ่งกับข้าวของของหล่อน ชายหนุ่มมุ่นคิ้วก่อนถอนใจเฮือกแล้วตัดสินใจก้าวตามไปหยุดอยู่ด้านหลังของภรรยาเงียบๆ “อัน พี่...”ไม่ทันได้เอ่ยอะไรมากนักอันธิตาก็หันกลับมาพร้อมบอก “อันต้องขอโทษด้วยนะคะที่พูดไม่ดีกับพี่ดิศ อาจเพราะว่ากำลังเหนื่อยจากการเดินทาง ทำให้อารมณ์ไม่ดีนัก เลยทำอะไรแย่ๆ แบบนั้นลงไป พี่ดิศอย่าถือสาอันเลยนะคะ” กษิดิศอ้าปากค้างก่อนจะหุบปากลงเมื่อหญิงสาวพูดจบ คิดไม่ถึงว่าภรรยาจะเป็นฝ่ายขอโทษทั้งที่ก่อนหน้านี้หล่อนแทบจะงับหัวเขาได้ ชายหนุ่มจึงค่อนข้างรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำกับหล่อนมาทั้งหมด เมื่อคิดว่าอันธิตาเป็นผู้หญิงที่ใจกว้างมากที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอ หล่อนยอมให้คนที่เป็นสามีอยู่กับผู้หญิงอื่น ท่าทางวางเฉยและหม่นหมองทำให้เขาคิดมาก ยิ่งหล่อนเป็นฝ่ายขอโทษทั้งที่ถูกคนรักของเขาระราน เขาก็ยิ่งไม่สบายใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขายังบอกกับตนเองว่าดีแล้ว แต่ตอนนี้ชักไม่ค่อยจะดีเสียแล้ว... เป็นครั้งแรกที่กษิดิศนับถือน้ำใจของอันธิตาจนอยากเอ่ยขอบคุณหล่อน ร่างสูงขยับเข้าไปหาภรรยาที่ยืนอ้ำอึ้งไม่แพ้เขาก่อนหน้านี้ มือใหญ่แต่เรียวยาวอย่างคนสุขภาพดีเอื้อมไปหมายจะกุมมือเล็กเรียวหากไม่มีเสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้นให้อันธิตาต้องถอยห่าง จึงไม่ได้รับคำขอบคุณจากสามีดังที่อีกฝ่ายตั้งใจไว้...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD