๖ เอาคืน.2

1721 Words
ค่ำนั้น หลังจากพาปาริสารับประทานอาหารเสร็จแล้ว หญิงสาวออดอ้อนชายหนุ่มให้เขาพาไปนั่งฟังเพลงที่ผับแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มอยากปฏิเสธแต่เมื่ออีกฝ่ายรบเร้ามากๆ เขาจึงจำใจต้องพาไปจนลืมคิดไปว่าการออกไปกับหญิงสาวสองต่อสองอาจตกเป็นเป้าสายตาของคนรู้จักยิ่งเมื่อคิดถึงท่าทางไม่สนใจไยดีของอันธิตา ความน้อยใจก็พุ่งสูง ทำให้มองข้ามความเหมาะสม ว่าการออกไปกับผู้หญิงอื่นซึ่งไม่ใช่ภรรยาด้วยท่าทางสนิทสนมเกินไป อาจนำความเสื่อมเสียมายังครอบครัว ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ปาริสาจะพอใจมาก เพราะหล่อนต้องการประกาศให้ใครก็ตามได้รู้ว่า เขาและหล่อนเป็นอะไรกัน... และราวกับโลกกลม เมื่อเพื่อนรักของอันธิตาอย่างยิหวาและกมลชนกพร้อมกับคนรักของพวกหล่อนเดินทางมานั่งฟังเพลงยังสถานที่แห่งนี้เช่นกัน ยิหวาซึ่งตาไวเช่นเดิมพยายามเบิ่งตามองให้แน่ชัดว่าตนไม่ได้ตาฝาด กระทั่งมั่นใจจึงรีบหันไปสะกิดหัวเข่าของเพื่อนรักที่นั่งเคียงกันรัวๆ “ยัยนก! นั่นมันคุณดิศสามียัยอันนี่หว่า” กมลชนกหันไปมองตามสายตาเพื่อนพลางย่นคิ้วกวาดตาหา “ไหนล่ะ ฉันไม่เห็น” “ก็คนนั้นไง ที่หันหลังให้เราน่ะ นี่ๆ หันมาแล้ว นั่นไงๆ” เมื่อร่างสูงหันกลับมาพร้อมกับนั่งลงพร้อมกับผู้หญิงอีกคนกมลชนกก็เบิกตากว้าง แล้วหันไปสบตาเพื่อนอย่างไม่คาดคิด “คุณดิศจริงด้วย แต่เอ๊ะ! ผู้หญิงคนนั้นใคร ไม่ใช่ยัยอัน” พึมพำพลางหันไปมองคนทั้งสองก่อนจะหันมาทำตาโตกับเพื่อนรักที่หรี่ตาครุ่นคิด “แกคิดเหมือนฉันไหม?” คนถูกถามแสยะยิ้ม พลางมองไปยังคนทั้งสองที่นั่งเบียดชิด โดยเฉพาะผู้หญิง ที่แทบจะขึ้นมานั่งตักสามีเพื่อนรักด้วยความเจ็บใจแทน! “แบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ฉันต้องโทร.หายัยอัน” พูดจบยิหวาก็ล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเพื่อนรักทันที กมลชนกที่มองทางโน้นทีทางนี้ทีรอฟังใจจดจ่อ “ฮัลโหล อันเหรอ กลับถึงบ้านหรือยัง ฮะ? ยังไม่กลับ ทำงานอยู่ จะขยันไปไหนยะ นี่มันมืดแล้วนะ ใกล้เสร็จแล้ว เออดีเลยงั้นว่างหรือเปล่า ว่างก็ดี ฉันอยากจะชวนแกมาที่ร้านพี่ฉันหน่อย เออ ใช่ๆ ร้านนั้นแหละ มานะ โอ๊ย อย่าอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนนัก ออกมาเปิดหูเปิดตาบ้างเผื่อจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เออน่า เอาไว้มาถึงแล้วจะบอก ฉันกับยัยนกรอแกอยู่ มีเรื่องอยากเมาท์เยอะ ต้องมาให้ได้นะ โอเค แล้วเจอกัน” “ตกลงมาใช่ไหม” คนถูกถามตวัดสายตามองไปยังหญิงชายคู่นั้นแล้วแสยะยิ้ม “มาสิ! ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นคนดี ที่ไหนได้ ร้ายลึก! คอยดูนะ ฉันจะให้ยัยอันจัดการเสียให้เข็ด” ดวงตาของยิหวาวาวโรจน์ ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนรักที่สะกิดหล่อนเบาๆ พลางถามว่าพวกหล่อนมองใคร อีกฝ่ายจึงรีบเล่าให้คนรักฟังอย่างรวดเร็ว ด้านอันธิตาหลังวางสายจากเพื่อนรักก็เงยหน้าขึ้นมองออกไปยังด้านนอก ฟ้ามืดแต่มีแสงสีแห่งราตรีสว่างแทน เมื่อมองนาฬิกาจึงทราบว่าค่ำมากแล้ว หญิงสาวผ่อนลมหายใจพรืด รู้ตัวดีว่าเหตุใดจึงต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ก็เพื่อให้ลืมใครบางคน ลืมการกระทำและคำพูดร้ายๆ ของเขา พลางคิดถึงเพื่อนรักและบอกตนเองว่าดีเหมือนกัน ออกไปเปิดหูเปิดตาเสียบ้าง จะได้ไม่ต้องกลับไปนอนคิดถึงคนที่ไม่เคยคิดถึงหล่อน นอกจากความสุขส่วนตัว… ไม่นานนัก หญิงสาวก็เดินทางมาถึงสถานที่แห่งนั้น เมื่อยิหวาและกมลชนกหันมาเห็นเพื่อนก็รีบโบกมือโบกไม้ อันธิตายิ้มให้สองคนพร้อมสาวเท้าก้าวไปหาอย่างรวดเร็ว “ว่าไงอัน กว่าจะออกมาได้” อันธิตาก้าวเข้ามานั่งข้างเพื่อนที่รีบขยับที่ให้หญิงสาว ท่ามกลางเสียงเพลงที่คลอเคล้าไปกับแสงไฟวับแวม ก่อนจะหันไปทักทายคนรักของทั้งคู่พร้อมรอยยิ้ม “ก็ดี รถไม่ค่อยติด ว่าแต่มากันนานแล้วสิคะเนี่ย” “ครับ สาวๆ เขาอยากจะมานั่งฟังเพลงชิลชิลพวกเราก็เลยพามา” แฟนหนุ่มของยิหวาเป็นคนตอบ ขณะที่สองสาวเพื่อนรักต่างสบตากัน และเป็นยิหวาที่เป็นฝ่ายบอกกับอันธิตาขึ้น “อัน ความจริงที่ฉันชวนแกออกมาวันนี้เพราะมีเรื่องอยากจะบอกกับแก” อันธิตาสบตาเพื่อนพลางขมวดคิ้ว ฝ่ายนั้นตัดสินใจแน่วแน่พลางบอก “ฉันเจอคุณดิศที่นี่ มากับผู้หญิงอื่น ดูสนิทสนมมาก เลยอยากให้แกออกมาเห็นด้วยตาแกเอง” คนฟังใจหายวาบ ใบหน้างามเผือดลง แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่า กษิดิศอยู่กับใครทุกเย็นไปจนดึกดื่นค่อนคืน ทว่าไม่คิดว่าฝ่ายนั้นจะกล้าพาคนรักของเขาเปิดตัวรวดเร็วจนเป็นการหักหน้าหล่อนขนาดนี้ ยิหวาสบตาเพื่อนรักพลางบุ้ยปากบอก... “นั่นไง โต๊ะนั้น ยัยนั่นแทบจะนั่งตักสามีแกอยู่แล้ว” เมื่อหันไปยังจุดที่เพื่อนบอกและพบเจอภาพบาดตาบาดใจ หญิงสาวก็เจ็บร้าวที่อกข้างซ้าย มือเรียวกำแน่นก่อนจะเมินหน้าจากภาพของสองคนนั้นด้วยสีหน้านิ่งขรึม ทำให้ยิหวาและกมลชนกมองด้วยความเป็นห่วง “อัน ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อนล่วงหน้า พวกเราไม่อยากให้แกต้องขับรถมาทั้งที่โกรธอยู่ เลยต้องบอกแกกะทันหันแบบนี้ ที่สำคัญ ฉันไม่อยากให้แกโดนสวมเขา” แม้จะเสียหน้า อับอายมากขนาดไหน แต่อันธิตายังฝืนยิ้มให้คนทั้งสี่ได้ “ฉันไม่เป็นอะไรหรอกหวา ยังไงต้องขอบใจเธอสองคนมากนะที่บอกกับฉัน” ขณะที่กล่าวออกมา ร่างบางนั่งนิ่ง ไม่หันไปมองคนคู่นั้นอีก และไม่มีทีท่าว่าจะเดินเข้าไปหา ต่อว่าหรือเกรี้ยวกราดอย่างที่เพื่อนคิด ทำให้คนทั้งสี่ค่อนข้างแปลกใจกับพฤติกรรมของเพื่อนรัก ซึ่งผิดวิสัยข้าวใหม่ปลามัน “อัน นี่แกไม่คิดจะเข้าไปแสดงตัวว่าแกเป็นใครหรือไง ผู้หญิงคนนั้นจะได้รู้ ว่าผู้ชายที่อยู่ด้วยน่ะมีเมียอยู่แล้ว” กมลชนกเอ่ยขึ้นอย่างอดรนทนไม่ได้กับท่าทางร้าวรานใจระคนเย็นชาของเพื่อนรัก “ไม่ล่ะนก เขาอยากจะทำอะไรก็เรื่องของเขา ฉันไม่สนหรอก ดีเสียอีก จะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับฉัน” ทั้งหมดนิ่งอึ้ง ไม่คิดว่าเพื่อนจะเย็นชาและทำใจกับสิ่งที่เพิ่งได้รู้ อาการนั้นทำให้เพื่อนสาวทั้งสองคนรวมทั้งคนรักของพวกหล่อนมองด้วยความไม่เข้าใจหนักขึ้นไปอีก “ฉันไม่เข้าใจเลยอัน ทำไมเธอดูไม่เดือดร้อนเลยล่ะ” ยิหวาถาม พลางมองเพื่อนสลับกับคนที่กำลังตกเป็นหัวข้อสนทนา แต่อันธิตากลับยิ้ม ไม่คิดจะตอบ ซึ่งพอดีกับที่ร่างสูงของใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขาและหันมาเห็นหญิงสาวเข้าจึงสาวเท้าเข้ามาทักทาย “สวัสดีครับคุณแอนนี่” เสียงทุ้มสุภาพที่ดังขึ้น ทำให้คนทั้งห้าเงยหน้ามอง ทำให้อีกสองสาวถึงกับตาค้างเมื่อพบกับหนุ่มหล่อนัยน์ตาสีน้ำข้าว จนถูกคนรักที่นั่งข้างกันกระแอมในลำคอ สองสาวจึงยิ้มแหยให้ก่อนหันมองเพื่อนรักที่กำลังสบตาชายรูปหล่อพร้อมกับยิ้มให้อย่างงงๆ “อ้าวคุณมาร์ค มากับใครคะ” “ผมมากับเพื่อนครับ นั่งอยู่ด้านโน้น” เขาบอกพลางบุ้ยปาก ซึ่งมีเพื่อนชายสองสามคนทั้งไทยและเทศนั่งรวมกันอยู่ ก่อนจะกวาดตามองทุกคนในโต๊ะด้วยแววตาผูกมิตร หญิงสาวจึงรีบแนะนำให้เพื่อนรู้จักกับชายหนุ่ม ทั้งหมดทักทายกันก่อนที่มาร์คจะเอ่ยขอตัวอย่างรู้มารยาท “ยินดีที่ได้รู้จักทุกๆ คนนะครับ ผมต้องขอตัวก่อน พอดีว่าเพื่อนรออยู่” “ขอบคุณที่เข้ามาทักนะคะ เชิญคุณมาร์คตามสบายค่ะ” ชายหนุ่มสบตาหญิงสาวยิ้มๆ ก่อนจะจากไป ทั้งสี่คนมองมาดชายหนุ่มคนใหม่ที่เพิ่งเดินกลับไปด้วยสายตาทึ่งๆ กมลชนกและยิหวาจึงหันมาถามเพื่อนรักทันที “ใครอะอัน! หล่อมาก ดูตาที่มองอันสิ หวานซะ!” ยิหวารำพึงรำพันด้วยความตื่นเต้น และมองไปยังชายหนุ่มที่กลับไปรวมกลุ่มเพื่อนของเขา ฝ่ายนั้นยังหันกลับมายังหล่อนอีกครั้ง อันธิตาจึงเมินหน้ากลับมาเสีย “อัน! เขาหันมามองแกด้วยอัน” อันธิตาส่ายหน้ากับน้ำเสียงตื่นเต้นของเพื่อน ไม่ได้สนใจสายตาของฝ่ายนั้น เพราะหัวใจกระวนกระวายอยู่กับสามีตีตราและผู้หญิงที่เป็นมากกว่าภรรยาเมื่อเทียบกับหล่อนคนนั้น “นี่อัน ฉันว่าหนุ่มหล่อคนนั้นเข้าท่านะ” ยิหวายังกล่าวต่อ กมลชนกค้อนเพื่อนพลางแขวะ “จะบ้าหรือยะ ยัยอันยังมีสามีทั้งคน แกจะมาชี้โพรงให้กระรอกแบบนี้นะ” “บ้าสิ” ยิหวาหันมาแหวใส่เพื่อน ทำตาเขียวปัด “ฉันแค่บอกว่าเขาเข้าท่าเฉยๆ ไม่ได้จะให้ยัยอันหันไปสนใจสักหน่อย เออว่าแต่รู้จักได้ยังไงเหรออัน” “เราติดต่อทำธุรกิจร่วมกันอยู่น่ะ” “อ๋อ...” สองสาวทำเสียงรับรู้ในลำคอ ก่อนจะหันไปคุยกับคนรัก แต่ก็ยังไม่วายซุบซิบถึงหนุ่มหล่อต่างชาติคนนั้น ขณะที่หญิงสาวปรายตามองไปยังสามีและปาริสา ที่ไม่สนใจใครนอกจากกันและกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD