๕ หวง... ห่วง... หึง

1457 Words
๕ หวง... ห่วง... หึง ความหวานล้ำที่ได้รับจากอันธิตาทำให้กษิดิศลดความรุนแรงลง มือเรียวที่บีบข้อมือเล็กลากลงเลื่อนไล้ยังลำตัวบอบบาง แล้ววกขึ้นลูบคลำทรวงอกอวบแผ่วเบา จนร่างหอมละมุนสั่นสะท้าน ก่อนจะเคล้นคลึงหนักหน่วงตามแรงอารมณ์ที่กำเริบขึ้นยามได้แนบชิดกายสาวที่อยู่ในความคิดของเขามาหลายเวลา... เขาเงยหน้าขึ้นหมายครอบครองเรียวปากหวาน ทว่าต้องชะงักเมื่อคนใต้ร่างเกือบเปลือยเปลือกตาปิดสนิทแต่น้ำตาไหลพราก นอนนิ่งไม่ขัดขืนราวกับหมดอาลัยตายอยาก เพียงแค่นี้อารมณ์ที่คุกรุ่นก็หดหายในทันที “อัน...” เขาแตะปลายนิ้วกับน้ำตาที่รินไหล พร้อมกับผละกายพยุงร่างงามให้ลุกขึ้น หญิงสาวรีบคว้าผ้าห่มที่ตกอยู่ใกล้กันขึ้นปกปิดทรวงอกอวบงามรวดเร็ว ใบหน้าร้อนเห่อนั้นแดงปลั่ง ทั้งน้อยใจและอับอายผสมกัน ชายหนุ่มช่วยเช็ดน้ำตาหญิงสาว แล้วกระชับฝ่ามือที่ไหล่นุ่ม อารมณ์ใคร่เป็นอันสิ้นสุดเมื่อได้เห็นน้ำตา สติกลับคืน รับรู้ว่าเขาทำร้ายจิตใจหล่อนมากเกินไป แล้วหันไปหยิบเสื้อนอนและบราที่เขาเป็นคนโยนทิ้งส่งให้หล่อนพลางบอก “พี่ช่วยนะ” หญิงสาวสั่นหน้า รีบคว้าเสื้อและบรามาถือไว้ ก่อนจะค่อยๆ สวมเสื้อผ้ากลับตามเดิมโดยมีผ้าห่มคลุมกายบดบังเนื้อแท้จากสายตาเขาไว้ ขณะที่เสียงสะอื้นยังคงไม่จางหาย กระทั่งทุกอย่างเรียบร้อยท่ามกลางสายตารู้สึกผิดของกษิดิศ “เอ่อ นี่ก็ดึกมากแล้ว อันนอนเถอะนะ” เขาอยากพูดคำว่าขอโทษ แต่ปากก็หนักจนไม่อาจเอ่ยคำนั้นออกมาได้ ขณะที่หญิงสาวไม่พูดอะไรอีก นอกจากจะเอนกายและหันหลังให้สามี เสียงสะอื้นยังดังแผ่วในความเงียบ ไม่นานไฟก็ดับลงในขณะที่กษิดิศยังคงนั่งนิ่งอยู่อย่างเดิม เป็นนานกว่าเขาจะล้มตัวนอนด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขาทำและครุ่นคิดถึงสิ่งที่หญิงสาวพูด พลางถามตัวเองซ้ำๆ อย่างเลื่อนลอยว่า อันธิตาเกลียดเขาจริงอย่างนั้นหรือ หัวใจภายใต้อกข้างซ้ายปวดปร่า หดหู่และอ่อนล้าจนไม่อาจอธิบายเมื่อเกิดคำถามนั้น เป็นเหตุให้ดวงตาคมกริบเปิดค้างไปจนเกือบสว่าง... เช้าตรู่ เมื่อกษิดิศตื่นขึ้นมาจึงได้รู้ว่าอันธิตาออกไปทำงานแล้ว วันนี้หล่อนไม่รอเขา รถยนต์ส่วนตัวของหล่อนที่จอดนิ่งนับแต่เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านวันนี้ไม่อยู่ หล่อนนำมันกลับมาใช้เป็นพาหนะอีกครั้งแทนที่พาหนะของเขาที่เคยรับส่งหล่อนประจำ การเดินทางโดยไม่มีร่างบางนั่งข้างทำให้เขารู้สึกเงียบเหงา เพราะเริ่มเคยชินที่จะมีหญิงสาวนั่งข้างๆแล้วพูดคุยกันเป็นระยะตลอดการเดินทาง ชายหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ บอกตนเองว่าอย่าคิดฟุ้งซ่านให้มากนัก เป็นแบบนี้น่าจะดีที่สุดสำหรับเขาและหล่อน แต่ลึกลงไป เขากลับไม่คิดเช่นนั้นเลยสักนิด ช่วงสายของวัน อันธิตากำลังอ่านเอกสารภายในห้องทำงานส่วนตัวที่ต้องสรุปให้กับบิดาอีกทอด เพราะนอกจากตำแหน่งเลขานุการกิตติมศักดิ์ของบิดาแล้ว หญิงสาวยังเป็นผู้ช่วยมือฉมังของท่าน แต่แล้วคนที่กำลังคร่ำเคร่งกับการทำงานอย่างหนักเพื่อให้ลืมเรื่องช้ำใจจากคืนที่ผ่านมาต้องชะงักลง เมื่อเครื่องมือสื่อสารภายในดัง “คุณอันคะ มีคนต้องการขอพบคุณอันค่ะ” อันธิตาขมวดคิ้วพลางถามออกไป “ใครหรือคะคุณเจี๊ยบ แล้วนัดเอาไว้หรือเปล่า” เลขานุการส่วนตัวของอันธิตาเหลือบตามองสาวสวยจัดที่มองมายังหล่อนตาไม่กะพริบแล้วหันมากรอกเสียงตอบคำถามเจ้านาย “เอ่อ ไม่ได้นัดค่ะ แต่เธอบอกว่าคุณรู้จักเธอดี เธอชื่อปาริสาค่ะ” ชื่อนั้นทำให้คนที่กำลังจะปฏิเสธต้องหุบปาก หัวใจดวงน้อยเต้นระริกด้วยความรู้สึกหลากหลาย และเงียบไปอึดใจใหญ่ก่อนจะตอบออกไปว่า “ให้เธอเข้ามาได้” เพียงครู่ ประตูห้องทำงานของหญิงสาวก็ถูกเปิดกว้าง พร้อมกับร่างงามของปาริสาที่ก้าวนวยนาดเข้ามาเผชิญหน้ากับเจ้าของห้องอันธิตาสบตาผู้มาเยือนแวบหนึ่ง ก่อนจะบอกกับเลขานุการของตนว่า “ขอบคุณมากนะคะคุณเจี๊ยบ เชิญนั่งสิคะคุณปาริสา” ผู้มาเยือนเหยียดยิ้มนิดหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของอันธิตา ยกขาเรียวงามขึ้นไขว่ห้าง “ขอโทษที่มาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า แต่พอดีว่าทางนี้เป็นทางผ่านที่จะไปบริษัทของดิศ ฉันเลยแวะมาทักทายคุณสักหน่อย” บอกพลางยิ้มหวาน แต่แววตากลับเย้ยหยันในที อันธิตาสบตาคนตรงหน้าแล้วยิ้มขณะเคาะปากกาในมือเล่นไปพลาง “ต้องขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์มีแก่ใจแวะมาทักทาย” ฝ่ายนั้นไหวไหล่ กวาดตามองไปทั่วห้องทำงานกว้างที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยความอิจฉาลึกๆ ที่คนตรงหน้ามีทุกอย่างพร้อม ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ฐานะทางการเงิน การศึกษาหรือทางสังคม “ก็ไม่ได้ลำบากอะไรนัก แค่อยากจะขอบคุณที่ยอมให้ดิศไปหาฉันทุกคืน คุณรู้ไหม ว่าดิศเขาน่ารักมากแค่ไหน เขาเอาใจฉันทุกอย่าง เขาว่าอีกไม่นานเขาจะหย่ากับคุณ” ปาริสากล่าวพลางสังเกตสีหน้าแววตาของอันธิตาไปด้วย ทว่าอีกฝ่ายเก็บความรู้สึกได้อย่างดีเยี่ยม จึงไม่มีสิ่งใดแสดงออกมาให้เห็น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สน เพราะรู้ดีว่าคนตรงหน้าไม่ได้ใจแข็งเหมือนอย่างแสดงออก “อย่างนั้นเหรอคะ แหม... ถ้าเป็นแบบนั้นจริงฉันคงต้องขอแสดงความยินดีเอาไว้ล่วงหน้าเลยแล้วกันนะคะ” อันธิตากล่าวพลางยิ้มนิดๆ ดวงตายังคงราบเรียบดุจเดิม แม้ภายในใจจะปวดร้าวและกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ก็ตามที! “ขอบคุณค่ะ” ปาริสาเชิดหน้าเมื่ออันธิตาไม่แสดงทีท่าใดๆ กับการถูกหล่อนยั่วยุ จึงเสยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา แล้วแสร้งทำตาโตก่อนจะเงยหน้าขึ้นยิ้มให้หญิงสาวเจ้าของห้อง “อุ๊ยตายจริง! ฉันต้องไปแล้วค่ะ พอดีนัดทานข้าวกับดิศ อ้อ! คืนนี้เขาอาจไม่กลับบ้านนะคะ บอกเอาไว้ก่อน คุณจะได้ไม่ต้องนอนรอฟังเสียงรถ เป็นห่วงสุขภาพน่ะค่ะ นอนดึกติดกันหลายคืนจะวูบเอาได้ ฉันไปก่อนนะคะ” พูดจบปาริสาก็ยิ้มเยาะ ก่อนจะสะบัดก้นออกจากห้องทำงานของอันธิตาด้วยมาดดุจนางพญา โดยมีสายตาของเจ้าของห้องมองตามด้วยความรู้สึกเจ็บจนบอกไม่ถูก มือเรียวกำปากกาแน่นริมฝีปากถูกขบเม้มจนแทบห้อเลือด น้ำตาคลอเต็มหน่วยตาคู่สวย ในใจร่ำร้องด้วยความอัดอั้นตันใจ แต่ในความเป็นจริงไม่อาจทำสิ่งใดได้เลย... เวลาเดียวกันกษิดิศแทบไม่มีสมาธิในการทำงาน สีหน้าและแววตาของอันธิตารบกวนใจจนเขาต้องเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ หลับตานิ่งนานเพื่อเรียกสติและกำลังใจในการทำงานกลับคืน เขาทำเช่นนั้นพักใหญ่ ก่อนจะกลับมาทำงานอีกครั้ง จนกระทั่งยี่สิบนาทีถัดมาเขาจึงได้ต้อนรับปาริสาโดยไม่ได้เตรียมตัว คนรักของเขายิ้มหวานให้ทันทีเมื่อผ่านประตูเข้ามา “ที่รักขา” เมื่อประตูปิดลง ร่างงามก็ปรี่เข้าไปหาคนที่นั่งนิ่งหลังโต๊ะ พร้อมกับทิ้งสะโพกลงกับที่พักแขนบนเก้าอี้ตัวใหญ่ โอบแขนเรียวเสลารอบต้นคอแข็งแรงของเขาพลางก้มลงจูบแก้มสากหนักๆ แล้วพลิกมายังริมฝีปากได้รูปหมายจูบให้หนำใจ จนอีกฝ่ายต้องรีบห้ามเอาไว้ “เดี๋ยวๆ ปลา คุณมาถึงนี่มีอะไรหรือเปล่า” คำถามและสีหน้าขรึมของกษิดิศทำให้ผู้ที่เพิ่งมาถึงชะงัก สีหน้าเบิกบานบึ้งตึงทันควัน “ทำไมดิศถามปลาแบบนี้ล่ะคะ ที่ปลามาก็เพราะคิดถึงดิศ อีกอย่างก็อยากจะมาชวนดิศออกไปทานข้าวเที่ยงด้วยกัน” กษิดิศแทบอยากจะร้องโวยออกมาดังๆ เวลานี้เขาไม่มีแก่ใจจะเอาใจหรือยิ้มให้ใครทั้งนั้นแม้แต่ปาริสาก็ตามที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD