ขณะที่นามิกำลังเดินไปโรงอาหารของคณะกับอายก็เกิดอาการงุนงงสงสัยกับสายตาแปลก ๆ ของสาว ๆ หลายคนบริเวณนั้นที่ใช้มองเธอบวกกับเสียงพูดคุยซุบซิบนินทาที่เธอได้ยินไม่ถนัดนั่นอีก
“อาย”
“ว่า!?”
“นามิรู้สึกว่าคนอื่นเขามองนามิแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ อายรู้สึกหรือเปล่า”
“รู้สึกสิ”
“เหรอ!!! ทำไม ยังไง มันเกิดอะไรขึ้นหรือนามิไปทำเรื่องอะไรที่ผิดร้ายแรงมาเหรอ”
“ถ้าอยากรู้ก็ดูนี่ ว่าแต่นามิไม่คิดจะเล่าให้อายฟังบ้างเหรอ น่าน้อยใจชะมัดที่ต้องมารู้เรื่องเพื่อนสนิทพร้อมกับคนอื่น ๆ แบบนี้” อายยื่นโทรศัพทของตัวเองที่เปิดหน้าเพจซุบซิบของมหาลัยค้างไว้ให้นามิดูด้วยใบหน้าบูดบึ้งที่ผสมปนเปไปกับอาการน้อยใจ
นามิรับโทรศัพท์มาก็ไล่สายตาอ่านข่าวในเพจดังของมหาลัยก็ต้องตาโตตกใจรีบจับไหล่ของอายเขย่าไปมาอย่างไม่อยากเชื่อว่าคนในข่าวนั้นจะเป็นตัวเอง ข่าวซุบซิบที่พาดหัวตัวใหญ่มากแถมยังแนบรูปที่เธอซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ของโปรดอีกหลายรูป ‘ข่าวเด่นข่าวดังที่สุดในเวลานี้ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับสาวปริศนาผู้โชคดีที่ได้นั่งซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ของหนุ่มสุดหล่อสุดฮอตขวัญใจสาว ๆ ของมหาลัยอย่างโปรด’
“อาย!!! ทำไมมันเป็นแบบนี้”
“เป็นอายมากกว่าไหมที่ต้องถามนามินะ เล่ามาให้หมด” อายพูดกับนามิด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ เธออยากรู้อยากฟังเรื่องทั้งหมดจากปากเพื่อนรักตอนนี้เลย
“ไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งนั้น เมื่อเช้านามิเจอพี่โปรดที่หน้ามหาลัยพี่เขาเลยให้ติดรถมาลงที่หน้าคณะก็แค่นั้นเอง”
“แกดูสนิทกับพี่โปรดมากเลยนะ ยังไง??”
“แกจำวันก่อนที่นามิมาเรียนสายเพราะรถแม่เสียได้ไหม”
“อือ จำได้”
“ก็คนที่มาช่วยดูรถให้แม่และเอารถไปซ่อมให้ก็คือพี่โปรด นามิก็มารู้ตอนที่แม่พาไปเอารถวันนั้นแหละ ก็เลยรู้จักกับพี่โปรด”
“อ๋อ อย่างงี้นี่เอง”
“ว่าแต่นี่พี่โปรดนี่เขาดังขนาดนั้นเลยเหรอผู้หญิงพวกนั้นถึงได้มองนามิด้วยสายตาแบบนั้น”
“เฮ่อ.... สรุปแกไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่” อายถอนหายใจยาวออกมาอย่างเหนื่อยใจให้กับความไม่สนโลกของนามิ ใคร ๆ เขาก็รู้จักหนุ่มหล่อสุดฮอตของมหาลัยกันทั้งนั้นยกเว้นเพื่อนเธอ
“อาย.... นามิไม่รู้จริง ๆ ถ้านามิรู้คงไม่ยอมซ้อนท้ายมากับพี่เขาหรอก กลัวชีวิตอันแสนสงบสุขของตัวเองจะหายไปแล้วได้ความวุ่นวายกลับมาแทนที่”
“ไม่ทันแล้ว แกเตรียมตัวรับมือได้เลย โดยเฉพาะแฟนคลับพี่โปรด”
“ว่าแต่พี่โปรดนี่เขาฮอตขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ฮอตย๊ะ ฮอตมาก ฮอตปรอทแตก พี่โปรดเขาเป็นเดือนคณะพ่วงด้วยเดือนมหาลัย เป็นหนุ่มหล่อที่สาว ๆ ค่อนมหาลัยคลั่งไคล้หวังได้พี่โปรดเป็นแฟนกันทั้งนั้น แต่พี่โปรดก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน ไม่เคยคบกับใครและที่สำคัญพี่โปรดไม่เคยให้สาวคนไหนซ้อนท้ายสักคน แกคือคนแรก” อายบรรยายประวัติและรายละเอียดของโปรดที่เธอรู้ให้นามิฟัง
“จริงดิ!!! ซวยแล้วไง นามิเอ๋ย”
“เออ!! ซวย”
“อายแล้วนามิจะทำยังไงดี โธ่.... ชีวิตอันแสนสงบสุขของฉัน” นามิได้แต่โอดครวญออกมาให้กับความสงบสุขในชีวิตของตัวเองที่จากนี้เธอคงไม่ค่อยได้พบกันอีกแล้ว
“ทำใจไง หลังจากนี้แกต้องระวังตัวให้มากนะ เพราะคนที่ชอบและหวังในตัวพี่โปรดคงไม่ปล่อยแกไว้แน่นอน” และยังไม่ทันที่อายจะได้พูดอะไรมากกว่านั้นอยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงสามคนเดินมาขวางนามิกับอาย
“นี่เธอ!!!” ผู้หญิงที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจ๊กเรียกนามิด้วยน้ำเสียงไม่พอใจกับสายตาที่ไล่สำรวจนามิตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามก่อนจะเบะปาก
“เรียกฉันเหรอ!?” นามิชี้มือมาที่ตัวเองพร้อมถามกลับด้วยความสงสัยเธอไม่รู้จักผู้หญิงตรงหน้าทั้งสามคนที่มาขวางเธอไว้สักนิด นี่อย่าบอกนะว่าเธอกำลังโดนรบกวนชีวิตอันสงบสุขเข้าแล้วเร็วเกินไปไหม
“ถ้าเธอคือคนที่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของพี่โปรดเมื่อเช้าละก็ ใช่!!!”
“ทำไม แล้วพวกเธอมีอะไรกับฉัน”
“เธอกล้าดียังไงถึงเสนอหน้าไปอ่อยพี่โปรดจนได้ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของเขาแบบนั้น”
“ฉันเนี่ยนะไปอ่อยเขา เธอเอาอะไรคิด” นามิถามออกไปด้วยน้ำเสียงแปลกใจเธอเนี่ยนะไปอ่อยพี่โปรดเมื่อไหร่ ตอนไหน ทำไมเธอไม่รู้เรื่องและที่เขาให้เธอซ้อนท้ายมาด้วยก็เพราะรู้จักไหม
“ก็ถ้าเธอไม่อ่อยแล้วพี่เขาจะให้เธอซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์พี่เขาได้ยังไง”
“ฉันกับพี่โปรดเรารู้จักกันเขาเห็นฉันเดินอยู่ก็เลยให้ซ้อนท้ายมาด้วยก็แค่นั้นเอง”
“ฉันไม่เชื่อ พี่โปรดไม่เคยให้ใครซ้อนท้ายรถง่าย ๆ และที่ฉันมาวันนี้ฉันมาเตือนเธอให้อยู่ห่าง ๆ จากพี่โปรดของฉันไว้”
“แล้วฉันต้องทำตามไหม” นามิเลิกคิ้วขึ้นถามด้วยท่าทางกวน ๆ ผู้หญิงพวกนี้เป็นใครรู้จักหรือก็ไม่อยู่ดีดีจะมาสั่งให้เธอทำโน่นทำนี่
“แก!!!”
“ฉันว่าทางที่ดีเธอไปห้ามพี่โปรดของเธออย่าให้มายุ่งกับฉันจะดีกว่าไหม เพราะฉันก็อยู่ของฉันดี ๆ และอีกอย่างเธอไม่ควรมาระรานหาเรื่องกันแบบนี้” นามิตอบกลับสามสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ได้โกรธเคืองหรือโมโห ถึงเธอจะเป็นคนชอบอยู่แบบสงบก็จริงแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่สู้คนใครแรงมาเธอก็แรงกลับไม่โกง
“ปากดี!!! ครั้งนี้พวกฉันจะปล่อยเธอไปก่อนแต่ถ้ามีครั้งต่อไปพวกฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง” แต่ดูเหมือนว่าคำพูดของนามิจะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นโมโหแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะจุดที่พวกเธอยืนอยู่นั้นใกล้กับโรงอาหารที่มีผู้คนพลุกพล่านและหลายคนกำลังมองอยู่ด้วยความสนอกสนใจ
“ขู่!?? อย่างงั้นเหรอ”
“แล้วแต่เธอจะคิด” พูดจบสามสาวก็พากันเดินออกไปทันทีโดยมีสายตาของนามิกับอายมองตามไปด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ เพราะผู้ชายเพียงคนเดียวทำไมถึงได้ทำให้ชีวิตเธอวุ่นวายนี่แค่เพิ่งผ่านไปยังไม่ทันข้ามวันก็เริ่มมีคนเข้ามาหาเรื่องมาก่อกวนความสงบของเธอ แล้วถ้าเย็นนี้เธอกลับกับเขาตามที่เขาบอกเธอคิดไม่ออกเลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง นามิระบายลมหายใจยาวออกมาอย่างเหนื่อยใจ
“เฮ่อ.... นามิเซ็ง”
“เซ็งอะไร”
“ช่างมันเถอะอาย นามิว่าเราไปอะไรกินดีกว่า หิวแล้ว” นามิตัดบทไม่อยากอธิบายอะไรตอนนี้ ขอเวลาเธอสงบจิตสงบใจสักหน่อยก่อนดีกว่า
“อื้ม”