เจ็บช้ำ

1067 Words
เพี๊ยะ!          “คุณทำแบบนี้ได้ยังไง?!”          “ผมขอโทษ”          “นอกจากคำว่าขอโทษแล้ว คำอื่นคุณคิดจะพูดกับฉันบ้างหรือเปล่า คำว่าซื่อสัตย์คุณคิดจะพูดบ้างไหม” จันทราเขย่าแขนสามีอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาพรั่งพรูอาบสองแก้ม  “ฉันเคยบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่งกับคนในบ้าน คุณเคยฟังฉันบ้างไหม!” เธอกรีดร้อง รัวกำปั้นใส่เขาไม่ยั้งคล้ายคนบ้าเข้าไปเต็มที          เอมอรที่นั่งพับเพียบกับพื้นก็ไม่ต่างอะไรกับหญิงสาวอีกคน ใบหน้าของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ต่างกันตรงที่เธอมีรอยฟกช้ำเพราะถูกตบไปหลายฉาด ความจริงเธอไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ตั้งใจจะลาออกและจากไปอย่างเงียบๆ แต่คุณนายของเธอฉลาดเหลือเกิน          “ผมจะให้เธอไปจากที่นี่”          “มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว” จันทรากระชากคอเสื้อผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีให้มาปะทะกันแนบชิด กรอกเสียงเครียดพอได้ยินกันสองคน “พ่อฉันเป็นอธิบดีกรมอัยการ ส่วนคุณเป็นถึง สส. ถ้าข่าวนี้รั่วออกไปคงต้องเอาปี๊บคลุมหัวกันทั้งตระกูลแน่.. รีบจัดการซะเดี๋ยวนี้!” แล้วผลักออกไปสุดแรง จนร่างสูงใหญ่นั้นเซไปด้านหลังหลายก้าว   สาธิตมองภรรยาที่เดินกระแทกเท้าห่างออกไปเรื่อยๆ ประโยคสุดท้ายของเธอเขารู้ดีว่าหมายถึงอะไร หยิบนามบัตรออกมาเขียนข้อความสั้นๆ ไว้ที่ด้านหลัง ก่อนยื่นให้เด็กสาวที่นั่งก้มหน้านิ่งพร้อมกับเงินจำนวนหนึ่ง          “ฉันจะให้คนสนิทไปส่งที่ท่ารถและจัดการเรื่องตั๋วให้ ไปถึงโน่นแล้วไปหาคนชื่อสาธรตามที่อยู่นี้นะ เจอเขาแล้วยื่นนามบัตรนี้ให้เขา” มองมืออันสั่นเทาของเธอค่อยๆ ยื่นมารับเงินและนามบัตรไว้ด้วยความรู้สึกสงสารจับหัวใจ แต่ถ้าเขาไม่ทำแบบนี้เธอตายแน่ “ฉันจะรีบแจ้งข่าวให้ทางโน้นรู้โดยเร็วที่สุด”          “ขอบคุณค่ะคุณท่าน”          สาธิตคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น ก้มหน้าลงไป ให้ปากอยู่พอดีกับระดับหูของหญิงสาววัยกำดัด “จำคำของฉันไว้แล้วทำตาม” พูดเสียงเบาแต่แฝงความหนักแน่นจริงจัง “คนที่นั่นจะดูแลเธออย่างดี แต่เธอต้องทำตัวให้เหมือนอยู่ในคุก ยิ่งตัดขาดจากโลกภายนอกได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี เข้าใจไหม” “ทำไมหรือคะ” “อย่าถามฉันเลยนะว่าเพราะอะไร เธออยู่ที่นี่มานาน น่าจะรู้กิตติศัพท์ของคุณนายดี”          “ค่ะ อรทราบดี อรขอลาคุณท่านตรงนี้เลยนะคะ” หญิงสาวก้มกราบที่อกของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีด้วยน้ำตานองหน้า ถึงแม้จะไม่ได้มาด้วยความยินยอมแต่เขาก็ดีกับเธอเสมอมา.. เธอรู้ตัวว่าท้องเมื่อสามวันที่แล้ว เมื่อคิดหน้าคิดหลังถึงผลได้ผลเสีย จึงตัดสินใจลาออกเพื่อไม่ให้คนที่นี่รู้เรื่องของเธอกับคุณผู้ชาย แต่สุดท้ายก็ไม่รอด โชคดีที่ไม่ได้หลุดปากพูดเรื่องท้อง ไม่อย่างนั้นเธอกับลูกอาจจะได้รับอันตรายก็ได้ เธอเลือกที่จะไปตามที่เขาบอก เพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่าอยู่ที่นี่ หรือถ้าเขากล้าหลอกเธอไปฆ่า ก็ถือว่าเป็นเวรกรรมที่เคยทำกับเขาไว้ ขอให้หมดเวรหมดกรรมกันในชาตินี้          “เห็นแก่ฉันเถอะนะ” สีหน้าของคนขอร้องเต็มไปด้วยความเครียดขรึม          “ทำไมผมต้องตามเก็บให้พี่ด้วยล่ะ” สาธรเท้าเอวเดินกลับไปกลับมา สีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้กัน สาธิตโทรเลขมาบอกให้เขารับเอมอรมาอยู่ที่นี่ด้วยเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ถ้ามีโอกาสจะมาหาและอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง เขาจึงทำตามโดยดี แต่ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้เขาไม่เข้าไปยุ่งด้วยเด็ดขาด          “แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง แกน่าจะรู้ว่าเมียฉันร้ายขนาดไหน?”          “ไหนพี่บอกว่าทุกครั้งแค่เอาเงินปิดปากไง?” พี่ชายเขาเป็นคนเจ้าชู้มากเมียมาตั้งแต่เป็นหนุ่ม แต่งงานแล้วก็ยังไม่เลิกนิสัยเดิมๆ ภรรยาเขาก็น่าจะรู้แต่ไม่เคยเห็นออกหน้าขนาดนี้ แล้วครั้งนี้มันเกิดอะไรขึ้น          “นั่นมันพวกมืออาชีพ แต่นี่มันคนในบ้านนะไอ้ธร”          “แล้วพี่ทำทำไม! พี่ก็รู้ว่าเมียพี่เจ้ายศเจ้าอย่าง รักษาหน้ารักษาเกียรติจะตาย ทำไมพี่ไม่ไปกินให้มันไกลๆ ตัวหน่อยล่ะ” เพราะเป็นแบบนี้นี่เองพี่สะใภ้ถึงอาละวาดหนัก          “ถ้ารู้กูคงให้อรเค้าลาออกไปตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในบ้านนั่นแล้ว กูก็ไม่คิดมาก่อนหรอกว่าจะพอใจคนใช้คนหนึ่งได้มากขนาดนี้ มึงก็รู้ว่ากูแต่งงานกับจันทราเพราะอะไร.. เห็นแก่ความเป็นพี่น้อง ช่วยพี่หน่อยนะธรนะ” ความไร้น้ำใจของน้องชายทำให้เขาระเบิดความอัดอั้นเข้าใส่ เมื่อได้ระบายไปแล้วก็โล่งใจขึ้นมาก จึงตบท้ายด้วยคำขอร้อง          ก๊อกๆๆ         การสนทนาระหว่างพี่น้องถูกขัดจังหวะด้วยบุคคลที่สามที่อยู่หลังบานประตู สาธรมั่นใจว่าต้องไม่ใช่เด็กรับใช้เพราะสั่งไว้แล้ว ความน่าจะเป็นจึงตกอยู่ที่หญิงสาวหน้าตาใสซื่อ นามว่าเอมอร จึงเดินไปเปิดประตูที่ล็อกไว้          “อรขอโทษนะคะที่ขัดจังหวะ แต่อรมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับคุณธร”          เห็นสายตาที่สบมามีความมุ่งมั่นแกมหวาดหวั่นของเธอ เขาก็ใจอ่อนขึ้นมาดื้อๆ  ขยับเท้าหลีกทางให้เธอ “เข้ามาสิ”       “อรขอคุยกับคุณธรตามลำพังนะคะ” เอมอรไม่ได้เดินเข้าไปตามคำเชิญ แต่ขอร้องให้เขาออกมาจากห้องแทน          สาธรชำเลืองมองพี่ชายแวบหนึ่ง “ไปรอที่ห้องหนังสือนะ เดี๋ยวฉันตามไป” เขาเลือกที่นั่นเพราะมันเงียบและคนอื่นไม่สามารถได้ยินการสนทนาของพวกเขาได้แน่ๆ เนื่องจากห้องหนังสือเป็นห้องที่ต้องใช้สมาธิสูง เขาจึงบุห้องเป็นห้องเก็บเสียงอย่างดี…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD