“นอนลงค่ะ เดี๋ยวฉันช่วยเอง” เอวารินดันไหล่ของคนตัวโตให้หงายหลังนอนราบลงกับเตียงนอนแล้วจัดการรูดซิบกางเกงของเขาลงแล้วดึงมันออกไปทางปลายเท้าพร้อมกับกางเกงชั้นใน
ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งสบายเมื่อได้รับการปลดปล่อย
“ฉะ...ฉัน...ต้องทำยังไงต่อคะ” เอวารินถามตะกุกตะกัก
มาร์คัสผงกศีรษะขึ้นมองหญิงสาวที่นั่งจ้องมังกรยักษ์ของเขาจนตาค้างแล้วอดแปลกใจไม่ได้ “ไม่เคยเห็นเหรอ”
หญิงสาวส่ายหน้าพรืดโดยไม่ยอมละสายตาไปจากความเป็นชายของเขาเลย “ฉันไม่แน่ใจว่าไม่เคยเห็นหรือจำไม่ได้ว่าเคยเห็นกันแน่”
คราวนี้มาร์คัสยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วจับมือเล็กมากำรอบตัวตนที่แกร่งชันของเขาแล้วจับมือเธอขยับขึ้นลงเชื่องช้าเป็นการชี้นำเธอก่อน
เอวารินร้อนวาบไปทั่วช่องท้องเมื่อได้สัมผัสกับท่อนเนื้อขนาดใหญ่ที่มือเธอเกือบกำไม่รอบ ผิวของมันเรียบลื่น ให้ความรู้สึกทั้งอ่อนนุ่มและแข็งแกร่งในคราวเดียวกัน ช่างเป็นอวัยวะที่มหัศจรรย์จริงๆ
“ทำแบบนี้แล้วจะช่วยคุณได้เหรอคะ” เธอเงยหน้าขึ้นถามน้ำเสียงแผ่วหวานชวนให้เคลิบเคลิ้ม ในขณะที่มือก็ยังคงทำหน้าที่อย่างแข็งขัน
“ได้...แต่คุณต้องทำเร็วขึ้นอีก”
หญิงสาวขยับมือขึ้นลงตามความยาวเร็วขึ้นตามที่เขาบอก ยิ่งได้ยินเสียงลมหายใจที่ถี่กระชั้นกับเสียงครางแหบพร่าในลำคอของเขามือเธอก็ยิ่งขยับเร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ
มาร์คัสคำรามเสียงทุ้มต่ำในลำคอเมื่อทะยานไปสู่จุดสูงสุด
“คุณโอเคมั้ยคะมาร์ค” เอวารินหยุดมือแล้วเงยหน้าขึ้นถามเขาด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่รู้ว่าที่เขามีอาการแบบนี้เป็นเพราะอะไร เธอกลัวว่าถ้าทำแรงเกินไปแล้วจะทำให้เขาเจ็บ
“โอเคมากๆ” ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงมาจูบขอบคุณเธออย่างดูดดื่ม แต่พอเธอเริ่มจูบตอบมังกรยักษ์ของเขาก็เริ่มขยับตัวอีกครั้ง แต่คราวนี้มาร์คัสจำเป็นต้องข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้แล้วหยุดอยู่แค่จูบ
มาร์คัสฉวยจังหวะที่เอวารินกำลังวุ่นวายอยู่กับการควบคุมสาวใช้ให้ขนย้ายของใช้ส่วนตัวของเธอจากห้องนอนสีชมพูไปไว้ที่ห้องนอนของเขาหลบมาคุยกับโทนี่ในห้องทำงาน
“งานที่นิวยอร์กมีปัญหาอะไรมั้ย”
“ไม่มีครับ ทุกบริษัทในเครือมีคณะผู้บริหารที่ไว้ใจได้อยู่แล้ว” ลูกน้องคนสนิทรายงานแล้วส่งกระเป๋าเป้ของเอวารินที่เก็บมาจากลานจอดรถของโรงแรมในคืนเกิดเหตุให้ผู้เป็นนาย “กระเป๋าของคุณรินครับ ส่วนรถของเธอผมให้คนเอามาจอดไว้ที่นี่แล้ว”
นักธุรกิจหนุ่มรับกระเป๋าเป้มาเปิดดู ในนั้นมีเพียงของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นจำพวก กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเครื่องสำอาง กุญแจรถ กุญแจคอนโดและของใช้จุกจิกของผู้หญิงอีกสองถึงสามชิ้น ส่วนพวงกุญแจที่เจสันฝากไว้ก่อนเสียชีวิตยังห้อยอยู่ที่เดิมแต่มาร์คัสไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนักเพราะไม่คิดว่ามันจะเป็น ‘ของสำคัญ’
“ผมไปค้นดูที่คอนโดคุณรินแล้ว ไม่มีเบาะแสอะไรเกี่ยวกับคุณเจสันหรือว่าพวกคนร้ายเลย เห็นแต่ผู้หญิงที่ชื่อซินดี้ไปตามหาคุณรินที่คอนโด ท่าทางเธอร้อนใจมากที่คุณรินหายตัวไป ผมว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เธอจะแจ้งตำรวจ”
มาร์คัสคิดนิดหนึ่งแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของเอวารินขึ้นมากดส่งข้อความไปบอกซินดี้ว่า ‘อยู่ต่างจังหวัด ปลอดภัยดี ไม่ต้องเป็นห่วง’ แล้วกดปิดเครื่อง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นถามลูกน้องคนสนิทด้วยแววตาแข็งกระด้าง
“ไอ้เซบาสเตียนมีความเคลื่อนไหวอะไรมั้ย”
“เก็บตัวเงียบครับ คิดว่าพวกมันคงรอให้เรื่องเงียบก่อนค่อยลงมืออีกครั้งเพราะเหตุการณ์ไล่ยิงกันกลางดึกคืนนั้นนักข่าวให้ความสนใจกันมาก ตำรวจก็กำลังตามหากันให้ควั่ก”
“ก็ดี...ช่วงที่มันเก็บตัว ฉันจะเร่งฟื้นความทรงจำให้ริน จะได้รู้สักทีว่าของที่เจสันฝากไว้อยู่ที่ไหน” มาร์คัสเอากระเป๋าเป้ของเอวารินไปเก็บไว้ในตู้เซฟแล้วกลับไปหาเธอที่ห้องนอน แต่ให้ตายเถอะ แค่คิดว่าคืนนี้จะต้องนอนเตียงเดียวกับเธอทั้งคืนแต่สอดแทรกมักกรยักษ์เข้าไปในตัวเธอไม่ได้ แค่นี้เขาก็รวดร้าวไปหมดแล้ว
ไม่รู้ว่าเขาจะทนกับความทรมานแบบนี้ไปได้สักกี่คืน
มาร์คัสเดินมาถึงหน้าห้องนอนแล้วหยุดสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อรวบรวมสติสองถึงสามครั้งก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป
“หายไปไหนมาตั้งนานคะมาร์ค” เอวารินที่นั่งทาแฮนด์ ครีมอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหันมาถามผู้ที่เธอเข้าใจว่าเป็นสามีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“คุณอาบน้ำ...แล้วเหรอคะ” มาร์คัสถามอึกอัก ลมหายใจขาดห้วงเหมือนคนหายใจไม่ออกเมื่อเห็นชุดนอนแสนเซ็กซี่ที่เธอสวมอยู่
มันเป็นชุดนอนสายเดี่ยวคอคว้านลึกจนเห็นทรวงอกเต็มอิ่มเกือบครึ่ง สีแดงสดของเนื้อผ้าซาตินเนื้อนุ่มลื่นมันวาวขับให้สีผิวที่ขาวละเอียดของเธอยิ่งผุดผ่องดั่งมีออร่าเปล่งประกาย ชายกระโปรงที่มีความยาวเลยสะโพกลงมาเพียงแค่ปกปิดบั้นท้ายมิดนั้นเผยให้เห็นขาเรียวยาวสมกับที่เป็นนางแบบ
“ตอนแรกก็ว่าจะรออาบพร้อมคุณ แต่ฉันเริ่มง่วงแล้วก็เลยอาบก่อน” เธอเดินเข้ามาสวมกอดเขาทางด้านหน้าด้วยแขนทั้งสองข้าง ทำให้หน้าท้องแบนราบกดแนบลงบนความเป็นชายที่เพิ่งสงบลงได้ด้วยน้ำมือเธอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ แต่แล้วเธอก็กำลังจะทำให้มันตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยความออดอ้อนอย่างเป็นธรรมชาติโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว ว่ามันเป็นการปลุกเร้าเขาอย่างร้ายกาจ
“ถ้าคุณง่วงก็นอนก่อนได้เลย ไม่ต้องรอผม” มาร์คัสจับต้นแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวดันตัวเธอออกห่าง “ผมขอไปอาบน้ำแป๊บนึง”
“ให้ฉันช่วยอาบให้มั้ยคะ คุณเจ็บแผลอยู่คงอาบไม่ถนัด”
“ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วละ ผมอาบเองได้” เขารีบปฏิเสธเพราะไม่อยากเพิ่มความทรมานให้ตัวเองไปมากกว่านี้
“ถ้าอย่างนั้นก็อาบเร็วๆ นะคะ ฉันอยากนอนกอดคุณ แล้วก็อยากให้คุณเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวฉันให้ฟังด้วย เผื่อฉันจะจำอะไรได้บ้าง” หญิงสาวเดินไปส่งเขาที่หน้าห้องน้ำแล้วกลับมานอนรอที่เตียง
มาร์คัสระบายลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเข้ามาอยู่ตามลำพังในห้องน้ำ เพราะถ้ายืนให้เธอกอดนานกว่านั้นอีกสักนาทีเดียวมังกรยักษ์ของเขาต้องพ่นไฟใส่เธอแน่
ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าออกแล้วเข้าไปยืนเปลือยกายใต้ฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ขนาดใหญ่แล้วเปิดน้ำให้รินรดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเพื่อดับความร้อนรุ่ม เขาไม่เคยมีอาการแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน นี่ถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นคนดีและความจำเสื่อมอยู่ เขาก็คงจะไม่อดทนกับเธอขนาดนี้
มาร์คัสใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อถ่วงเวลาให้ เอวารินหลับก่อนแล้วค่อยออกไปและก็เป็นไปตามที่คิด หญิงสาวนอนรอเขาจนเผลอหลับไปไม่รู้ตัว เธอห่มผ้ามิดจนถึงคอปกปิดเรือนร่างเซ็กซี่เอาไว้มิดชิด ซึ่งนับเป็นผลดีต่อมังกรยักษ์จอมพยศของเขาเป็นอย่างมาก
ชายหนุ่มรีบแต่งตัวแล้วปิดไฟทุกดวงในห้องจากนั้นก็คลานขึ้นเตียงไปสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเธออย่างเบาเสียงที่สุดเพราะเกรงจะทำให้หญิงสาวจอมยั่วตื่นขึ้นมาป่วนความรู้สึกเขาอีก คิดแล้วเขาก็นึกสมเพชตัวเองที่ต้องมาตกอยู่ในสภาพหวาดระแวงผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ ถ้าโทนี่รู้จะต้องหัวเราะเยาะเขาจนท้องแข็งแน่นอน
“ทำไมอาบน้ำนานจังเลยคะ” เอวารินงัวเงียถามพลางเบียดตัวเข้ามาซุกกับแผงอกอบอุ่นของเขา แขนเรียวเล็กเลื่อนมาพาดทับเหนือเอว ส่วนขาข้างหนึ่งก็ยกขึ้นมาเกยทับบนหน้าขาของเขาราวกับเป็นหมอนข้าง
มาร์คัสนอนตัวแข็งทื่อในความมืดไม่กล้าขยับตัวเพราะจะทำให้ความเป็นชายเสียดสีกับหน้าขาที่เกยทับอยู่ด้านบน ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกทางจมูกและระบายออกทางปากช้าๆ เพื่อสงบตัวเอง
ให้ตายสิ ทำไมเขาต้องแข็งขึงทุกทีที่ถูกเธอสัมผัส