บทที่ 1.1 -ความแค้นฝังอก

1680 Words
“เอาล่ะ… วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะทุกคน” น้ำเสียงราบเรียบกล่าวบอกเด็กน้อยชายหญิงกลุ่มหนึ่ง สิ้นเสียงจากสตรีร่างบางพวกเขาต่างทำความเคารพกันอย่างพร้อมเพรียง เรียวปากบางยิ้มกว้าง แม้ภายนอกจะน่าเกรงขามเพียงใดหากเวลาอยู่กับเหล่าปีศาจน้อยตัวเล็กๆ เธอมักจะอ่อนโยนเสมอ “องค์หญิงเพคะ องค์หญิง!” ดวงตาเรียวรีหันมองผู้ที่วิ่งตาตื่นเข้ามาหา กรอบหน้าหวานเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเปียกชุ่ม “มีอะไรจัสมิน” จัสมิน นางในส่วนพระองค์ที่ดูแลกันมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ย่อกายทำความเคารพสตรีผู้สูงศักดิ์ ดวงตากลมโตของอีกฝ่ายสั่นระริกพานให้คนมองแอบหวั่น “จัสมิน…” “ฝะ ฝ่าบาท!” พูดเพียงเท่านั้น แอนเดรีย ก็รีบวิ่งออกจากห้องโถงกว้างใหญ่ทันที จัสมินรีบตามออกไป หน้าห้องบรรทมของผู้ยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยหมอหลวงจากหลากหลายสำนัก และคณะเสนาบดีชั้นสูง ทุกคนยืนกุมมือประสานในท่าทีสงบนิ่ง พอเห็นองค์หญิงเสด็จมาพวกเขาต่างเปิดทางตรงกลางเพื่อให้เธอเดินได้สะดวก ลำคอศอแห้งผาก มือนุ่มสั่นเทิ้มพอๆ กับพระวรกาย “ท่านพี่” ใบหน้าคมคายแดงซ่านเต็มไปด้วยเส้นเลือดประปราย ช่างน่าสยดสยองเหลือเกิน แอนเดรียประคองศีรษะพี่ชายสุดที่รักขึ้นแนบอก น้ำตาไหลทะลักยามเห็นสภาพน่าอดสูแห่งผู้ปกครองรัฐ “ทำไมเป็นแบบนี้ ใครทำอะไรท่านพี่ บอกน้องมาเพคะ” ใบหน้างามสั่นร้าวอย่างปวดใจ “พะ พวกมัน Black Rose มัน อ๊าค!” บาดแผลที่ลามไปทั่วร่างกายไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใดได้อีก เลือดสีฟ้าไหลทะลักออกปากและจมูก ผู้ปกครองรัฐเจ็บปวดแสนสาหัสแต่ยังพยายามฝืนยิ้มให้น้องสาว “อะ แอนเดรีย” น้ำตาลูกผู้ชายรินไหล รู้แน่ชัดว่าหลังจากนี้ต้องปล่อยมือจากน้องสาวแสนรัก “ท่านพี่เพคะ ท่านพี่ อย่าทรงเป็นอะไรนะเพคะ” เสียงหวานสั่นเครือ “จะยืนนิ่งกันอีกนานไหม ทำไมไม่ถวายการรักษา อยากโดนตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรหรือไง!” แอนเดรียตวาดกร้าวใส่บรรดาหมอหลวงที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา พอได้ยินผสุรวาทเช่นนั้นพวกเขาก็กลัวเข้าไปใหญ่ ไม่มีใครกล้าเงยหน้าสบตากับองค์หญิงผู้กำลังเกรี้ยวกราดเลยสักคน “มะ ไม่มีประโยชน์หรอกแอนเดรีย” น้ำเสียงขาดห้วงเอ่ย “ท่านพี่…” “พี่โดนมนตราจากพวกมันเล่นงาน มะ ไม่รอดหรอก” คนกำลังจะตายยอมจำนนต่อโชคชะตา ทว่าร่างบางกลับไม่คิดเช่นนั้น “ไม่เพคะ! ท่านพี่ต้องหาย น้องจะรักษาท่านพี่เอง” แอนเดรียค่อยๆ วางศีรษะพี่ชายลงบนเตียง จากนั้นก็เริ่มร่ายเวทมนต์ตามที่ได้ร่ำเรียนมา ทว่าสิ่งที่เธอทำกลับไม่เป็นผล บาดแผลของพี่ชายไม่มีท่าทีจะเลือนหาย ตรงกันข้ามกลับมากขึ้นๆ จนร่างหนาใกล้หมดความอดทนลงไปทุกที “ท่านพี่” แอนเดรียซบหน้ากอดพี่ชายแน่น เกลียดตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนที่รักสุดหัวใจได้ “พี่ฝากดูแลทุกคนด้วย พะ พี่ พี่รักน้อง” มือหนาจับใบหน้าเรียวเล็ก ความทรมานกำลังกัดกินร่างกายให้เจ็บปวด “น้องก็รักท่านพี่เพคะ” คนพูดน้ำตาไหลพราก ชายหนุ่มยิ้มรับให้กับถ้อยคำสุดท้ายของผู้เป็นน้องสาว ก่อนที่พิษแห่งมนตราจะคร่าชีวิตของเขาไปตลอดกาล “ม่ายยยยยยยยยย!!!!” เสียงหวานกรีดร้องทรมาน โอบกอดร่างหนาเอาไว้แนบอก น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไม่อาจชุบชีวิตของคนที่เธอรักให้ฟื้นขึ้นมาได้ “ไอ้พวก Black Rose ฉันจะแก้แค้นพวกแกทุกคน!!!” ‘ประกาศจากสำนักราชวัง บัดนี้ผู้ปกครองรัฐแห่งวารีได้สิ้นพระชนม์ลงแล้ว’ แอนเดรียนั่งร้องไห้กอดศพพี่ชายตลอดเวลา… ความรู้สึกสูญเสียอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อีกแล้วในชาตินี้ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไม่ได้ช่วยให้ความทุกข์เลือนหายไปจากใจ ใบหน้าซีดเผือดของคนในอ้อมกอดเริ่มประจักษ์แก่สายตา เขาหลับใหลท่ามกลางความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ทิ้งให้น้องสาวผู้น่าสงสารต้องเผชิญกับโลกแสนโหดร้ายเพียงลำพัง “องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันว่าทรงพักผ่อนก่อนเถอะนะเพคะ หรือไม่ก็เสวยอาหารสักเล็กน้อยเถอะเพคะ” จัสมินเป็นห่วงองค์หญิงของตน นั่งมองแอนเดรียกอดพระศพแห่งผู้ปกครองรัฐมาร่วมหลายชั่วโมงแล้ว “ไม่… ฉันจะอยู่กับท่านพี่” น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นช่างเลื่อนลอยน่าสงสาร จัสมินถอนหายใจพลางมองไปรอบๆ ห้อง บรรยกาศอึมครึมแทรกแซงทันทีที่บ้านเมืองเกิดเหตุร้าย กษัตริย์สิ้นพระชนม์กะทันเช่นนี้เหล่าพสกนิกรจะทำอย่างไร พวกเสนาบดีที่คิดร้ายคงไม่แคล้ว… “องค์หญิงเพคะ” จัสมันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงรีบเดินไปแตะแขนของแอนเดรีย “หม่อมฉันว่าเรารีบกลับห้องบรรทมก่อนดีกว่าเพคะ” “ทำไม?” แอนเดรียละสายตาจากศพพี่ชายหันมองนางในคนสนิท “ฝ่าบาทสิ้นพระชนม์แบบนี้หม่อมฉันว่าควรคิดเตรียมการข้างหน้าดีกว่าเพคะ ตอนนี้อะไรๆ คงเปลี่ยนแปลงไม่น้อย” แอนเดรียคิดตามในสิ่งที่จัสมินกล่าว หล่อนวางศีรษะของพี่ชายลงบนเตียงกว้าง น้ำตารินไหลอาบแก้มตลอดเวลายามเห็นสายเลือดหนึ่งเดียวในครอบครัวจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ แอนเดรียจับแก้มสากของร่างไร้สติ “พี่เซนโยช่วยเป็นกำลังใจให้น้องด้วย น้องจะทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองของเราขับเคลื่อนไปข้างหน้า และน้องก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้พวกมันต้องทุกข์ทรมานถึงที่สุด!” แน่นอน ความเจ็บปวดครั้งนี้เธอขอสาบานต่อพระเจ้าว่าจะตอบแทนพวก Black Rose ให้ถึงที่สุด พวกมันทุกคนต้องรับรู้ถึงความทุกข์แสนสาหัสจากการกระทำอันต่ำช้า ใครที่ฆ่าพี่ชายของเธออย่าหวังว่าจะได้อยู่เป็นสุข “ไปกันเถอะเพคะ” แอนเดรียลุกตามจัสมินออกไปจากห้องบรรทมของพี่ชาย ไม่วายหันหลังมองแล้วร้องไห้อีกครา จัสมินสงสารอีกฝ่ายสุดหัวใจ เธอประคองร่างบางออกจากห้องแม้อีกฝ่ายจะไม่อยากไปเลยก็ตาม ระหว่างทางเดินไปยังห้องบรรทมของแอนเดรียนั้นเงียบสนิท บรรดานางในและเหล่าทหารคงเตรียมการสำหรับพิธีกรรมทางศาสนาให้แด่กษัติริย์ผู้ล่วงลับ ไอเย็นจากอากาศภายนอกช่างหนาวเหน็บ หากกระนั้นหัวใจของแอนเดรียกลับไร้ความรู้สึก มันตายด้านและเย็นชายิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น “หม่อมฉันว่าพวกเสนาบดีฝั่งซ้ายต้องคิดทำการไม่สู้ดีอยู่แน่ๆ” จัสมินเป็นกังวล เพราะรู้มาว่าเสนาบดีฝั่งซ้ายคิดไม่ซื่อกับบ้านเมือง ที่เมืองวารีอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้เพราะพวกคนเลวยังเกรงกลัวอำนาจของฝ่าบาท หากไร้ซึ่งบารมีเช่นนี้แล้ว… แอนเดรียคือผู้ที่น่าสงสารที่สุด สถานะองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวถือเป็นทายาทคนสำคัญแห่งตระกูล “ไม่หรอกจัสมิน เขาไม่กล้าหรอก” แอนเดรียไม่คิดเช่นนั้น เธอมองว่าเสนาบดีท่านอื่นที่มีใจรักต่อบ้านเมืองต้องช่วยกันขัดขวางไม่ให้พวกคิดกบฏได้ต่อต้านราชวงศ์ “แต่ว่า…” “ตอนนี้เรามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำมากกว่าคิดเรื่องพวกนี้” สายตาของแอนเดรียเปลี่ยนไป จัสมินรู้สึกหวาดหวั่นกับนัยน์ตาเลือดเย็นคู่นั้น “ฉันจะเข้าเมือง Black Rose” สิ้นเสียงขององค์หญิงจัสมินก็เบิกตากว้างทันใด “ไม่ได้นะเพคะ!” เธอร้อนรน “เมือง Black Rose อันตรายเกินกว่าที่ชาววารีอย่างเราจะเข้าถึง และที่สำคัญถ้าเขารู้ว่าเราเป็นคนของฝ่าบาทเซนโยเขาต้องฆ่าเราแน่ๆ” “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ฉันไม่ได้ให้เราเข้าไปโดยประเจิดประเจ้อเสียเมื่อไหร่” แอนเดรียว่าอย่างคนมีแผน และเธอมั่นใจว่าแผนของเธอนั้นแยบยลจนพวกนั้นคิดไม่ถึง “แต่ตอนนี้บ้านเมืองของเรา” จัสมินยังคงห่วงบ้านเมืองมากกว่าการคิดแก้แค้น “องค์หญิงเพคะ…” “บ้านเมืองฉันก็ห่วงนะจัสมิน แต่ถึงฉันอยู่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะฉันเป็นผู้หญิงและยังไม่ได้แต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองรัฐ ด้วยอายุของฉันต้องรอให้ถึงเวลาที่เหมาะถึงจะทำหน้าที่ยิ่งใหญ่ได้” แอนเดรียอธิบายให้จัสมินเข้าใจ เธอไม่อยากให้นางในที่รักยิ่งเหมือนน้องสาวคิดว่าตนเอาแต่ความแค้นมาบดบังหน้าที่และความรับผิดชอบที่ควรมีต่อประชาชน “ยังไงซะตอนนี้เราก็ต้องให้หน่วยรักษาการแทนทำหน้าที่แทนไปก่อน” แอนเดรียคิดว่าทางออกนี้คือดีและเหมาะสมที่สุด “ถึงอย่างนั้นหม่อมฉันก็ไม่อยากให้องค์หญิงเข้าไปยังเมือง Black Rose เพคะ มันอันตรายเกินไป” จัสมินไม่ได้กลัวตายหรืออะไรทั้งนั้น ห่วงก็แต่องค์หญิงของเธอ แอนเดรียเป็นคนใจร้อนและมุทะลุ ยิ่งมีเรื่องเคียดแค้นแบบนี้เธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะเก็บอาการไม่อยู่แล้วเผลอทำในสิ่งที่เป็นโทษต่อตัวเองได้ “ต่อให้แลกด้วยชีวิจฉันก็จะไป!” ครั้นบทจะรั้นแอนเดรียก็ทำได้ดีไม่แพ้ใคร จัสมินหมดหวังที่จะพูดเพื่อให้องค์หญิงเปลี่ยนใจ ด้วยรู้จักนิสัยใจคออีกฝ่ายดี หากพูดคำไหนก็ย่อมต้องเป็นคำนั้น เห็นทีงานนี้จัสมินคงต้องปล่อยให้แอนเดรียทำตามความต้องการโดยไม่สามารถหยุดยั้งอะไรได้เลย!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD