“ฉันชอบให้ปลายฟ้าใส่ชุดสีดำเพราะมันดูเซ็กซี่ดี”
น้ำเสียงของฝ่าบาทแหบพร่า ปลายฟ้าขนกายลุกชัน ตีอกคนที่กอดรัดเอวเล็กคอดในท่าทีเขินอาย
“ฝ่าบาทเพคะ อายลานนา”
เธออ้อมแอ้มพูด ปฏิกิริยาของราชินีเหมือนเด็กน้อยเวลาอยู่กับลีโอ ผิดกับบุคคลิกที่บุคคลทั่วไปพบเห็น ภายใต้ใบหน้าสวยสง่าไม่ได้เคร่งขรึมอย่างที่คิด เพียงแต่ผู้หญิงคนนี้เลือกที่จะใส่หัวโขนเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์แบบเท่านั้น ลานนาชื่นชมปลายฟ้าจากใจ หล่อนสามารถปรับตัวได้อย่างดีเยี่ยม
“อายทำไม คู่ของลานนากับริชาดยิ่งกว่านี้อีก”
ได้ทีลีโอจึงขอแกล้งเย้าแหย่อีกฝ่าย แก้มนวลแดงระเรื่อ ลานนาหลบตาไม่กล้ามองทั้งคู่
“ว่าแต่มาทำอะไรกัน หืม?”
น้ำเสียงเข้มเอ่ยถาม ปลายฟ้าผายมือไปรอบๆ ห้องกว้างใหญ่ เหล่าแจกันตั้งตระหง่านอวดโฉมความงามต่อผู้พบเห็น
“ดอกกุหลาบในแปลงของหม่อมฉันบานสะพรั่งเลยนำมาใส่แจกันไว้ตั้งโชว์ตามจุดต่างๆ ของราชวังเพคะ” ปลายฟ้ายิ้มกว้าง ภาคภูมิกับดอกกุหลาบที่ตนลงแรงปลูกเองกับมือ
“นอกจากนี้กลีบของมันยังสามารถนำไปเป็นวัตถุดิบของอาหารได้ด้วยนะเพคะ” ลานนาเสริมต่อ ลีโอพยักหน้ารับรู้
“ดอกกุหลาบของชายาฉันเนี่ยนอกจากทำเป็นน้ำชาแสนอร่อยแล้ว ยังมีสารพัดประโยชน์ให้ใช้สอยจริงๆ”
คล้ายต้องการเอ่ยชมเจ้าของมากกว่า
“เพคะ หม่อมฉันดีใจที่มันสามารถทำประโยชน์ได้หลากหลาย”
“จริงสิ ฉันมาหาเพราะต้องการถามเรื่องที่จะออกเยี่ยมเหล่าพสกนิกร คิดเรื่องอาหารที่จะนำไปเลี้ยงพวกเขาแล้วหรือยัง?”
ลีโอจดจ้องใบหน้าสวยเกลี้ยงเกลาแล้วยิ่งหลงใหล ทุกครั้งที่อยู่ใกล้ปลายฟ้าเขามักจะสดชื่นและเย็นสงบเสมอ ต่อให้ก่อนหน้าจะรุ่มร้อนด้วยเรื่องอันใดก็ตาม หากสายตาได้สบมองสตรีที่รักยิ่งหัวใจก็พร้อมสยบตลอดเวลา
“หม่อมฉันสั่งห้องเครื่องเรียบร้อยแล้วเพคะ” ปลายฟ้าตอบ
“นั่นสินะ ความจริงฉันก็ไม่น่าถามเลย เพราะว่าเธอไม่เคยบกพร่องในหน้าที่อยู่แล้ว”
ลีโอยิ้มกว้าง ลานนาเผลอตัวมองรอยยิ้มของลีโอด้วยไม่เคยเห็นเขาฉีกยิ้มกว้างแบบนี้มาก่อน
สงสัยเขาคงลืมตัวว่าห้องนี้ไม่ได้มีเพียงเขาและราชินีเท่านั้น
“เอ่อ… ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวก่อนนะเพคะ ป่านนี้ริชาดคงคงใกล้ซ้อมเสร็จแล้ว”
ทุกเย็นริชาดและเหล่าทหารจะซ้อมต่อสู้กันที่ลานประลองเพื่อเสริมฝีมือให้แกร่งกล้าเตรียมพร้อมรบทุกสถานการณ์ แม้ว่าบ้านเมือง Black Rose จะสงบสุขไร้ศึกสงครามแต่ก็ใช่ว่าในอนาคตจะราบรื่นเสมอไป ริชาดและพี่น้องต่างลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าทุกคนควรฝึกฝนด้านการศึกไม่ให้ขาด หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นจะได้มั่นใจว่าสามารถปราบปรามได้
“ริชาดเสร็จตั้งนานแล้ว เห็นเดินหาเธอให้ควั่ก”
ลีโอบอก ลานนาหน้าตาตื่น
“จริงหรือเพคะ ถ้าอย่างนั้นหม่อมฉันขอตัวนะเพคะ”
ร่างบางรีบย่อกายทำความเคารพต่อทั้งสองพระองค์ ก่อนเดินออกจากห้องบรรทมของปลายฟ้าเพื่อไปยังราชวังของตน
ดวงตากลมโตเห็นสวามีนั่งหน้าเครียดอยู่ที่เก้าอี้ไม้ก็ยิ่งหวาดหวั่น สายตาของเขาร้อนแรงและน่ากลัว ลานนาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ริชาดคงหงุดหงิดไม่น้อยที่ไม่เห็นเธอคอยต้อนรับเหมือนทุกครั้ง ปกติเวลาเขากลับจากที่ทำงานหรือกลับจากการฝึกซ้อมเธอมักจะรอปรนนิบัติด้วยน้ำเย็นชื่นใจและผ้าเช็ดหน้าคอยซับเหงื่อ ริชาดรับรู้ถึงการมาเยือนของร่างบาง เขาหันมองลานนาพลางทำตาดุใส่
“ไปไหนมา!?” น้ำเสียงเข้มห้าวแทบจะตะคอก
“ไปเข้าเฝ้าราชินีมา” ลานนาตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“สนใจแต่เรื่องอื่นยกเว้นเรื่องของฉัน”
ปีศาจหนุ่มตัดพ้อ รู้สึกว่าพักหลังมานี้ลานนามักจะมองข้ามความสำคัญของเขามากจนเกินไป
“ฉันแค่ไปช่วยพระองค์ตัดดอกไม้ใส่แจกัน แล้วก็คุยถามเรื่องวันที่จะเสด็จออกเยี่ยมประชาชน เห็นนายซ้อมอยู่ก็ไม่คิดว่าจะเสร็จเร็ว” น้ำเสียงเล็กกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเอ่ย ริชาดดูไม่สงบลงเลย เขาเม้มปากแน่น พลันสายตาหลุบมองหน้าท้องนูนเล็กน้อยของชายา อารมณ์ที่ว่าร้อนกลับเย็นลงอย่างน่าประหลาด
“ใกล้คลอดแล้วนี่”
หากเป็นโลกมนุษย์ผู้หญิงจะตั้งครรภ์ถึงเก้าเดือนด้วยกัน แต่สำหรับโลกปีศาจนั้นระยะเวลาการตั้งครรภ์มีเพียงแค่หกเดือนเท่านั้น ท้องของลานนาเข้าสู่เดือนที่ห้าแล้ว เหลือเวลาอีกไม่มากที่เธอและเขาต้องเตรียมตัวเป็นพ่อแม่มือใหม่
ริชาดอดตื่นเต้นไม่ได้ ทั้งชีวิตจับแต่หอกศาสตราวุธ แค่คิดว่าสองมือคู่นี้ต้องอุ้มปีศาจน้อยตัวเล็กๆ ที่เกิดจากเขาและสตรีอันเป็นที่รัก หัวใจด้านชาก็พองโตเต็มไปด้วยความประหม่า
“ใช่”
ลานนาลูบหน้าท้องไปมา รอยยิ้มสดใสลบล้างความโกรธก่อนหน้าไปจนหมดสิ้น ร่างสูงใหญ่เดินไปสวมกอดคนตัวเล็ก
“ริชาด” ลานนางุนงงที่จู่ๆ อารมณ์ร้อนของเขาก็เปลี่ยนเป็นอบอุ่นขึ้นมา
“ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ห่างจากเธอไม่เท่าไหร่ใจมันก็พะว้าพะวงไปหมด อย่าหายไปนานแบบนี้อีกนะ”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มออดอ้อนเหมือนเด็กน้อย
“ก็อยู่ตรงนี้แล้วไง”
“ฉันรักเธอนะลานนา”
อีกครั้งกับคำบอกรักที่เขาพร่ำพูดทุกเชื่อวัน ปีศาจหนุ่มไม่เคยเบื่อที่จะพูด ลานนาเองก็ไม่เบื่อที่จะฟังเช่นกัน คำว่ารักของเขาเหมือนยาวิเศษที่ช่วยโอบอุ้มจิตใจของเธอให้มีพลังพร้อมเผชิญกับโลกแปลกใหม่ตลอดเวลา
“หิวหรือยัง?”
ลานนาดันร่างใหญ่ออกห่างเล็กน้อย ส่งสายตามองสวามี
“อยากทานอะไรไหมเดี๋ยวจะไปทำให้” เธอส่งยิ้มหวาน
“หิวมาก” ริชาดตอบเสียงแหบพร่า ใบหน้าคมคายแดงกล้าขึ้นมา “แต่หิวน้ำมากกว่า”
“เดี๋ยวฉันไปเอามาให้นะ” ลานนาอยากเอาใจ หญิงสาวเดินไปได้ไม่กี่ก้าวริชาดก็รีบคว้าแขนกลมกลึงเอาไว้
“ไม่ต้อง” เขารั้งสตรีร่างบางมากอดแนบอก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนเรียวปากหยัก สายตานั้นดูไม่น่าไว้วางใจขั้นสุด
“ฉันหิวน้ำจาก…” ริชาดไล่มองเจ้าหล่อนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนเคลื่อนนัยน์ตาดุดันมาสบจ้องดวงตากลมโต
“ตัวเธอมากกว่า”
ลานาตัวแข็งทื่อ รู้ทันทีว่าเขาหมายถึงสิ่งใด
“บ้าน่าริชาด!” มือเล็กๆ ตีอกแกร่ง “ฉันท้องอยู่นะ”
“เคยทำมาแล้วนี่ จะกลัวอะไรล่ะ”
ริชาดกอดกระชับเอวเล็กไม่ปล่อยง่ายๆ
“แค่ให้ฉันกินนิดเดียวเอง ขอแค่พอชื่นใจ”
คำพูดของเขาพานให้เจ้าหล่อนนึกถึงเวลาที่เขาต้องการ แม้ไม่ได้หลอมรวมแต่ริชาดก็ตักตวงดื่มชิมความเป็นเธอจนหมดเรี่ยวแรงจะลงจากเตียง เขาเหมือนปีศาจคลั่งรักที่กระหายเนื้อกระต่ายตัวน้อยตลอดเวลา
“ไม่ยอมมาดูแลฉันยังจะคิดปฏิเสธอีกหรือ?” พอเห็นอีกฝ่ายทำสีหน้าลำบากใจเขาก็อ้างถึงความผิดของเธอทันที
“ทำไมนายถึง…” ลานนากัดปากมองตาขวาง ก่อนจะถอนหายใจแล้วส่งยิ้มเอียงอาย
“นิดเดียวพอนะ”
ริชาดยิ้มกว้างตวัดอุ้มร่างบางของชายาเข้าสู่วงแขนใหญ่ ลานนารีบคล้องลำคอสวามีด้วยกลัวตก สองเท้าทรงพลังก้าวเดินอย่างมั่นคงตามเส้นทางลาดยาวที่จะนำพาเขาและเธอไปสู่ห้องบรรทมอันเป็นสถานที่ระเริงรัก ตลอดทางสายตาของริชาดไม่ละห่างจากวงหน้าหวาน ลานนาเขินอายจนแก้มแดงซ่าน แววตาของเขาหยาดเยิ้มราวกับมองอาหารอันโอชะก็ไม่ปาน
ริชาดบรรจงวางร่างบางลงบนเตียงกว้างอย่างนุ่มนวล มือหนาเกลี่ยปอยผมทัดใบหูเล็ก มอบรอยยิ้มอบอุ่นส่งตรงถึงหญิงสาว ลานนาใจเต้นแรงแม้เธอและเขาจะเคยเป็นของกันและกันมาแล้ว หากกระนั้นกลับรู้สึกตื่นเต้นประหนึ่งทุกครั้งคือครั้งแรกของเราเสมอ
“ฉันรักเธอนะ”
จากนั้นบทเพลงรักแสนอ่อนโยนก็ถูกบรรเลงขึ้นท่ามกลางความสุขแห่งสองเรา