บทที่ 3.2 - ถูกชะตา

1404 Words
อีกด้านหนึ่งห่างออกไปไม่ไกลนัก… แอนเดรียและจัสมินแฝงตัวรวมกับบรรดาประชาชนที่เริ่มทยอยต่อแถวรับอาหารและเครื่องนุ่งห่มจากทางราชวัง สายตาของแอนเดรียเต็มไปด้วยความแค้นยามมองเหล่าพี่น้องตระกูล Black Rose พวกมันยิ้มแย้มแจ่มใสราวกับผู้บริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่ทำเลวคร่าหนึ่งชีวิตให้ตายลงอย่างเลือดเย็น จัสมินสัมผัสได้ว่าองค์หญิงเริ่มตัวสั่น สองมือเรียวกำหมัดแน่น จัสมินกอบกุมมือของแอนเดรียเอาไว้ ออกแรงบีบเบาๆ เพื่อให้เธอคลายความเจ็บปวด แอนเดรียส่งสายตาขอบคุณมายังผู้หวังดี… “องค์หญิงอย่าทรงกริ้วไปเลยเพคะ ตอนนี้เราต้องทำตัวให้กลมกลืนที่สุด” “ฉันจะพยายาม” แอนเดรียได้สติ ดีแค่ไหนที่มีจัสมินคอยพูดบอกให้หัวใจที่ร้อนรุ่มเป็นไฟสงบลง แอนเดรียและจัสมินต่อแถวกันอย่างเงียบๆ จัสมินคอยกันองค์หญิงไม่ให้พระวรกายโดนตัวปีศาจตนอื่น บรรยกาศสามัญชนเยี่ยงนี้แอนเดรียยังไม่คุ้นชินเท่าไหร่ อีกทั้งยังต่างบ้านต่างเมือง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายในการปรับตัว แถวที่ทั้งสองสาวต่อนั้นเริ่มร่นระยะทางลงเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงตัวข้าหลวงที่ทำหน้าที่แจกจ่ายแจกอาหารและเครื่องนุ่งห่มในที่สุด แอนเดรียใจเต้นรุนแรงยามได้ทอดมองเหล่าตระกูลศัตรูในระยะใกล้ พลันสายตาคมดุจเหยี่ยวของใครบางคนจดจ้องทำให้แอนเดรียต้องรีบหลุบมองต่ำ เธอรีบรับของจากข้าหลวงแล้วเดินแยกออกไปทันที ไม่นานจัสมินก็ตามหลังมาติดๆ “มีคนมองเรา” สายตาคมกริบคู่นั้นยังคงมองต่อเนื่อง แอนเดรียกระซิบบอกจัสมิน นางในสาวค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นมองตามตำแหน่งที่องค์หญิงบอก ชายหนุ่มร่างสูงกำยำมาพร้อมอาภรณ์ที่ประทับตราราชวัง มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นหนึ่งในราชวงศ์ “เพคะ มองตลอดเลย” จัสมินว่า แอนเดรียเริ่มกังวล เหงื่อชื้นเต็มฝ่ามือเรียว กลัวว่าจะถูกจับได้ “แต่ยังไงเราก็ต้องทำตามแผนนะเพคะ” จัสมันกล่าว แอนเดสบสายตาจริงจัง พยักหน้ารับอย่างมุ่งมั่นเช่นกัน “รอให้พวกมันแจกเสร็จก่อน แล้วเริ่มแผนได้เลย!” จัสมินพยักหน้ารับคำสั่ง บรรยกาศการแจกสิ่งของให้กับประชาชนเริ่มเบาบางลงกว่าเดิม เหล่าพสกนิกรพอได้อาหารและเครื่องนุ่งห่มที่ต้องการก็แยกย้ายกลับไปทำงานของตน เนื่องด้วยส่วนมากที่มาจะเป็นพวกชนชั้นกลางไล่ไปจนถึงชนชั้นต่ำ พวกเขาปลื้มใจที่ได้ยลโฉมราชวงศ์ แต่เหนือสิ่งอื่นใดปากท้องย่อมสำคัญกว่าเสมอ แม้จะได้รับการช่วยเหลือดีแค่ไหนสุดท้ายความเหลื่อมล้ำทางสังคมก็ไม่อาจหมดไปง่ายๆ อยู่ดี ในที่สุดช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง พื้นที่ลานกว้างใหญ่ไร้ซึ่งประชาชนที่มามุ่งล้อมในช่วงแรก เหลือเพียงเหล่าข้าหลวงและราชบริวารที่คอยคุ้มกันราชวงศ์ในขณะขึ้นรถม้ากลับสู่ราชวัง แอนเดรียและจัสมินมองหน้าสบตากันชั่วขณะ ร่างเพรียวระหงส์พุ่งตัวขวางทางรถม้าของลีโอและปลายฟ้าอย่างแรง สร้างความตื่นตระหนกแก่บุคคลสำคัญทั้งสอง “เกิดอะไรขึ้น?” ปลายฟ้าร้องถาม “มีอะไร!” ลีโอเสียงดัง แววตาดุดันน่ากลัว “มีหญิงสาวขวางขบวนรถม้าพะยะค่ะ” สารถีรายงาน ลีโอกัดกรามกรอด หุนหันลงจากรถจนปลายฟ้าต้องรีบตามเพราะกลัวเขาจะอาละวาดหนัก “เย็นพระทัยเพคะฝ่าบาท” ปลายฟ้าต้องรีบปราม “พวกเธอเป็นใคร” สุรเสียงเข้มข้นกระชากถาม แอนเดรียข่มกลั้นความแค้นไว้ในอก ไม่เงยหน้าขึ้นสบตากับผู้ยิ่งใหญ่ “เงยหน้าขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” ลีโอตวาดกร้าว ท่าทางฉุนเฉียวของเขาทำให้พี่น้องต่างกรูมายืนเคียงข้าง “บอกให้เงยหน้า!!!” “เย็นพระทัยเพคะ” ปลายฟ้าลูบแขนพระสวามี ก่อนเบนสายตามองไปยังร่างบางทั้งสอง “เงยหน้าขึ้นเถอะ” น้ำเสียงของราชินีช่างนุ่มนวลเหลือเกิน จัสมินค่อยๆ เงยหน้าขึ้นเป็นคนแรก ใบหน้าสวยหวานสะดุดตาองค์รักษ์หนุ่มผู้หนึ่งเข้าอย่างจัง ริมฝีปากเจ้าหล่อนอวบอิ่มแดงระเรื่อน่าสัมผัส ผิวกายขาวเนียนละเอียด ผมยาวสลวยดำขลับ ทุกองค์ประกอบช่างงดงามราวกับรูปปั้นสลักลวดลายวิจิตร “มองตาค้างเลยหรือ” แฟกเตอร์ถามบุคคลข้างกายพลางอมยิ้ม “มิได้พะยะค่ะ” แดเนียล ตอบอย่างสุขุม บุคคลิกของเขาเป็นที่รู้กันว่านิ่งเงียบเพียงใด แดเนียลเป็นองค์รักษ์มือขวาประจำกายแฟกเตอร์ คุ้นเคยกันมาแต่เยาว์วัย เรียกได้ว่าเป็นสหายคู่ใจก็ยังได้ “อีกคนล่ะ เงยหน้าขึ้นสิ” ปลายฟ้าปรายตามองหญิงสาวอีกคน แอนเดรียรวบรวมสมาธิ การเผชิญหน้ากับคนที่ฆ่าพี่ชายตัวเองมันยากเหลือแสน องค์หญิงผู้สูงศักดิ์เงยหน้าขึ้นสบตากับเหล่าศัตรูที่มองจ้อง ดวงตาคมเฉี่ยวสะกดมนต์ต่อผู้พบเห็น หล่อนสวยสง่าเกินกว่าจะเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา งดงามดุจดั่งราชนิกูลชั้นสูง ปลายฟ้าขมวดคิ้วยามพินิจพิจารณาหญิงสาวปริศนาทั้งสอง อาภรณ์แสนธรรมดาแต่ทำไมกลับดูมีค่ายิ่งยามอยู่บนกายของพวกเธอ เครื่องหน้าผุดผ่องเปล่งประกาย ยิ่งการันตีในความสดสะพรั่ง แฟกเตอร์รู้สึกปั่นป่วนแปลกๆ ยามสบมองสตรีหน้าร้ายทว่าสวยเกินใคร “กล้าดียังไงมาขวางทางขบวนเสด็จ อยากโดนตัดหัวใช่ไหม!” ลีโอตวาดกร้าว “ฝ่าบาทเพคะ” ปลายฟ้าลูบแขนกำยำอีกครั้ง นัยน์ตาลึกซึ้งพยายามบอกให้เขาใจเย็นๆ “เธอสองคนชื่ออะไร แล้วทำไมถึงมาขวางทางพวกเรา” น้ำเสียงนุ่มนวลสมกับเป็นราชินีผู้ทรงคุณธรรม “ระ เราสองคน มะ ไม่ได้ตั้งใจเพคะ ระเราสองคนคะ แค่…” จัสมินแสร้งทำทีกลัวลนลานจนพูดติดขัด “ค่อยๆ พูด ใจเย็นๆ ไม่มีใครทำอะไรหรอก” ปลายฟ้าบอก “พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านเร่ร่อนเพคะ” แอนเดรียกล่าวในที่ทีสุขุม พยายามสร้างบุคคลิกให้แตกต่างกับจัสมินเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย “แล้วทำแบบนี้ทำไม?” ปลายฟ้าถามต่อ กลายเป็นว่า ณ ที่ตรงนี้ทุกคนล้วนแล้วแต่จดจ้องไปยังสองสาวปริศนา “หม่อมฉันอยากทำงานในวังหลวง หม่อมฉันไม่มีที่ไปเพคะ” แอนเดรียบอกไปตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ก่อนวางแผนนี้เธอหาข้อมูลเกี่ยวกับปลายฟ้ามาเป็นอย่างดี รู้ว่าราชินีแห่งเมือง Black Rose มีจิตใจอ่อนโยนกว่าราชินีองค์ใดในประวัติกาล เธอเป็นมนุษย์ธรรมดาที่โชคชะตานำพาให้มาครองรักกับลีโอที่เมืองปีศาจแห่งนี้ เธอปกครองฝ่ายในโดยใช้ความเมตตาและความเข้าใจเป็นหลัก ไม่ใช้อารมณ์หรือวางตนอยู่เหนือเหตุผล “การจะทำงานในวังหลวงได้นั้นต้องผ่านการทดสอบหลายอย่าง ไม่ใช่มาขอแล้วจะทำได้เลย ทหาร! เอาตัวนางสองคนไปลงโทษเดี๋ยวนี้!!!” ริชาดว่า “ไม่เอาสิริชาด” ลานนาปราม ริชาดถอนหายใจหงุดหงิด “สองคนนี้ทำความผิดฐานขวางทางขบวนเสด็จไม่พอ ยังจะมีหน้ามาขอทำงานในวังหลวงอีก โทษประหารยังน้อยไปด้วยซ้ำ!” “ไม่ได้ยินที่เขาบอกหรือไง เขาสองคนไม่มีที่ไป ดูจากลักษณะแล้วคงเร่ร่อนมานานพอควร น่าสงสารออก” ลานนาผู้มีจิตใจเมตตาว่า แอนเดรียและจัสมินลอบยิ้มในใจ อย่างน้อยๆ เธอก็ทำให้หนึ่งในราชวงศ์เวทนาได้ ทีนี้จะเหลือก็แต่… “ฝ่าบาทเพคะ” “ไม่ได้!” ไม่ต้องรอให้ชายาเอ่ยจบลีโอก็รีบค้านเสียงเข้มทันที รู้อยู่แล้วว่าเธอต้องการเอ่ยสิ่งใด “หม่อมฉันเข้าใจว่ากฏย่อมต้องเป็นกฏ แต่ทั้งสองก็เป็นประชาชนของเรานะเพคะ หากทิ้งขว้างไม่ใยดีก็กระไรอยู่” ปลายฟ้าให้เหตุผล ก่อนจะปรายตามองลานนาแล้วคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD