ตอนที่ 8 ข่มขู่แบล็คเมล

1463 Words
“หมออย่างฉัน ฉีดยานุ่มที่สุดแล้ว” วาฟิกซ์เชิดหน้าพูดด้วยความมั่นใจ เขามั่นใจแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่ามาเบลต้องไม่เคยเจอใครดีเท่าเขาแล้วแน่นอน “หลงตัวเองหนักอยู่เหมือนกันนะคะ” รู้น่า ว่าเขาไม่ได้หมายถึงฉีดยาจริงๆ คงจะพาเธอเข้าเรื่องอย่างว่าอีกแล้วสินะ “หรือเธอจะบอกว่าฉันพูดไม่จริง” ไม่จริง! ไม่จริงที่สุด นุ่มบ้านุ่มบออะไร เล่นเอาเธอจุกจนไข้จับไปสองวัน “รอบนี้อยากได้เท่าไหร่ ฉันให้ได้ไม่อั้น” วาฟิกซ์พูดพร้อมกับเดินเข้าไปลูบแขนเรียวเล็ก มาเบลรีบปัดมือใหญ่ออกจากแขนตัวเองทันที เธอรู้สึกจั๊กจี้ยามเขาลูบไล้จนขนแขนลุกซู่ “ก็บอกแล้วไงว่าหนูไม่ได้ขาย” มาเบลกระแทกเสียงใส่หน้าคนที่คิดว่าเธอขายตัวไม่เลิก “แล้วใครบอกว่าฉันซื้อตัวเธอ ฉันแค่ให้เพราะฉันอยากให้เธอเฉยๆ” แก้ตัวน้ำขุ่นๆ “หนูขอร้อง เลิกยุ่งกับหนูสักทีเถอะค่ะ หนูไม่อยากเจอหน้าคุณอีกแล้ว ถามจริงคุณไม่เบื่อเหรอ หนูทำอะไรไม่เป็นเลยนะ” วันนั้นเธอก็ทำได้แค่นอนเฉยๆ ให้เขาเป็นคนจัดการทุกอย่าง เพราะเธอไม่เคยและไม่ได้มีความรู้เรื่องนี้เลยสักนิดเดียว วาฟิกซ์ไหวไหล่ตอบ เขาไม่ได้แคร์ว่ามาเบลจะเก่งกาจเรื่องอย่างว่า หรือจะไม่เป็นเลยสักนิด เพราะเขาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเขาสามารถทำให้เธอเคลิ้มไปกับเขาได้หมด “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง แค่ฉันเริ่มแล้วเธอตาม” “คุณดูหมกมุ่นนะคะ” “จะว่างั้นก็ได้” ก็เธอดันมาทำให้เขาติดใจเองนี่หว่า เธอต้องเป็นคนรับผิดชอบที่ทำให้เขาเอาแต่คิดถึงใบหน้าของเธอในคืนนั้นไม่หยุด ขณะที่มาเบลกำลังเหนื่อยใจให้กับคนหื่นกามวิปริตอย่างเขา เสียงข้อความจากโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พลันทำให้เธอต้องละสายตาจากใบหน้าเจ้าเล่ห์ของหมอวามาดูที่หน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองแทน NB: บาร์กลับก่อนนะเบล พอดีบาร์เจอเพื่อนแล้วเราต้องไปทำงานด้วยกันพอดี ณบาร์เหมือนทิ้งปลาย่างอย่างเธอไว้ให้แมวจอมตะกละรอวันขย้ำอยู่จริงๆ พรึบ! มาเบลไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้คนตรงหน้าเธอจะกล้าทำ “เอาโทรศัพท์หนูคืนมาค่ะ” วาฟิกซ์รีบกดไอดีตัวเองเข้าเครื่องของหญิงสาวอย่างไว เมื่อกดเสิร์ชหาชื่อของตัวเองจนเจอเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ไม่รีรอที่จะกดแอดทันที “ฉันทักหาต้องตอบ” “ไม่มีมารยาท” เธอแหวใส่เขาที่กล้าเอาเครื่องเธอแอดไอดีเขาไป ทว่าคนอย่างวาฟิกซ์ไม่มีคำว่าสะทกสะท้าน เรื่องแบบนี้ต้องไวและหน้าด้านหน่อย หากไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่มีช่องทางเอาไว้ติดต่อเธอสักที “คืนนี้ฉันจะไปหาเธอที่ร้าน เลิกงานเธอต้องกลับกับฉัน” “บังคับเหรอคะ” “เปล่า” พูดแล้วกดส่งข้อความหา ติ๊ง! Vaflix: ส่งรูปภาพให้คุณแล้ว มาเบลเปิดดูข้อความที่คนตรงหน้าส่งมาแล้วถึงกับตาร้อน เตรียมจะตวาดใส่หน้าเขาอีกครั้ง ทว่าคราวนี้วาฟิกซ์ดันฉวยโอกาสตอนที่เธอเงยหน้าขึ้นมา เข้ามาจุ๊บที่ปากเธอแบบที่เธอไม่ทันตั้งตัว “จุ๊บ!” “อย่าให้ฉันต้องใช้ภาพนี้ข่มขู่เธอ ถึงมันจะไม่เห็นอะไร แต่เธอก็คงไม่อยากให้มันหลุดออกไปหรอก ใช่ไหม?” รูปภาพที่เขาส่งไปให้ คือรูปที่เขาถ่ายคู่กับเธอในคืนนั้นขณะที่เธอหลับ โดยที่เราสองคนยังไม่ได้ใส่อะไร มีเพียงแค่ผ้าห่มผืนเดียวกันที่ปกปิดสิ่งที่ไม่ควรเอาออกมาให้คนอื่นเห็น มาเบลพูดไม่ออก คิดไม่ถึงว่าคนอย่างเขาจะกล้าแบล็คเมลเธอได้ถึงขนาดนี้ วันนั้นไม่น่าพลาดท่าให้เขาเลย หากไม่อย่างนั้นชีวิตเธอคงจะได้อยู่อย่างสงบ มาเบลอยากจะทึ้งหัวตัวเองสักพันรอบ ตั้งแต่ที่ออกมาจากโรงพยาบาลเธอก็กรีดร้องอยู่ในใจมาแล้วจนนับครั้งไม่ถ้วน ไม่นับตอนที่เขาส่งสายตาหวานเยิ้มใส่เธอก่อนกลับอีก อยากจะจับรอยยิ้มนั้นของเขามาเหยียบย่ำให้จมดิน “กรี๊ด!” ว่าแล้วก็เผลอหลุดเสียงกรี๊ดออกมาจนพนักงานคนอื่นที่อยู่ใกล้หันมามองกันเป็นตาเดียว “เป็นอะไรหรือเปล่าเบล” น้ำหวานเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเพื่อนจะป่วยถึงขั้นหนัก “เปล่าจ่ะ เบลขอตัวก่อนนะ” มาเบลรีบเดินหนีมาทางด้านหลังร้าน วันนี้เธอคงจะทำงานได้อย่างไม่มีความสุข ต้องคอยระวังกลัวว่าเขาจะมาวุ่นวายกับเธอตอนที่เธอทำงานอยู่หรือเปล่า เหมือนเขาจะได้ยินสิ่งที่เธอคิด เพราะแค่เพียงหมุนตัวหันหลังเตรียมจะเดินกลับเข้าไปในร้านอีกครั้ง ร่างสูงเจ้าของสาเหตุที่ทำให้เธอต้องหลุดเสียงกรี๊ดออกมาเมื่อกี้ก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว “ไหวไหมครับที่รัก ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวพี่พาไปรักษาให้บนห้อง” วาฟิกซ์พูดพร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้หญิงสาว ทำเอามาเบลขนลุกซู่เพราะขยะแขยงในคำพูด “หนูไม่ใช่ที่รักของคุณนะ อย่ามาเรียกหนูแบบนั้น” “งั้นอยากเป็นอะไร เป็นเมียฉันไหม” จะที่รักหรือเมีย ยังไงเธอก็เป็นของฉันอยู่ดีเบล วาฟิกซ์คิดในใจ เขามีทางเลือกให้เธอแค่สองทาง เธอจะเลือกเป็นอะไรก็ได้ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่มีวันหนีคนอย่างเขาพ้น เขาจะตามเธอจนเธอหลอนไปเลยคอยดู “ตกลงคุณเป็นหมอจิต หรือเป็นคนจิตกันแน่” มาเบลมุ่นคิ้วเอ่ยถาม ชักเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาสติยังดีครบถ้วนอยู่หรือเปล่า “จิตเสื่อมมั้ง” รักษาคนไข้มาเยอะ บางทีก็อยากรักษาตัวเองอยู่เหมือนกัน “สงสารคนไข้คุณจริงๆ” สงสารทำไมคนไข้เขา เธอควรจะสงสารเขาก่อน เพราะตั้งแต่วันนั้นมาเขาก็ยังไม่ได้ปล่อยน้ำออกจากตัวเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาเอาแต่นึกถึงใบหน้าเธอนะ เขาคงได้หาคนอื่นระบายอารมณ์ไปพลางที่รอเธออยุ่แบบนี้แล้ว มาเบลเดินเลี่ยงมาอีกทาง เธอเหนื่อยจะคุยกับเขา รู้สึกปวดหัวทุกครั้งที่ต้องต่อปากต่อคำ ใช้คำว่าขี้เกียจคุยกับคนโรคจิตแบบเขาไปเลยดีกว่า วาฟิกซ์ไม่ได้รั้งหรือเรียกมาเบลให้อยู่ต่อ เขาปล่อยให้เธอได้ไปทำงานตามปกติ ส่วนเขาที่มีหน้าที่แค่รอจึงขึ้นมาบนชั้นสามของร้าน เพื่อที่จะได้หาคนคุยรอแก้เบื่อไปพลาง “มาทุกวัน ตื๊อเขาทุกวัน ขอให้เขาเบื่อแก” แคทรีนเอ่ยเสียงเรียบ ให้กับหลานชายตัวดีที่เข้าออกร้านเธอเป็นว่าเล่น “โห่ ไม่ช่วยแล้วยังจะแช่งกันอีก” วาฟิกซ์ว่าให้อย่างนอยด์ๆ “ฉันไม่ช่วยแกตรงไหน ที่วันนี้แกได้เจอมาเบลมันก็เพราะฉัน” ถ้าหลานชายตัวดีเธอมันไม่มานั่งหน้าเศร้าอยู่ในห้องทำงานของเธอทุกวันแบบนี้ เธอก็คงไม่คิดอยากจะช่วยมันหรอก แต่มันดันมานั่งทำหน้าหงอยเหงาจนเธอนึกรำคาญ วันๆถามหาแต่มาเบลจนเธอไม่เป็นอันทำงานทำการอะไร เธอก็คงไม่คิดอยากจะนัดมันให้เจอกับมาเบลทางอ้อมแน่นอน “แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณป้านะครับ วันนี้ผมสำเร็จไปอีกขั้นก็เพราะแผนของป้าเลย” “หึ อย่าให้มันเสียถึงฉันละกันวาฟิกซ์” ยังไม่อยากเจอเด็กมาถอนหงอกตอนนี้นะเว้ย “มั่นใจฝีมือผมได้เลย ไม่เกินอาทิตย์นี้ผมจับมาเบลได้อยู่หมัดแน่นอน” คนมั่นใจในตัวเองยืดอกพูด “ฉันกลัวเขาจะหมัดใส่แกก่อนน่ะสิ” ไอ้หลานเวร! เกิดชาติหน้าฉันใด ขออย่าให้มันได้มาเกิดเป็นหลานเธออีกเลย สาธุ! แคทรีนภาวนาในใจ แต่เหมือนเบื้องบนจะเข้าใจในสิ่งที่เธอภาวนาไปเมื่อครู่ “ฮัดชิ้ว!” วาฟิกซ์จามเสียงดัง น้ำมูกน้ำตาไหลวิ่งหาทิชชู่เพื่อมาเช็ดแทบไม่ทัน เห็นหน้ามันตอนนี้แล้วโคตรทุเรศ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD