ตอนที่ 5 หนูไม่ได้ขาย

1503 Words
“ทำ จ่าย จบ เหมือนเดิม” วาฟิกซ์ยังคงพูดต่อ เพราะเขาคิดว่าเธอคงชอบเงินของเขาแน่นอน จากรอบที่แล้วที่พอเห็นเงินสองแสนที่เขาโอนเข้าบัญชีไปให้ เธอตกใจพร้อมกับทำตาลุกวาวจนหูดับไปหนึ่งที “รอบนี้จ่ายให้หนูเป็นล้านหนูก็ไม่เอาค่ะ” “ทำไม หรือน้อยไป?” “มันไม่ได้น้อยไปหรอกค่ะ แต่ประเด็นคือหนูไม่ได้ขาย” รอบนี้อย่าได้หวังจะเอาเงินมาล่อเธออีก เพราะเธอไม่คิดจะยอมเขาแล้ว ให้ตายก็ไม่ยอม! “ฉันก็ไม่ได้เห็นเธอเป็นแบบนั้นสักหน่อย” พอเห็นเธอทำหน้าจริงจังแบบโกรธๆ เสียงก็เบาลงได้ทันตา ทำไมเขาต้องกลัวเธอโกรธก็ไม่รู้ ใจก่อนหน้านี้คืออยากได้เธอนี่หว่า ไม่ได้อยากได้อย่างอื่น แต่พอเห็นกระต่ายน้อยอย่างเธอทำหน้าดุเข้า เขาเองก็ใจหวั่นอยู่เหมือนกัน “หนูไม่อยากเจอคุณอีก กรุณาอย่ามารบกวนหนูด้วยนะคะ ถ้าไม่อย่างนั้นหนูจะลาออกจากที่นี่!” มาเบลสะบัดมือใหญ่ที่จับแขนเธอทิ้ง พลางรีบวิ่งขึ้นรถเมล์ที่วิ่งผ่านมาพอดีไป ทิ้งให้วาฟิกซ์ยืนมองตาละห้อยเพราะคำขู่ของเธอที่มันแรงกล้าจนเขาไม่กล้ารั้งเธอเอาไว้ต่อ มาเบลถอนหายใจทิ้งทันทีที่เธอหนีคนแบบนั้นมาได้ พลางยกมือน้อยๆจับเข้าที่หน้าอกข้างซ้ายตัวเองเบาๆ เธอรู้สึกเสียขวัญยังไงไม่รู้ การที่ได้เจอเขามันมีแต่เรื่องให้ตกตะลึงอยู่เรื่อย มันจะมีใครสักกี่คนที่กล้าจ่ายให้เธอได้มากขนาดนั้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แต่ว่าตอนนี้เธอกลับไม่อยากได้เงินนั้นจากเขาอีกแล้ว เพราะเธอถูกคนเป็นแม่สอนมาเสมอ ว่าการเป็นผู้หญิงที่ดีและมีคุณค่า จะต้องไม่ทำความเสื่อมเสียและอับอายให้กับร่างกายตัวเอง มาเบลถอนหายใจเป็นร้อยครั้งจนเธอเดินมาถึงหน้าบ้านตัวเอง บ้านที่เป็นเพียงแค่ห้องเช่าธรรมดาๆอยู่กันสี่คน ห้องเช่าขนาดสามสิบสี่ตารางเมตรนี้ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกเลยคือห้องนอนของพ่อกับแม่ ส่วนที่สองคือห้องของเธอกับน้องสาว และอีกส่วนคือห้องครัวที่มีเพียงแค่แก๊สถังส้มเล็กๆและอุปกรณ์ปรุงอาหารไม่กี่อย่าง ส่วนใหญ่บ้านเราจะกินง่ายอยู่ง่าย หากินแค่ผักกับน้ำพริกไปวันๆ บางวันโชคดีแม่ครัวที่ร้านก็ให้อาหารเธอมา ก็พอได้เอามาเป็นมื้อพิเศษได้อยู่บ้าง มาเบลมองสภาพหน้าบ้านเช่าตัวเองแล้วรู้สึกเหนื่อย เธอเองก็อยากจะมีบ้านเป็นหลังอย่างคนอื่นเขาอยู่เหมือนกัน แต่เพราะรายได้ของเธอที่มันไม่ได้เพียงพอต่อการจ่าย เลยทำได้แค่อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆต่อไป “กรี๊ด!!!! ไอ้ผัวเฮงซวย มึงนี่ไม่รู้จักจำเลยนะ กี่รอบแล้วที่มึงทำแบบนี้ กี่รอบแล้วที่คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะการไปกู้เงินของมึง” เสียงโหวกเหวกโวยวายจากข้างในทำให้คนที่ยืนมองบ้านตัวเองอยย่างเหม่อลอยถึงกับต้องรีบวิ่งไปเปิดประตู เพื่อดูว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น “เกิดอะไรขึ้นคะ” “เบล แม่ไม่เอาแล้วนะ แม่จะไม่ทนอยู่กับพ่อแกอีกแล้ว แกจะไปกับแม่ไหม บาร์ด้วยแกจะไปไหม” ณบาร์ ตัวสั่นทื่อ ทุกวันนี้จากที่เธอเคยเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใสคุยเก่ง ก็ต้องกลายมาเป็นเด็กเงียบเก็บกดไม่กล้าพูดจากับใคร มาเบลมองไปยังน้องสาวที่มีอายุเพียงแค่สิบแปดปีของตัวเองอย่างงงๆ มีบ่อยครั้งที่เธอกลับมาแล้วต้องมาเจอกับสภาพนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คนเป็นแม่ถึงขั้นอยากออกไป “แม่ใจเย็นๆก่อนนะ เล่าให้เบลฟังหน่อย” รีบเข้าไปโอบกอดคนเป็นแม่เอาไว้ เพราะเธอไม่อยากให้ครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน “ถามพ่อแกดูสิ ว่ามันไปกู้หนี้ยืมสินใครเขามาอีก และรอบนี้เอามาเท่าไหร่” “เท่าไหร่คะพ่อ” หันหน้าไปถามคนเป็นพ่อที่นั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่อีกฟาก “ห้าแสน” “หะ ห้าแสน!” เลยเหรอ? “ก็เงินที่เราเอาไปคืนเขารอบก่อน มันพอที่จะปิดหนี้ตัวหนึ่งได้ เฮียเส้งเขาเลยให้ยอดพ่อมา พ่อก็เห็นว่าเราทำงานได้ดี เดือนๆหนึ่งทำงานมาก็ได้มาปิดดอกปิดต้นไปอยู่หลายบาท เลยคิดว่าเอาเงินนี่มาขยับขยายครอบครัวเราบ้างท่าจะดี” คำว่า ‘ท่าจะดี’ ของพ่อนั้น ทำเอาหมอนที่วางอยู่ใกล้มือแม่ลอยปลิวไปฟาดหน้าพ่อจนล้มลง ณบาร์รีบเข้าไปประคองคนเป็นพ่อ แม้จะถูกคนเป็นแม่ด่าทออยู่บ้าง แต่เพราะพ่อไม่เคยทำร้ายเธอเลยตั้งแต่เกิด เลยนึกรู้สึกเป็นห่วง “พ่อรู้ไหมคะ ว่ากว่าเบลจะได้เงินมาในแต่ละเดือน เบลต้องเหนื่อยจนน้ำตาตกขนาดไหน” เงินเดือนหมื่นห้าที่ได้มา รวมทิปอีกเดือนละห้าพันบ้าง หนึ่งหมื่นบ้าง พอจ่ายหนี้แล้วก็เหลือให้ใช้ได้แค่ไม่ถึงสามพัน พ่อจะรู้ไหมว่ากว่าเธอจะหาเงินมาได้แต่ละเดือน เลือดตาเธอแทบกระเด็น “แล้วเงินนั่นอยู่ไหนคะ” “มันมีนายหน้ามาหาพ่อ บอกว่าจะหาซื้อบ้านราคาดีๆและสภาพดีๆให้ แต่ว่าพ่อต้องโอนเงินไปให้มันก่อน พ่อเองก็ความรู้น้อย เลยเผลอโอนให้เขาไปจนหมด แต่สุดท้าย...” “สุดท้ายยังไง พ่อแกมันก็โง่ให้เขาหลอกเอาเงินไปจนหมดตัว และยังต้องมาหาเงินใช้หนี้ไอ้เฮียเส้งนั่นอีกไงล่ะ” คนเป็นแม่พูดด้วยอารมณ์ที่โกรธเคือง มาเบลเองก็เข่าอ่อนเมื่อรู้ว่าเงินที่ใช้หนี้ไปแล้วนั้นเหมือนไม่มีค่าอะไร เพราะนอกจากจะต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำต่อแล้ว ยังต้องมีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากอีกเป็นเท่าตัว ชีวิตนังมาเบล ทำไมมันเกิดมายาจกได้ขนาดนี้ มาเบลนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินด้วยใจที่ว่างเปล่า ทั้งวันเธออยากจะนอนหลับพักผ่อน แต่เพราะมีเรื่องให้ต้องคิดมากมาย ทำให้นอนยังไงก็นอนไม่หลับเลยแม้แต่วินาทีเดียว จนต้องพาตัวเองออกมานั่งเป็นนางเอกเอ็มวีอยู่ริมแม่น้ำแถวๆบ้านแทน “อะ กินหน่อย เห็นไม่กินอะไรเลยนี่” ณบาร์ยื่นขนมที่เธอเก็บเอาไว้กินตอนไปเรียนมาให้กับพี่สาว “ขอบคุณนะ แต่บาร์เก็บไว้กินเถอะ” ยิ้มให้น้องพร้อมกับบอกให้น้องนั่งลงข้างๆ “ให้บาร์ช่วยเบลทำงานไหม บาร์ทำงานได้นะ” “ทำงานมันเหนื่อยนะ มีหน้าที่เรียนก็เรียนไป” “ก็เพราะว่าทำงานมันเหนื่อยไง บาร์เลยอยากช่วย” สองคนพี่น้องรักกันมาก มีอะไรมาเบลก็มักจะคอยปรึกษาณบาร์อยู่บ่อยๆ ส่วนณบาร์ก็คอยมองพี่สาวด้วยความสงสารอยู่ตลอดเวลา มาเบลเป็นคนรักครอบครัวมาก ยอมหาเงินคนเดียวเพราะคิดว่าทุกคนจะต้องลำบาก แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองนั้นจะต้องลำบากมากแค่ไหนที่ต้องทำงานแบบเอาเป็นเอาตาย เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้อยู่อย่างสุขสบาย แต่ถึงอย่างนั้นปัญหาก็ยังคงเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน เพราะความคิดน้อยของคนเป็นพ่อที่มักจะหาหนี้มาเพิ่มให้ไม่เว้นแต่ละวัน พ่อไม่เคยติดเหล้าหรือติดพนันที่ไหน แต่พ่อจะติดนิสัยยืมและกู้เงิน และด้วยที่ว่าเป็นคนไม่มีงานทำจึงได้แต่กู้เงินนอกระบบไปวันๆเพื่อเอามาจุนเจือครอบครัว ถามว่าเธอโกรธไหมที่พ่อทำแบบนี้ โกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเธอเลือกเกิดไม่ได้ ยังดีที่ณบาร์เรียนเก่ง เลยพอจะสอบทุนแล้วเรียนต่อได้ ก็ถือว่าเบาเธอไปได้อยู่เรื่องหนึ่ง “บาร์ไปทำงานกับเบลได้นะ บาร์อายุเกินแล้ว” “ที่นั่นเป็นคลับนะบาร์ บาร์รู้ไหมว่ามันเป็นยังไง” ณ บาร์ส่ายหน้านิ่ง เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอเองก็ไม่เคยได้ไปเหยียบสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีกับเขาเลยสักครั้ง แม้ว่าตอนนี้เธอจะอายุได้สิบแปดปีย่างเข้าสิบเก้าแล้ว แต่ก็ไม่เคยทำตัวเหลวไหลจนต้องเพิ่มปัญหาให้กับพี่สาวเลยสักนิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD