สีหน้าหลี่อวี้หลันไม่ได้เปลี่ยนสีเลยสักนิดยังคงสงบนิ่งเยือกเย็นให้ความรู้สึกสบายตายามมอง แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังทรงอดหรี่พระเนตรจับจ้องไม่ได้ “หม่อมฉันมิบังอาจเพคะ เป็นเพราะหม่อมฉันมักจะได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับสงครามเป่ยตี้สิบสี่หัวเมืองมาตั้งแต่วัยเยาว์จากท่านปู่ จึงรู้สึกเลื่อมใสความองอาจห้าวหาญของฝ่าบาทกับบรรดาแม่ทัพนายกองและเหล่าทหารกล้าในศึกครานั้นมาโดยตลอดเพคะ แม้หม่อมฉันจะเป็นสตรีแต่ก็เป็นหลานสาวของท่านปู่ที่เคยเป็นอดีตแม่ทัพ ทั้งยังเคยร่วมกรำศึกในครานั้นด้วย หม่อมฉันโฉดเขลาเรื่องดนตรีเพลงพิณ แต่ชื่นชอบการยิงธนูนักจึงมักจะรบเร้าท่านปู่ให้ช่วยสอนยิงธนูอยู่บ่อยครั้งเพคะ” หลังจากนางกล่าวจบ ภายในศาลาเงียบสงัดลงในพริบตา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงพระสรวลของโอรสสวรรค์ที่ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ สร้างความตื่นตะลึงแก่ผู้คนอย่างยิ่ง “ดี ดียิ่ง!” นัยน์พระเนตรฮ่องเต้เจือความเกษมสำราญอย่างยิ่งยวดที่ได้ร

