พบหน้า

1259 Words
หลี่อวี้หลันเหลือบมองสตรีอาภรณ์ขาวที่กำลังนั่งสงบเสงี่ยมอยู่บนตั่งด้านข้างฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ นางก็คือหลี่ฝูหรง นางเอกมังฮวาเรื่องนี้ ต้องยอมรับว่านางเอกในต้นฉบับเรื่อง ‘ร้อยบุปผาพันจันทรา’ คือโฉมงามสะคราญอย่างแท้จริง นักวาดตั้งใจเสกสรรหลี่ฝูหรงผู้นี้ออกมาได้อย่างงดงามเลิศล้ำยิ่งนัก แม้ว่านางในยามนี้จะสวมอาภรณ์เรียบง่าย ศีรษะปักปิ่นไม้ธรรมดาราคาถูก ดวงหน้าขาวผ่องไร้เครื่องประทินโฉม ทว่ากลับดูงดงามผุดผ่องน่าทะนุถนอม สมกับเป็นนางเอกของเรื่องจริง ๆ เดิมทีหลี่อวี้หลันเพียงตั้งใจมาพบหน้าคร่าตานางเอกสักหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันจะกล่าวคำทักทาย ภายในโพรงปากกลับเต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตกะทันหัน นางรับรู้ในฉับพลันว่านี่เป็นสัญญาณเตือนว่าตนกำลังจะอาการกำเริบจึงรีบหยิบผ้าแพรพกขึ้นมาปิดปากเอาไว้ได้ทัน จากนั้นก็กระอักโลหิตออกมาคำโตต่อหน้าต่อตาทุกคน อึก… “คะ คุณหนู!” ไป๋เยาพุ่งเข้ามาหานางเป็นคนแรก ขณะที่คนอื่นตกตะลึงกันไปหมด ยิ่งเมื่อเห็นโลหิตหยดออกมาจากผ้าแพรพกเนื้อดีในมือหลี่อวี้หลัน ใบหน้าทุกคนก็ยิ่งซีดขาว “คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” หลายวันมานี้ไป๋เยาคอยดูแลอยู่ข้างกายหลี่อวี้หลันตลอด แม้จะยังรู้สึกไม่ชินแต่ก็พอจะรับมือกับ ‘โรคประหลาด’ ของคุณหนูได้บ้างแล้ว นางส่งถ้วยน้ำชาให้หลี่อวี้หลันรับไปดื่มล้างคาวในโพรงปาก มือก็ช่วยเช็ดคราบโลหิตตรงมุมปากไปด้วย หลายวันมานี้นางจับสังเกตได้แล้วว่าคุณหนูจะต้องกระอักโลหิตหนึ่งครั้งต่อวัน วันนี้ตั้งแต่คุณหนูตื่นนอนตลอดทั้งวันก็ยังไม่ได้อาการกำเริบเลย นางหลงคิดว่าอาการคุณหนูคงจะดีขึ้นแล้วเสียอีก ที่ไหนได้… “เกิดอะไรขึ้น?” เสียงทุ้มนุ่มนวลดังขึ้นจากด้านหลัง ร่างสูงอาภรณ์สีฟ้าครามเดินเข้ามาพร้อมกับบุรุษวัยกลางคนและเด็กชายวัยแปดขวบ ทั้งสามล้วนมีใบหน้าหล่อเหลาและคล้ายคลึงกันอย่างมาก “ซื่อจื่อ… คะ คุณหนูรองกระอักเลือดเจ้าค่ะ” จางหมัวมัวซึ่งยืนรับใช้อยู่ด้านข้างฮูหยินผู้เฒ่าตั้งสติได้ก่อนเป็นคนรายงาน ยามนี้สายตาทุกคนหยุดลงบนร่างของคุณหนูรองที่ยังคงยืนนิ่งแผ่นหลังเหยียดตรง ท่าทางสงบนิ่งราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับตน “เจ้าไม่สบายหรือ?” นายท่านโหวขมวดคิ้วถามบุตรสาวคนรอง เขาเคยได้ยินเรื่องที่หลี่อวี้หลันล้มป่วยมาจากหรูซื่ออยู่บ้าง แต่ไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนักเพราะคิดว่านางแค่เป็นหวัดเย็นทั่วไปหรือไม่ก็ป่วยด้วยโรคเอาแต่ใจเหมือนที่ผ่านมา เขารู้จักนิสัยบุตรสาวคนนี้ดีว่าเป็นคนอย่างไร เวลาที่นางเอาแต่ใจหรือไม่ได้ดั่งใจก็มักจะแสร้งป่วยเป็นประจำ ทำให้เขาละเลยที่จะใส่ใจมาโดยตลอด แต่คาดไม่ถึงว่านางจะป่วยจริง แถมยังถึงขั้นกระอักโลหิตด้วย “อวี้เอ๋อร์คารวะท่านพ่อ คารวะพี่ชายใหญ่” หลี่อวี้หลันไม่ตอบ แต่ยอบกายคำนับบิดากับหลี่ซวนหยวนแทน ท่าทางสงบนิ่งของนางนั้นดูผิดแผกไปจากเดิมจนทุกคนอดประหลาดใจไม่ได้ โดยเฉพาะหลี่ซวนหยวน ซื่อจื่อแห่งจวนหย่งผิงโหว ตอนได้ยินข่าวว่าน้องสาวร่วมมารดาของเขากลับมาถึงจวนแล้ว เขาก็รีบติดตามบิดามาที่เรือนฮุ่ยเซียงเพื่อจะพบหน้าน้องสาวแท้ ๆ ที่ไม่ได้พบกันมาหนึ่งปี ไหนเลยจะคิดว่ายังไม่ทันได้พบหน้าหลี่ฝูหรงกลับต้องมาพบหน้าหลี่อวี้หลัน น้องสาวต่างมารดาผู้มีนิสัยร้ายกาจเสียก่อน ตลอดหลายปีที่ผ่านมาหลี่ซวนหยวนไม่เคยมีภาพจำที่ดีเกี่ยวกับน้องสาวต่างมารดาผู้นี้เลยสักครั้ง นางทั้งเย่อหยิ่ง อวดดี เอาแต่ใจและปากร้าย มักสร้างความลำบากใจให้กับเขาสองพี่น้องอยู่เป็นประจำ เขาจึงรู้สึกเอือมระอาและค่อนข้างชิงชังน้องสาวผู้นี้อยู่มาก ยามพบหน้ากันเขามักจะทำเย็นชาหมางเมินใส่นางอยู่บ่อยครั้ง นานวันเข้านางก็กลายเป็นเหมือนฝุ่นผงสำหรับเขา ทว่ายามนี้เมื่อได้เห็นท่าทางนิ่งสงบของนาง ได้สบกับแววตาสุกสกาวดั่งดวงดาราแสนงดงามคู่นั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างแล่นวาบเข้ามาในใจจนเขายังรู้สึกตระหนก หลี่อวี้หลันกำลังไตร่ตรองเรื่องราวในต้นฉบับเกี่ยวกับพี่ชายใหญ่ผู้นี้ของนางอยู่เช่นกัน หากจำไม่ผิดยามนี้หลี่ซวนหยวนดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพรักษาการณ์เมืองหลวงอยู่ และในวันหน้าเขาจะได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นถึงแม่ทัพรักษาการณ์เมืองหลวงเลยด้วย หลี่ซวนหยวนเป็นผู้ที่ค่อนข้างมีบทบาทในการต่อต้านนางร้ายหลี่อวี้หลัน แม้ว่าทั้งสองจะเป็นพี่น้องร่วมบิดากัน แต่เพื่อปกป้องหลี่ฝูหรงน้องสาวร่วมมารดาของเขาแล้ว เขาเลือกที่จะทำร้ายหลี่อวี้หลันอย่างไม่ลังเล สำหรับหลี่อวี้หลันที่เข้ามาอยู่ในร่างของนางร้ายผู้นี้แล้ว การหามิตรย่อมดีกว่าหาศัตรู และการหามิตรที่ดีที่สุดก็คือมิตรที่เรียกว่า ‘พี่น้อง’ นี่แหละ จะอย่างไรเลือดย่อมข้นกว่าน้ำไม่ใช่หรือ? จุดอ่อนของนางร้ายหลี่อวี้หลันก็คือความโหดเหี้ยมอำมหิตและความหยิ่งทระนง นางแข็งข้อไม่ยอมใคร ทำให้ทุกคนมองว่านางเป็นตัวร้าย เป็นหายนะ เป็นเภทภัยที่ควรกำจัดทิ้ง หากนางไม่อยากมีจุดจบเหมือนกับนางร้ายหลี่อวี้หลันในต้นฉบับ สิ่งที่นางควรทำและต้องทำก็คือการเดินสวนทางกับนางร้ายหลี่อวี้หลันเสียก็สิ้นเรื่องแล้ว เมื่อไตร่ตรองเสร็จสีหน้าหลี่อวี้หลันพลันอ่อนลง นัยน์ตาแฝงความเศร้าสร้อย น้ำเสียงที่กล่าวก็ฟังดูอ่อนแรงติดจะแหบแห้งอยู่บ้าง “ลูกไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ แค่ก ๆ” นางปิดปากแสร้งไอเบา ๆ พลางกล่าวต่อ “เพียงแต่ว่าหลายวันมานี้ลูกต้องลมหนาวจึงเป็นหวัดเย็นเท่านั้นเจ้าค่ะ” ท่าทางอ่อนแอของหลี่อวี้หลันดูไม่คล้ายกำลังเสแสร้งเหมือนที่ผ่านมา ทั้งดวงหน้างามขาวซีดไร้สีเลือด ทั้งริมฝีปากแห้งแตกซีดเซียว ทั้งแววตาอ่อนล้าและสีหน้าอ่อนเพลีย ท่าทางของนางนั้นล้วนทำให้ทุกสายตาอ่อนลงระคนสงสารเห็นใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เดิมทีนายท่านโหวรักบุตรทุกคนเท่าเทียมกันอยู่แล้ว เขาเป็นคนเที่ยงธรรม ไม่ลำเอียง ไม่แบ่งแยกบุตรภรรยาเอกหรือบุตรอนุ ขอเพียงเป็นบุตรของเขา เขาย่อมรักเหมือนกันหมด เพียงแต่หลายปีที่ผ่านมาหลี่อวี้หลันชอบสร้างปัญหาอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังเอาแต่ใจและเย่อหยิ่ง หรูซื่อก็ตามใจนางจนเสียคน ทำให้ความรักความเอ็นดูที่เคยมีเริ่มจืดจางลงไป ทว่ายามนี้เมื่อได้เห็นท่าทางอ่อนแอไร้กำลังของบุตรสาวคนรองกับตา ก็อดรู้สึกสะท้อนใจด้วยความสงสารไม่ได้ “พาคุณหนูเจ้ากลับเรือนแล้วไปเชิญท่านหมอหลวงกู้มา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD