ภายในหอรุ่ยอี้ยามนี้ครึกครื้นยิ่ง มองไปมุมไหนของร้านก็ล้วนพบคุณหนูหน้าตางดงามกับเหล่าฮูหยินสกุลชั้นสูงเต็มไปหมด และวันนี้ก็เป็นเหมือนเมื่อสองวันก่อนตอนหลี่อวี้หลันเข้ามาครั้งแรก หลงจู๊ผู้นั้นยังคงหัวหมุนต้อนรับเหล่าลูกค้าสูงศักดิ์ทั้งหลายจนหน้าดำคร่ำเครียด
หลี่อวี้หลันไม่ได้สนใจเลือกผ้าแพรพรรณ นางส่งสายตาให้ไป๋เยาซึ่งพยักหน้ารับอย่างรู้ความ จากนั้นร่างบางของคุณหนูรองหลี่ก็หายลับเข้าไปในส่วนของด้านหลังร้านภายในพริบตา
บริเวณชั้นสองของหอรุ่ยอี้แตกต่างจากชั้นล่างราวฟ้ากับเหว ขณะที่ชั้นล่างกำลังวุ่นวาย ชั้นบนกลับเงียบสงบยิ่ง นางเดินมาหยุดยืนหน้าผ้าไหมสีแดงโลหิตปักลายผีเสื้อสยายปีกที่ดึงดูดสายตานางเมื่อครั้งก่อน ปลายนิ้วลูบบนฝีเข็มแผ่วเบา
นางชมชอบผ้าไหมสีเลือดผืนนี้ยิ่ง ในเมื่ออาภรณ์ออกงานชุดสีทองนั่นไม่ถูกใจนาง เช่นนั้นนางก็ขอใช้เงินแก้ปัญหาเสียเลย อย่างไรท่านแม่ก็มอบถุงเงินมาให้นางตั้งมากโข แล้วไยนางต้องทนสวมอาภรณ์ที่ไม่ถูกใจด้วยเล่า
“คุณหนูรองมาแล้วหรือ” เสียงทักดังขึ้นจากหลังฉากกั้นอีกด้านหนึ่ง หลี่อวี้หลันจึงผละมือออกจากผ้าตรงหน้าแล้วเดินอ้อมฉากไปหาเจ้าของเสียง
เมื่อเข้ามาแล้วเห็นว่าบนโต๊ะไม้ตัวใหญ่มีสิ่งใดวางอยู่ ดวงหน้างามพลันตื่นตะลึง
“พี่สี่… นี่ท่านคงมิได้ทำเสร็จแล้วกระมัง”
สี่หร่านแย้มยิ้ม รีบลุกขึ้นยืนก่อนเดินเข้ามาดึงแขนหลี่อวี้หลันพลางพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น “อวี้หลัน ท่านรีบมาดูเร็ว นี่ตรงตามแบบที่ท่านต้องการหรือไม่”
เสื้อชั้นในสีชมพูตัวเล็กที่ถูกตัดเย็บอย่างดีถูกกางออกตรงหน้าหลี่อวี้หลัน จากนั้นก็ตามมาด้วยกางเกงชั้นในตัวน้อยอีกตัว นางหยิบทั้งสองชิ้นขึ้นมาคลี่ดูพลางพลิกไปมา นัยน์ตาเปล่งประกายตื่นเต้น ก่อนเงยหน้ามองสี่หร่านด้วยแววชื่นชม “ใช่แล้ว แบบนี้แหละที่ข้าต้องการ”
เมื่อได้รับคำยืนยันจากหลี่อวี้หลัน สี่หร่านพลันถอนใจอย่างโล่งอก ก่อนจะแย้มยิ้มภาคภูมิใจออกมา
“แต่ว่านี่มันเพิ่งผ่านไปสองวันเองไม่ใช่หรือ ไฉนท่านถึงทำเสร็จเร็วนักเล่า”
“ท่านไม่รู้อะไร” สี่หร่านหยิบแบบภาพที่หลี่อวี้หลันให้เป็นตัวอย่างมากางบนโต๊ะ “วันนั้นหลังจากท่านกลับไปแล้ว ข้าก็เริ่มลงมือตัดเย็บเลย ข้าทำผิดตั้งหลายครั้งหลายคราเชียวนะกว่าจะออกมาเป็นเช่นนี้ได้”
ปลายนิ้วเรียวชี้ไปทางเศษผ้ากองเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคนทั้งคู่นัก คำพูดของนางคล้ายจะบ่นทว่าสีหน้ากลับแย้มยิ้มอารมณ์ดียิ่ง
“ท่านดูสิ กว่าข้าจะทำออกมาได้ถูกต้องตามแบบของท่าน ข้าต้องเสียผ้าดี ๆ ไปมากเพียงใด แต่หลังจากข้าตัดเย็บมันออกมาได้แล้วกลับพบว่าสิ่งนี้ทำง่ายยิ่ง ขั้นตอนก็ไม่ได้ยุ่งยากอันใดด้วย”
หลี่อวี้หลันลองทาบเสื้อชั้นในกับหน้าอกตนเองพลางเกี่ยวตะขอด้านหน้า ท่าทางของนางนั้นเรียกสีหน้าตื่นตระหนกตกใจจากสี่หร่านอย่างยิ่ง
“ท่าน… ท่านจะเปลี่ยนชุดตรงนี้เลยหรือ” ตั้งแต่นางเกิดจนอายุเพียงนี้ นอกจากสามีผู้ล่วงลับแล้วก็ยังไม่เคยมีผู้ใดกล้าเปลี่ยนอาภรณ์ต่อหน้านางเช่นนี้มาก่อน ไฉนคุณหนูสูงศักดิ์ผู้นี้ถึงได้ประหลาดนักเล่า
“ข้าไม่ได้จะเปลี่ยนชุด แค่ลองวัดไซซ์ดูเฉย ๆ น่ะ”
“วัด… กระไรนะ?”
หลี่อวี้หลันเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอหลุดพูดคำศัพท์ชาติก่อนออกมาอีกแล้ว จึงรีบเปลี่ยนสีหน้า “หมายถึงวัดตัวน่ะ จริงสิ ท่านเพิ่งทำเสร็จเพียงชุดเดียวใช่หรือไม่?”
สี่หร่านพยักหน้า “ใช่ ข้ากำลังตัดเย็บตัวที่สองอยู่ ท่านอยากดูหรือไม่?”
นางทำท่าจะเดินไปหยิบมาให้ดู แต่ถูกอวี้หลันคว้าแขนไว้ก่อน
“ไม่เป็นไร วันนี้ที่ข้าไม่ได้จะมาเร่งรัดท่าน เพียงแต่มีเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องกระไรหรือ?” ปกติสี่หร่านเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวอย่างยิ่ง นางมีฝีมือตัดเย็บสูงส่งก็จริง แต่ก็เป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก นางไม่ชอบพบปะผู้คน ชอบอยู่แต่บนชั้นสองของหอรุ่ยอี้เงียบ ๆ เช่นนี้ ไม่ค่อยพบผู้ใดถ้าไม่จำเป็น แต่เพราะแบบภาพชุดชั้นในทำให้ตอนนี้หลี่อวี้หลันกลายเป็นแขกคนสำคัญของนางไปแล้ว
สี่หร่านรู้สึกถูกชะตากับแม่นางน้อยผู้นี้นัก นางเป็นถึงคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์แต่กลับวางตัวเรียบง่ายและมีนิสัยเปิดเผยตรงไปตรงมายิ่ง ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็ว
หลี่อวี้หลันวางชุดชั้นในลงบนโต๊ะแล้วจูงมืออีกฝ่ายเดินออกมานอกฉากกั้น พามาหยุดลงตรงหน้าผ้าไหมสีแดงปักลายผีเสื้อแสนงดงามผืนนั้น ก่อนชี้พลางกล่าว “ท่านขายผ้าไหมผืนนี้ให้ข้าได้หรือไม่”
สี่หร่านมองนางด้วยแววตาตะลึงงัน “ท่าน… สนใจผ้าไหมผืนนี้งั้นรึ?”
“ใช่ ข้าต้องตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว ท่านขายให้ข้าได้หรือไม่?” นางลูบลายปักผีเสื้อด้วยความชื่นชม ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นหันมาสบตาอีกฝ่าย “หรือว่ามันมีเจ้าของแล้ว?”
สี่หร่านส่ายหน้าพลางมองผ้าปักงดงามประณีตที่นางทุ่มเทเวลาปักร่วมสองเดือน เดิมทีผ้าผืนนี้นางตั้งใจปักขึ้นมาไม่ได้ตั้งใจจะขาย เพียงต้องการใช้ประดับดั่งภาพวาดผ้าใบผืนหนึ่งเท่านั้น ไม่คิดว่าหลี่อวี้หลันจะเกิดต้องตาผ้าผืนนี้เข้า
“ท่านจะซื้อไปสวมเองหรือ?”
หลี่อวี้หลันพยักหน้า “ท่านก็รู้ว่ามะรืนนี้เป็นวันเทศกาลซ่างซื่อแล้ว ทางวังหลวงจัดงานขึ้นที่ริมทะเลสาบหวงอัน แล้วบังเอิญว่าข้ายังไม่มีอาภรณ์ที่จะสวมใส่ จึงได้นึกถึงผ้าผืนนี้ขึ้นมา”
ไม่มีอาภรณ์จะสวมใส่งั้นหรือ?
หากสี่หร่านจำไม่ผิด อาภรณ์ของคุณหนูสกุลหลี่ทั้งสามถูกสั่งตัดเย็บขึ้นที่หอรุ่ยอี้ไม่ใช่หรือ? แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรกันที่คุณหนูรองเช่นหลี่อวี้หลันจะไม่มีอาภรณ์ออกงาน เกรงว่าจะมี เพียงแต่ไม่ถูกตาต้องใจคนเสียมากกว่ากระมัง
“ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าจะสวมผ้าไหมผืนนี้ร่วมงานเลี้ยงซ่างซื่อจริง ๆ” นางถามย้ำอีกครั้ง สายตาไม่แน่ใจจ้องมองดวงหน้างดงามของเด็กสาววัยแรกแย้มราวกับฤดูใบไม้ผลิ
หลี่อวี้หลันพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ข้าแน่ใจ ทำไมหรือ ท่านคิดว่าข้าไม่เหมาะกับผ้าผืนนี้งั้นหรือ?”
“ที่ใดกัน” สี่หร่านรีบส่ายหน้าตอบ พลางถอนหายใจ “ท่านงดงามหยาดเยิ้มถึงเพียงนี้ หากสวมอาภรณ์ปักลายผีเสื้อผืนนี้ของข้า แม้แต่เทพธิดาบนสวรรค์ลงมาเห็นท่านยังต้องยอมก้มหน้าให้ท่านสามส่วนเลยกระมัง เพียงแต่ว่า…”
“แต่กระไรหรือ?” หลี่อวี้หลันเลิกคิ้วจับจ้องสี่หร่านด้วยความสงสัยใคร่รู้ยิ่ง
“เพียงแต่ว่าผ้าไหมผืนนี้มีสีแดงคล้ายกับโลหิตเกินไป เกรงว่าคงจะไม่เหมาะกับคุณหนูสูงศักดิ์เช่นท่านกระมัง”
หลี่อวี้หลันฟังจบก็พลันถอนหายใจ นางแย้มยิ้มมุมปากพลางกล่าวน้ำเสียงสดใส “เรื่องนั้นท่านมิต้องกังวล เพราะใต้หล้านี้คงไม่มีผู้ใดเหมาะกับสีแดงโลหิตนี่เท่ากับ ‘คุณหนูตัวร้าย’ เช่นข้าอีกแล้วกระมัง”