เช้าวันต่อมา
ตึกตึก สองเท้าหนาเดินลงบันไดด้วยท่าทางเร่งรีบ ร่างสูงเดินตรงไปยังประตูบ้านทันที
“อ้าว ทรัชกลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ แม่ไม่เห็นรู้เลยว่าจะมา” สิรินเอ่ยถามลูกชายขึ้นทันทีด้วยความแปลกใจ
“เมื่อคืนผมกลับมาดึกครับแม่ เลยไม่ได้บอก” ทรัชหันกลับไปตอบสิริน
“แล้วนี่จะรีบไปไหนล่ะลูก ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนเหรอ”
“พอดีผมต้องรีบไปมหาลัยครับแม่ ไว้ผมจะกลับมาทานด้วยตอนเย็นนะครับ” ร่างสูงเดินเข้าไปกอดคนเป็นแม่ด้วยท่าทีออดอ้อนตามปกติที่เขาชอบทำ
“ทรัชจะกลับมาตอนเย็นเหรอ” สิรินถามลูกชายด้วยความแปลกใจอีกครั้ง แต่ก็แอบยิ้มดีใจที่ทรัชจะกลับมาบ้าน
“ครับแม่” ทรัชก็ยิ้มตอบคนเป็นแม่
“โอเคลูก งั้นตอนเย็นแม่ทำอาหารไว้รอนะ” ทรัชพยักหน้าตอบ
“งั้นผมไปมหาลัยก่อนนะครับ” แล้วร่างสูงก็รีบเดินออกมายังรถของตัวเองทันที แต่ขณะที่เขากำลังจะเปิดประตูรถ สายตาคมก็เหลือบไปเห็นนภากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ทำให้เขานึกถึงใครบางคน
“ตื่นหรือยังนะ” ร่างสูงพึมพำออกมาแผ่วเบา มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความหาใครบางคนทันที
พราวฟ้า
ทรัช: ตื่นหรือยัง?
ทรัช : ทำอะไรอยู่
read
“อ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” ร่างสูงจ้องมองโทรศัพท์อย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ไม่มีข้อความใดๆตอบกลับมา เมื่อเขามองเวลาบนหน้าจอก็ทำให้ร่างสูงต้องจำใจเก็บโทรศัพท์และขึ้นรถเพื่อขับไปมหาลัยทันที
ผ่านไปสักพัก
ติ้งๆ เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์หรูดังขึ้น ระหว่างที่เขากำลังขับรถเข้ามาจอดในมหาลัย
ข้อความ
พราวฟ้า : ตื่นแล้วค่ะ
พราวฟ้า : ขอโทษที่ตอบช้านะ เรากำลังทำขนมอยู่
พราวฟ้า : ทรัชมีอะไรหรือเปล่า?
มือหนาเปิดอ่านข้อความด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
ทรัช : ทำขนมอะไร
พราวฟ้า : ขนมไทย เราจะเอาไปขายที่ตลาดน่ะ
read
“ขายขนมงั้นเหรอ” ร่างสูงพึมพำออกมาด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยว่าพราวฟ้าต้องไปขายขนมอะไรแบบนี้ด้วย
ก๊อกๆ
ยังไม่ทันที่ทรัชจะส่งข้อความอะไรกลับไป เสียงเคาะกระจกรถก็ดังขึ้นทำให้เขาหันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นใครร่างสูงก็ลงจากรถไปทันที
“มึงพึ่งมา” ทิคเกอร์เอ่ยถามขึ้น
“เออ” ทรัชพยักหน้าตอบ
“เชี้ย! เป็นไปได้ไงวะ ปกติมึงไม่มาสายแบบนี้” ทิคเกอร์เอ่ยออกมาด้วยความแปลกใจ
“เมื่อคืนกูกลับบ้าน เลยมาเลส” ร่างสูงตอบกลับไปท่าทีปกติ
“ยิ่งแปลกไปใหญ่ ปกติมึงกลับบ้านเดือนละครั้งได้มั้ง แต่เดี๋ยวนี้มึงกลับบ่อยนะ”
“เรื่องของกู” แล้วทรัชก็เดินนำทิคเกอร์มายังห้องเรียนทันที
หลังเลิกเรียน..
“พวกมึงจะไปไหนต่อ” ทิคเกอร์เอ่ยถามขึ้น
“หาเมีย” คัตเตอร์กับกราฟฟิคเอ่ยออกมาพร้อมกัน
“สามัคคีกันเลยนะพวกมึง” ทิคเกอร์เบะปากตอบกลับไป
“หึ” ทรัชก็แสยะยิ้มออกมา ก่อนที่คัตเตอร์และกราฟฟิคจะเดินออกไป ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงทิคเกอร์กับทรัชที่ยืนสูบบุหรี่กันอยู่
“แล้วมึงอะ” ทรัชถามทิคเกอร์ขึ้น
“กูก็จะไปหาเด็ก” ทิคเกอร์เลิกคิ้วเอ่ยบอกอย่าง กวนๆ
“คราวนี้ดาวคณะไหนอีกล่ะ” ทรัชถามพร้อมพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างสบายใจ
“ดาวมหาลัย”
“หึ”
“กูไปละ” แล้วทิคเกอร์ก็ทิ้งบุหรี่ก่อนจะเดินมาตบบ่าเพื่อนและเดินออกไป ทำให้ทรัชที่ยืนอยู่คนเดียวสูบบุหรี่จนหมดมวนแล้วจึงเดินมายังรถของตัวเองและขับออกไปทันที
ด้านพราวฟ้า
“ขนมไทยอร่อยๆ ลองชิมกันก่อนได้นะคะ” ฉันตะโกนขายขนมสุดเสียง ก่อนจะมีลูกค้ามายืนหน้าแผงขายขนมของฉัน
“รับขนมอะไรดีนะ”
“เอาขนมกล้วย ขนมชั้นอย่างละหนึ่งจ้ะหนู”
“20 บาทค่ะ” แล้วฉันก็หยิบขนมใส่ถุงให้ลูกค้าทันที หลังจากลูกค้าเดินออกไปแล้วฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูข้อความของทรัชที่มีการกดอ่านแล้ว แต่ไม่ได้ตอบกลับมา
“ทรัชไม่ตอบ” ฉันพึมพำขึ้นมาเบาๆ ดวงตากลมยังคงจ้องไปยังโทรศัพท์อย่างไม่ละสายตา
“เหมาหมดนี่เท่าไหร่” เสียงทุ้มต่ำพูดขึ้นเสียงดัง ทำให้ฉันเงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นไปมอง
“ทรัช” แล้วฉันก็ต้องตกใจขึ้นมาทันที เมื่อคนที่กำลังยืนอยู่หน้าแผงขายขนมของฉันคือคนที่ฉันกำลังนั่งรอข้อความตอบกลับจากเขาอยู่
“ทรัชมาทำอะไรที่นี่เหรอ”
“มาหาเธอ” อีกแล้ว คำพูดของเขาทำฉันใจสั่นอีกแล้ว
“มะ มีอะไรเหรอ” ฉันถามออกไปอย่างตะกุกตะกัก
“ทำไมมานั่งขายขนมตรงนี้ แม่ฉันใช้มาเหรอ” ทรัชถามขึ้น
“เปล่านะ คุณสิรินไม่ได้สั่งเลย เราอยากมาขายเอง” ฉันตอบไปตามความจริง
“แล้วทำไมถึงมาขายล่ะ”
“เรากับแม่อยากหาเงินน่ะ เลยช่วยกันทำขนมมาขาย”
“งั้นเหรอ” ทรัชถาม ฉันก็พยักหน้าตอบ
“งั้นขนมที่เหลืออยู่ตอนนี้ ฉันเหมาหมดเลย” ฉันเบิกตากว้างขึ้นมาทันทีเพราะขนมวันนี้เหลือเยอะมากเลย
“มันเยอะมากเลยนะ ทรัชจะเหมาไปทำไม”
“เธอจะได้กลับบ้านไง จะมานั่งร้อนขายขนมทั้งวันทำไม” เขาเลิกคิ้วถามฉัน
“แล้วทรัชทานขนมแบบนี้เป็นเหรอ” ทรัชก็ส่ายหน้าออกมาทันที
“เห็นไหม ทานไม่เป็นแต่จะเหมาไปหมดนี่ สุดท้ายทรัชก็ต้องเอาไปทิ้งอยู่ดี เราเสียดายแถมจะเสียความรู้สึกด้วยเพราะเราตั้งใจทำขนมมากๆเลยนะ”
“แล้วฉันจะต้องทำยังไง” เขาถามออกมา
“ไม่ต้องทำอะไรหรอก เราขายได้ ทรัชกลับบ้านไปเถอะที่นี่อากาศร้อน” ฉันเอ่ยออกไป
“ไม่ ฉันจะอยู่กับเธอที่นี่แหละ” พูดจบ เขาก็เดินมานั่งข้างๆฉันทันที
“แต่มันร้อนมากนะทรัช” ฉันพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงคุณชายแบบเขา
“ฉันอยู่ได้น่า เดี๋ยวฉันช่วยขายแล้วกัน”
“ฮะ” ฉันทำหน้างง เขาไม่ตอบอะไรแต่เลือกที่จะพับแขนเสื้อนักศึกษาขึ้น
“สวัสดีครับ วันนี้เรามีขนมไทยเจ้าอร่อยมาขายครับ มาอุดหนุนกันได้นะครับ” ทรัชยืนขึ้นเต็มความสูงตะโกนออกไปสุดเสียง ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาต่างหันมามองจนเป็นจุดสนใจ เพราะด้วยความที่ทรัชเป็นคนหล่อ ดูดีและอ่อร่ามากๆ แต่ดันมาตะโกนขายขนมให้ฉันทำให้บรรดาผู้หญิงที่เห็นต่างหันมามองและกรี๊ดกร๊าดกันเป็นแถว
“แกๆ ดูผู้ชายคนนั้นดิโคตรหล่อ”
“เราไปอุดหมุนเขากันเถอะ” เสียงผู้หญิงพูดขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาหน้าแผงขนมของฉัน
“เอ่อ พี่คะหนูเอาอันนี้ค่ะ” ผู้หญิงคนหนึ่งชี้ไปที่ขนมถ้วย
“เอาอย่างเดียวเองเหรอครับ พี่ว่ามันจะไม่อิ่มนะ” แล้วทรัชก็พูดขึ้นเสียงหวานละมุน ทำให้เธอทำท่าเขินออกมา
“งั้นหนูเอาขนมไทยอย่างละหนึ่งเลยค่ะ” แล้วเธอก็เปลี่ยนใจขึ้นมาทันที ทำให้ฉันยืนนิ่งไปอย่างตกใจที่เธอเปลี่ยนใจง่ายแบบนี้
“แม่ค้ามัวยืนทำอะไรอยู่ล่ะ เอาขนมใส่ถุงให้ลูกค้าสิ” แล้วทรัชก็หันมาสะกิดฉันพูดขึ้น ทำให้ฉันได้สติรีบหยิบขนมใส่ถุงทันที
“ขอบคุณมากนะครับ” ทรัชยื่นถุงขนมให้ลูกค้าพร้อมกับยิ้มหวานให้จนเธอเขินม้วนไปเลย แล้วลูกค้ามากมายก็ต่างเดินมาต่อแถวซื้อขนมของฉันอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“เอาอันนี้ค่ะ”
“ฉันเอาขนมกล้วยสิบ ขนมตาลห้าค่ะ”
“ส่วนฉันเอาขนมถ้วยสองค่ะ” ลูกค้าต่างสั่งกันมาไม่หยุด ฉันกับทรัชก็ช่วยกันขาย ฉันเป็นคนหยิบขนมใส่ถุงส่วนทรัชเป็นคนเรียกลูกค้าและรับเงิน
ผ่านไปสักพัก
“เฮ่อ หมดสักที” ทรัชนั่งลงถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยจากการยืนขายของอยู่นาน แต่สำหรับฉันวันนี้เป็นการขายหมดที่ไวมากใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
“ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้ทรัชขนมเราคงไม่หมดเร็วขนาดนี้” ฉันหันไปเอ่ยบอกเขาพร้อมกับยิ้มให้อย่างจริงใจ
“แค่นี้เล็กน้อย” เขาก็ยิ้มตอบฉัน
“เราขอมือทรัชหน่อยสิ”
“นี่! ฉันไม่ใช่หมานะ” เขารีบพูดขึ้นทันที
“ไม่ใช่แบบนั้น” แล้วฉันก็ถือวิสาสะดึงมือหนาขึ้นมาแบออกตรงหน้าฉัน
“ทำอะไรของเธอ”
“อะ แทนคำขอบคุณนะ” แล้วฉันก็วางขนมตาลไว้บนมือหนาหนึ่งกระทง
“ยังไม่หมดอีกเหรอ” ทรัชมองขนมก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามฉัน
“อันนี้อันสุดท้าย เราเก็บไว้ให้ทรัช” ฉันยิ้มเอ่ยบอกเขา
“แต่ฉันไม่ชอบกินขนมหวานอะ” เขาตอบกลับทาด้วยสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย
“ลองชิมดู อันนี้เราทำเองกับมือไม่หวานหรอก รับรองทรัชต้องชอบ” เขาก็มองหน้าฉันเล็กน้อย แต่ก็ยอมหยิบขนมตาลเข้าปาก
“อร่อยไหม” ฉันมองหน้าเขาอย่างลุ้นไปกับคำตอบ
“อืม อร่อยดีนะ ฉันชอบ” ทรัชพูดพร้อมยกนิ้วโป้งชูให้ ทำให้ฉันยิ้มหน้าบานออกมาอย่างโล่งใจที่ทรัชบอกแบบนี้
“ดีใจนะที่ทรัชชอบ” แล้วเราก็นั่งมองหน้ากันนิ่งไปสักพัก
แล้วขณะที่ฉันมองหน้าเขาอยู่นั้น สายตาฉันก็เห็นเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อจำนวนมาก ฉันจึงเอื้อมมือลงไปหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าสะพายออกมา
“เช็ดเหงื่อสิ” ฉันยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ทรัช แต่เขาก็ไม่ยอมรับไป
“เช็ดให้หน่อยสิ”
“เอ่อ…คือ” ยังไม่ทันที่ฉันจะปฏิเสธอะไร ทรัชก็ยื่นใบหน้ามาใกล้ๆฉันทันที ทำให้ฉันชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ยอมเช็ดหน้าให้เขา มือบางค่อยๆเลื่อนเช็ดไปตามใบหน้าหล่อ สายตาคมก็มองมายังฉันอย่างสื่อความหมาย ทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
“เรากลับบ้านกันเถอะ ทรัชร้อนมากแล้ว” ฉันพูดขึ้นทันทีก่อนจะรีบลุกขึ้นเก็บของด้วยความรวดเร็วอย่างไม่สามารถทนต่อสายตาคมได้อีกต่อไป
“หึ” เขาแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นช่วยฉันเก็บของ แล้วทรัชก็ขับรถพาฉันกลับมาบ้านทันที
“ขอบคุณสำหรับวันนี้อีกครั้งนะทรัช”
“เปลี่ยนจากคำว่าขอบคุณ เป็นรับสายฉันคืนนี้ก็พอ” ทรัชพูดขึ้นยิ้มๆ
“ระ รับสายเหรอ”
“ใช่ คืนนี้ฉันโทรหานะ” แล้วทรัชก็โน้มใบหน้าเข้ามากระซิบบอกฉัน
“อะ..อ่อ งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว เราไปก่อนนะ” ฉันที่ทำตัวไม่ถูกก็รีบเอ่ยออกไปอย่างตะกุกตะกักและลงจากรถทันที
ร่างบางเดินลงจากรถไปด้วยท่าทีเขินอายโดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครบางคนกำลังมองมายังเธอด้วยท่าทีไม่พอใจ
ปัง! ขณะที่พราวฟ้าเดินไปได้ไม่นาน ทรัชก็เดินตามลงมาด้วยรอยยิ้มที่ฉายบนใบหน้าหล่อ แต่เมื่อเขากำลังจะเดินเข้ามาในบ้าน เท้าหนาก็ต้องชะงักไปทันทีเมื่อเจอสายตาของคนเป็นแม่กำลังยืนจ้องเขาอยู่
“แม่มายืนทำอะไรตรงนี้ครับ” ทรัชรีบเดินเข้าไปกอดออดอ้อนแม่ตัวเองทันที
“ทำไมนังลูกเมียน้อยลงมาจากรถลูกได้ ทรัชกับมันไม่ได้มีอะไรกันใช่ไหม” สิรินผละออกจากร่างสูงถามขึ้นเสียงแข็ง ทำให้ทรัชนิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูดขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอกครับแม่ เราเข้าบ้านกันเถอะนะ” ทรัชเลือกที่จะโกหกสิรินและเปลี่ยนเรื่องพาสิรินเดินเข้ามาในบ้านทันที
“เดี๋ยวสิทรัช มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ทรัชห้ามไปยุ่งกับมันเด็ดขาดเลยนะลูกรู้ไหม” สิรินพูดกำชับลูกชายขึ้นเสียงดัง
“แม่อย่ากังวลไปเลยนะครับ วันนี้ผมร้อนมากเลย ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะครับ ฟอด” แล้วทรัชก็หอมแก้มแม่หนึ่งที ก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องตัวเองไปทันที โดยมีสายตาของสิรินมองตามไปอย่างจับผิดลูกชาย
ตกดึก
ครืดด ครืดด~
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นปุ๊บ ฉันรีบหยิบขึ้นมากดรับสายทันทีอย่างไม่ดูชื่อปลายสายที่โทรเข้ามาเลย
ติ้ด
“ฮัลโหล”
(นอนหรือยัง) เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามออกมา ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเสียงใคร
“ยังเลย”
(ทำไรอยู่)
“เรากำลังนั่งเล่นอยู่น่ะ”
(นั่งเล่นหรือนั่งรอฉันโทรหากันแน่)
“ปะ เปล่ารอซะหน่อย” ฉันตอบปลายสายไปอย่างเลิ่กลั่กทันที
(แต่ฉันเห็นเธอนั่งมองโทรศัพท์มาสักพักแล้วนะ) ฉันรีบมองไปยังหน้าต่างห้องทันที เพราะมันเป็นทางเดียวที่เขาสามารถมองเข้ามาในห้องฉันได้ และฉันก็เห็นทรัชยืนถือโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียบห้องเขา สายตาคมมองมาที่ห้องของฉัน ทำให้ฉันลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียงห้องของตัวเองทันที
“ทรัชแอบมองเราเหรอ”
(ไม่ได้แอบมอง แต่ตั้งใจมองต่างหาก)
“…” คำพูดของเขาทำฉันไปเป็นเลยจริงๆ
(เขินเหรอ)
“มะ ไม่ได้เขินนะ”
(หึ) แล้วเราก็ยืนคุยโทรศัพท์มองหน้ากันผ่านระเบียงห้องของกันและกัน เหมือนหนุ่มสาวที่พึ่งเริ่มจีบกันใหม่ๆ