@คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง
“นายครับคุณหญิงจันทร์วาดท่านสั่งไว้ว่า ให้ผมพานายกลับบ้านทันทีที่ถึงไทยนะครับ”
เสียงรพีลูกน้องคนสนิทเอ่ยเตือน พลางก้าวตามชายร่างสูงผู้มีใบหน้าคมเข้ม สุขุม เย็นชา เดินเข้ามาภายในคอนโดหรูด้วยความสง่า จนผู้คนรอบข้างพร้อมทั้งพนักงานที่หน้าล็อบบี้ต้องเหลียวมอง
ราชันย์ไม่แม้แต่จะหันมาตอบ และไม่แสดงท่าทีใดๆ ราวกับคำพูดนั้นไม่เข้าหูเลยแม้แต่น้อย เขาหยุดยืนเพียงครู่ ก่อนออกคำสั่งอีกเรื่องด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“เด็กที่ฉันให้นายหามาอยู่ที่ไหน พาเธอมาหาฉันตอนนี้ แล้วอย่าลืมที่ฉันสั่งไว้ ขอผู้หญิงที่ใบหน้าสวยแบบไทยแท้ๆ”
น้ำเสียงเรียบเอ่ยขึ้นนิ่งๆ จนคนฟังต้องก้มหน้าอัตโนมัติ
รพีชะงักเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าท้วงหรือตั้งคำถามใดๆ เพราะเขารู้ดีเรื่องแบบนี้เขาควรทำยังไง และแน่นอนรพีทำได้แค่รับคำเท่านั้น
“ครับนาย”
รพีตอบเพียงสั้นๆ ก้มศีรษะต่ำก่อนรีบหันหลังไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนาย เพราะเขารู้จักราชันย์ดี ชายคนนี้ไม่เคยพูดซ้ำคำสั่งเดียวกันสองครั้ง และไม่เคยมีความอดทนให้ใครขัดใจแม้แต่วินาทีเดียว
แต่ทันทีที่รพีเดินลงมาถึงรถ เขาก็เห็นว่าราชันย์ลืมกระเป๋าอีกใบทิ้งไว้บนเบาะหลัง
“นายลืมกระเป๋าเหรอเนี่ย ไม่รู้ว่ามีของสำคัญอะไรหรือเปล่า เอาไปให้นายก่อนดีไหมเผื่อยนายจำเป็นต้องใช้”
รพีพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะดึงหูหิ้วกระเป๋าแล้วกำลังจะเดินกลับเข้าไปในล็อบบี้
ปี๊ดด! ปี๊ดดด!
เสียงแตรรถคันด้านหลังดังขึ้นไม่หยุด ทำให้รพีต้องหันกลับไปมองอย่างหัวเสีย
"เออ! รู้แล้วแป๊บนึงได้ไหมล่ะ"
ปี๊ดดด! ปี๊ดดดด!
“โธ่เว้ย! เอาไงดีวะทีนี้ จิ๊! แม่ง”
เขาสบถเบาๆพร้อมจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิด เขารู้ดีว่าจุดนี้เป็นจุดที่ห้ามจอดค้าง เพราะรถวิ่งเข้าออกตลอดเวลา จึงไม่สามารถจอดนานได้ แต่หากเขาวางกระเป๋าไว้แล้วรีบไปเลื่อนรถ เขาก็กลัวว่าราชันย์จะเรียกหากระเป๋าพอดี และนั่นคือความหายนะของลูกน้องอย่างเขาโดยตรง
และในจังหวะที่เขากำลังลังเลนั้นเอง เขาเห็นเด็กสาวในชุดพนักงานของคอนโดเดินผ่านมาพอดิบพอดี
“นี่เธอ!”
รพีเรียกขึ้นด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ
เด็กสาวหยุดชะงักก่อนทำหน้าแปลกใจ มองซ้ายมองขวาราวไม่มั่นใจว่าโดนเรียกจริงไหม
“เรียกหนูเหรอคะ”
“ใช่ เรียกเธอนั่นแหละ เธอเป็นพนักงานที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ…ค่ะ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ”
พราวในชุดพนักงานพนักงานพาร์ทไทม์ ก้มหัวลงเล็กน้อยตามมารยาท ใบหน้าหวานเรียบร้อยในแบบที่รพียังอดมองซ้ำไม่ได้ คำพูดของนายที่บอกให้หาผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยแบบสาวไทยแท้ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัวทันทีที่เห็นใบหน้าของหญิงสาว แต่ไม่ทันที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น เสียงแตรรถก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ปี๊ดดด!
รพีดึงสติดึงตัวเองกลับมาจากความคิดนั้น ก่อนจะรีบพูดขึ้น
“ผมรบกวนเธอเอากระเป๋าใบนี้ไปให้นายของฉันหน่อยได้ไหม พอดีฉันต้องรีบไปเลื่อนรถก่อน ยังไงฝากด้วยนะ นายของฉันอยู่ห้องวีวีไอพีชั้นบนสุดนะเลย รบกวนเธอด้วยนะ ขอบคุณนะที่เป็นธุระให้!”
รพีพูดรวดเดียวจบ ก่อนยื่นกระเป๋าใบหรูให้เธอ และไม่ทันให้พราวปฏิเสธ เขาก็คว้ามือเธอไปจับสายกระเป๋าแน่น แล้วรีบหันหลังวิ่งไปที่รถทันที ปล่อยให้พราวยืนถือกระเป๋าใบนั้นไว้ด้วยความงงงวย
“แต่ว่าหนูกำลังจะเลิกงานแล้วนะคะ!”
พราวยื่นเสียงเรียกตามหลัง แต่รพีก็ไม่ได้หันกลับมามองแม้แต่นิดเดียว
แตรรถด้านหลังยังคงบีบดังเป็นระยะๆ
ปี๊ดด! ปี๊ดดด!
จนพราวต้องก้าวถอยหลังหลบอย่างรวดเร็ว
เธอถอนหายใจยาวออกมา
“อะไรเนี่ย ห้องวีวีไอพีอยู่ตั้งชั้นบนสุด แล้วกว่าจะลงมาอีก เฮ้อออ! กลับบ้านช้าอีกตามเคยสินะเรา”
เด็กสาวบ่นพึมพำเบาๆ พร้อมทั้งถอนหายใจน้อยๆ แต่ก็ยกกระเป๋าขึ้นดูอย่างเลี่ยงไม่ได้ กระเป๋าใบสีดำสนิทหนังแท้เนื้อดี งานเย็บเนี้ยบทุกฝีเข็ม หรูหราขนาดที่คนธรรมดาอย่างเธอไม่กล้าคิดราคาด้วยซ้ำ
“ของใครกันนะ เจ้าของคงรวยน่าดูเลยสิ”
พราวกลั้นยิ้ม ขณะที่ความอยากรู้อยากเห็นเริ่มก่อตัวในใจ แล้วเจ้าของกระเป๋าจะหน้าตาแบบไหนกันนะ
แล้วเธอก็ต้องส่ายหน้าไล่ความคิดออกไป 'ไม่ใช่เรื่องของเราเสียหน่อย จะอยากรู้ทำไมกันเนี่ย'
พราวรวบกระเป๋าในมือ ก้าวเท้าเดินผ่านล็อบบี้หรูหรา ตรงไปยังลิฟต์ที่เงียบสงบในยามเที่ยงคืน เสียงรองเท้าคัทชูเบาๆ กระทบพื้นหินอ่อนดังเป็นจังหวะ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเพียงแค่ขึ้นลิฟต์ในคืนนี้ ชีวิตของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
@ภายในห้องวีวีไอพี
แสงสลัวภายในห้อง สว่างเพียงจากโคมไฟหัวเตียงที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ให้ความสว่างแค่พอเห็นเค้าโครงเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง แต่ไม่มากพอจะทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น กลับกันมันยิ่งทำให้ห้องกว้างใหญ่ใบนี้ดูน่าขนลุก และน่าอึดอัดมากกว่าที่จะดูสวยหรู
ฟู้~~
ควันบุหรี่สีขาวขุ่นพวยพุ่งออกจากริมฝีปากหยักของชายร่างสูง ลอยฟุ้งไปในอากาศเย็นเฉียบของระเบียงชั้นบนสุด ชั้นที่สูงที่สุดของคอนโดหรูระดับท็อปของเมืองนี้
คอนโดที่ไม่ได้เป็นเพียงที่พักทั่วไป แต่เป็นอาณาจักรส่วนตัวของอัคณี เพื่อนสนิทของชายผู้ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงนี้ด้วย
ร่างใหญ่ในชุดสูทเข้ารูปยืนพิงราวระเบียงอย่างไม่แยแสต่อความสูงเบื้องล่าง สายตาคมดุกวาดมองทั่วเส้นขอบฟ้ายามค่ำคืน เมืองที่เขาไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะเมืองนี้ใหม่สำหรับเขา แต่เพราะเขาจากมันไปนานจนแทบลืมว่าเคยเป็นบ้าน
ตั้งแต่มุ่งหน้าไปปักหลักที่อังกฤษ เขาก็แทบไม่ได้กลับเมืองไทยอีกเลย จนตอนนี้ถนนหลายสาย โรงแรมสูงระฟ้า ห้าง หลอดไฟบนตึก ทุกอย่างดูแปลกตาไปหมด
เขาสูดควันบุหรี่เข้าปอดลึก ก่อนค่อยๆปล่อยออกมาอีกครั้ง
ฟู้~~
“ประเทศไทย เจริญขึ้นเยอะจริงๆ”
เขาพึมพำเบาๆ หางคิ้วกระตุกนิดๆ พลางมองเมืองด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
แสงไฟระยิบระยับเบื้องล่างสะท้อนเข้าดวงตาเขา ดวงตาของคนที่เคยครองทั้งความมืดและแสงไฟในต่างแดน คนที่ใครต่อใครได้ยินชื่อแล้วต้องผวา และคืนนี้เขากลับมาอยู่บนแผ่นดินที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของเขาอีกครั้ง ในฐานะชายหนุ่มที่มีอิทธิพล ที่ในวงการมาเฟียต่างก็รู้จักกันดีเลยทีเดียว
ก๊อก… ก๊อก… ก๊อก…
เสียงเคาะประตูดังแผ่วในความเงียบของห้องขนาดใหญ่ชั้นสูงสุด ริมฝีปากหยักของราชันย์ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นอย่างเชื่องช้า ทั้งที่สายตาคมยังคงทอดมองแสงไฟ ระยิบระยับของเมืองเบื้องล่างด้วยท่าทีเรียบนิ่ง ราวกับกำลังเฝ้ามองดินแดนที่เขาจะกลับมาครอบครองอีกครั้ง
“เร็วดีนิ หึ!”
ราชันย์พึมพำเสียงต่ำ ขณะรอยยิ้มทรงอำนาจบนใบหน้าคมคายยังคงไม่จางหาย
ในใจเขานึกพอใจลูกน้องคนสนิทของเขา รพีไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลยจริงๆ สั่งอะไรก็ได้ดั่งใจไปหมด อยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็หาให้ทันที รวดเร็วเหมือนเสกขึ้นมาวางตรงหน้า
เขาสูดควันบุหรี่ครั้งสุดท้ายเข้าปอดลึกๆ ก่อนเป่าออกช้าๆ
ฟู้~~
แล้วโยนก้นบุหรี่ลงในถังทิ้งข้างระเบียง อย่างไม่สนใจว่ามันจะดับหรือไม่
จากนั้นเขาก็ก้าวกลับเข้ามาในห้อง จังหวะเดินของเขานิ่งเรียบ หนักแน่น และทรงอำนาจ เหมือนเสือกำลังจะไล่ต้อนเหยื่อ
สายตาคมกริบจ้องมองไปที่ประตูห้อง ความคาดหวังลุกวาบขึ้นในดวงตาที่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง เขาไม่รอให้เสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้งด้วยซ้ำ มือใหญ่ยกขึ้นจับลูกบิด แล้วหมุนเปิดประตูออกอย่างทันที
พึ่บ~
และสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้า คือเด็กสาวใบหน้าหวาน ผิวเนียนละเอียดแบบไทยแท้ ชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับแขนขึ้นมาแบบลวกๆ พร้อมกับกระโปรงสั้นเสมอเข่าเรียบร้อย ยืนกอดกระเป๋าของเขาอยู่ในมือ ดวงตากลมโตสวยมองเขาอย่างตกใจปนเกรงใจ
ทำเอาหัวใจเขากระตุกวูบโดยไร้เหตุผล คนตัวโตอดคิดไม่ได้ว่าหล่อนดูสวยจริงๆ สวยแบบสาวไทยแท้ๆ ตามแบบฉบับที่เขาต้องการเลยทีเดียว