ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก...
ครั้งนี้รมิตาออกแรงเคาะให้ดังกว่าเดิม เธอตั้งใจว่า ถ้าเขาไม่ตาย เขาต้องเปิดออกมาแน่ๆ หญิงสาวหันไปมองห้องชุดข้าง ๆ เพราะกลัวทำเสียงดังรบกวนคนอื่น แต่ก็ไม่มีใครเปิดออกมาดู
“พี่ติณคะ พี่ติณ เปิดประตูหน่อย นี่มีนเองค่ะ” เธอเรียกเขาด้วยภาษาไทย
‘วันนี้เป็นวันหยุดไม่ใช่หรือ พี่ติณต้องอยู่ข้างในนี่สิ’ รู้สึกเป็นห่วงเขาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
อารมณ์แปรปรวนเหลือเกิน รักมันทุกข์แบบนี้ ยิ่งตอนที่ถูกเมินเฉยจากคนที่เรารัก รมิตาน้ำตาคลอแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
แต่เธอก็ต้องชะงัก เมื่อบานประตูถูกเปิดออก มีเสียงปลดล๊อคจากด้านใน รมิตายืดอกและเผยยิ้มอย่างโล่งอก เขาตื่นแล้ว และได้ยินเสียงเธอ
ทว่า... เมื่อเธอเห็นใบหน้าของหญิงสาวแปลกหน้ามาเปิดประตูห้องแฟนหนุ่มของเธอ รมิตาถึงกับชะงักและนิ่งงัน
ผู้หญิงคนนั้นมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวห่อกาย หน้าตาของเธอยังคงเคลือบเครื่องสำอาง อีกทั้งคราบมาสคาร่ารอยดำเลอะอยู่ที่เปลือกตา และรอยลิปสติกสีแดงฉาบไปทั้งกลีบปากนั้นเลอะออกมาด้านนอก เหมือนถูกบดละเลงด้วยริมฝีปากของใครบางคน
หัวใจของรมิตาเต้นแรง ภาพที่เห็นตรงหน้ามันสื่อทุกอย่าง ฟ้องเรื่องราวที่เธอคลางแคลงใจ
ผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นยังคงอยู่ในอาการงัวเงีย และอ่อนแรง
“คุณมาหาใคร” น้ำเสียงไม่เป็นมิตร ออกอาการง่วงหาว อยากจะกลับเข้าไปนอนต่อเต็มแก่ มือหนึ่งค้างที่ประตู อีกมือจับปมผ้าเช็ดตัวที่ขมวดเอาไว้หลวม ๆ คงกลัวผ้าห่อกายหลุดลงไปกองที่พื้น
รมิตาใช้มือของเธอผลักบานประตูเข้าไปและมองผ่านเข้าไปที่เตียงของติณภพ ภาพที่เห็นได้จากตรงนี้ชัดเจน มือของเธอกำแน่น หัวใจเต้นเร็วแทบทะลุออกมานอกอกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รมิตาได้แต่ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่คิด
พลันสายตามองทะลุข้ามผ่านผู้หญิงคนนั้นเข้าไป พร้อมดวงใจที่แตกสลาย เธอเห็นติณภพเปลือยกายนอนอยู่บนเตียง มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนบางห่มคาดอยู่ตรงกลางลำตัวเท่านั้น
‘ทำไม? ทำไมเขาทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง เขาเห็นฉันเป็นตัวอะไรกันแน่’ สิ่งที่รมิตาฟูมฟายอยู่ในใจ ยืนนิ่งค้าง น้ำตาที่สุดจะกลั้นแทบไหลบ่า ทว่ารมิตากลั้นเอาไว้
‘เขาคงคิดอยากจะทำแบบนี้มานานแล้วสินะ หรือว่า เขาทำมาตลอด เขานอกใจฉัน ทั้งๆ ที่เขามีฉันอยู่ทั้งคน ทำไม? ทำไม? ทำไม? ...ได้! ได้เลย! ถ้าต้องการแบบนี้ เขาอยากทำอะไร ฉันก็คงต้องปล่อยให้เขาทำ ทำไปเลย ฮึ..