บทนำ EP.3

1058 Words
“ทะเลาะกับเพื่อนแล้วไปชกต้นมะม่วงมาอีกใช่ไหม ดูสิ! คราวนี้ถึงกับเลือดตกยางออก ทำไมถึงไม่ยอมเชื่อฟังที่แม่พูดบ้างล่ะ นุชเป็นผู้หญิงนะลูก ไม่ใช่เด็กผู้ชาย จะได้เที่ยวไปทะเลาะกับเขาไปทั่ว” คนเป็นแม่บ่นน้ำเสียงเอือมระอา “แม่ ค่อยๆ หน่อยสิจ๊ะ นุชเจ็บและก็คันด้วย” เสียงเด็กหญิงบุษบามินตราโอดครวญแล้วต่อด้วยการสูดปากดังลั่น เมื่อถูกผู้เป็นแม่ป้ายยาลงบนแผล ขณะที่มือก็ยกขึ้นเกาตามแขนขามิได้ขาด จนนางนวลปรางต้องหยิบยาหม่องส่งให้ “เจ็บซะบ้างก็ดี จะได้รู้จักจำ” อารยาบ่นพึมพำเบาๆ ราวกับบอกตัวเอง ขณะทายาหม่องที่ตุ่มแดงๆ ตามแขนขาของลูกสาวไปด้วย ก่อนจะดึงร่างอ้วนนั้นเข้ามากอดแนบอก “นุชเอ๊ย ไม่รู้จักเข็ดเลยหรือไง ยายไม่เข้าใจเลยว่าจะไปชกต้นมะม่วงทำไมนักหนา รู้ทั้งรู้ว่าตามต้นมันมีมดแดง ชกแล้วก็เจ็บมือแถมยังคันอีกต่างหาก” คนเป็นยายพูดพลางส่ายหน้าแล้วมองหลานสาวอย่างสงสารระคนขบขัน ถูกครูตีไม่เคยร้องไห้สักแอะ แต่กลับมาร้องโอดครวญเพราะถูกมดแดงกัด ก่อนจะหันไปไล่เบี้ยถามกับเด็กหญิงที่ตนเองขอมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กด้วย น้ำเสียงปรานี “ไหนเล่าให้ยายฟังสิน้ำ ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง” เจ้าของดวงตาคู่โตแฝงแววเศร้าสร้อยอยู่เป็นนิตย์ จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องเรียนให้ผู้เป็นยายฟังโดยละเอียด เมื่อนางนวลปรางได้ฟังก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ยายเคยบอกไว้ไม่ใช่หรือว่า ใครว่าอะไรก็ให้ทำหูทวนลมซะ อย่าไปสนใจฟัง แล้วชกต้นมะม่วงมันหายแค้นหรือไง ก็เปล่า แถมเจ็บมืออีกต่างหาก” “นุชก็คิดเอาว่าต้นมะม่วงเป็นหน้าไอ้สุนทรไงจ๊ะยาย” เด็กหญิงผิวคล้ำตอบ จึงถูกผู้เป็นแม่ตีเผียะเข้าที่แขน “พูดไอ้ไม่เพราะเลยนะลูก” “ก็มันนิสัยไม่ดีนี่จ๊ะแม่ มาเรียกนุชว่าลูกไม่มีพ่อทำไมเล่า” ประโยคสุดท้ายเจือเสียงสะอื้นไห้ ดวงตาดำขลับคลอคลองไปด้วยหยาดน้ำตา อารยาหันไปสบตากับมารดาพลางยกแขนโอบกอดลูกสาวแนบอกอีกครั้ง นัยน์ตาคล้ายกันฉายแววเจ็บปวดขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว ขณะกำลังจะพูดจาปลอบประโลมเหมือนทุกครั้ง ก็ต้องนิ่งอึ้งอย่างคาดไม่ถึงเมื่อได้ยินร่างในอ้อมแขนเงยหน้าขึ้นถาม “แล้วทำไมนุชถึงไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นล่ะจ๊ะแม่” “แม่...เอ่อ...” อารยาอึกอักไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เพราะนับเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่ลูกสาวถามเช่นนี้ ซึ่งตัวเธอเองไม่ได้ตระเตรียมคำตอบนี้ไว้เสียด้วย ขณะกำลังนึกหาถ้อยคำจะตอบอยู่นั้น เสียงสะอื้นฮักของเด็กหญิงอรุณรัศมีก็ดังแทรกขึ้นในกลางคัน ดึงดูดความสนใจของลูกสาวไปจากเธอทันที “น้ำถูกล้อว่าเป็นเด็กเก็บมาจากถังขยะด้วยนะจ๊ะยาย” เด็กหญิงอรุณรัศมีพูดพลางสะอื้นจนตัวโยน ดวงตาคู่โตฉายแววเจ็บช้ำ จนนางนวลปรางต้องดึงร่างสั่นเทามากอดอย่างสงสาร น้ำตาของเด็กหญิงบุษบามินตราเหือดแห้งหายไปในทันที กระทั่งลืมทวงคำตอบจากผู้เป็นแม่ จากนั้นก็รีบหันมาพูดปลอบโยนคู่หูด้วยท่าทางเป็นเดือดเป็นแค้นแทน “ไม่ต้องร้องไห้นะน้ำ คราวหน้าถ้ามันพูดล้ออีกนะ นุชจะต่อยมันให้ฟันหักหมดปากเลยคอยดู” นางนวลปรางส่งสายตาดุๆ ปรามหลานสาว แล้วก้มลงพูดกับร่างในอ้อมแขนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ต่อไปใครพูดอะไรก็ไม่ต้องไปฟังนะลูก น้ำไม่ใช่เด็กเก็บมาจากไหนทั้งสิ้น น้ำเป็นหลานยายเหมือนกับนุช คนปากเสียก็ชอบพูดพล่อยๆ กันเรื่อยเปื่อย” เด็กหญิงยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อได้ฟังคำพูดปลอบประโลม นางนวลปรางยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กๆ อย่างรักใคร่ แล้วก็หวนนึกถึงวันที่พบเด็กคนนี้ครั้งแรกขึ้นมาในทันใด หกปีก่อน ที่บ้านแสงตะวัน จังหวัดชลบุรี... “สวัสดีค่ะคุณน้า วันนี้มาธุระแถวนี้หรือคะ” เสียงจากเจ้าหน้าที่ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีเอ่ยทักนางนวลปราง ซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่คนหนึ่งที่คอยบริจาคเงินช่วยเหลือบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้อย่างสม่ำเสมอ “พอดีแวะมาเยี่ยมลูกชายที่สัตหีบ เลยแวะซื้อของมาให้เด็กๆ” นางพูดพร้อมกับส่งข้าวของในมือที่หาซื้อมาส่งให้ “ขอบคุณมากค่ะ” เจ้าหน้าที่สาวเอ่ยขอบคุณ ขณะกำลังจะชวนอีกฝ่ายคุยก็ต้องชะงัก เพราะเสียงร้องไห้จ้าที่ดังมาจากเด็กผู้หญิงวัยประมาณหนึ่งขวบหน้าตาน่ารักน่าชังคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในอ้อมแขนของหญิงสาวที่ดวงหน้ากำลังฉายแววกลัดกลุ้ม “พี่อี๊ดคะ แต๋วไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ ร้องไห้ไม่หยุดแบบนี้” “ส่งมาให้น้าลองอุ้มหน่อยสิ” นางนวลปรางเดินเข้าไปหาและอ้าแขนออก และช่างน่าประหลาดนัก เด็กหญิงที่กำลังส่งเสียงร้องไห้โยเยโผเข้าสู่อ้อมกอดและหยุดร้องโดยพลัน ทั้งยังส่งยิ้มแป้นแล้นให้ “เด็กมาอยู่ใหม่หรือจ๊ะ” “ค่ะคุณน้า น่าสงสาร หน้าตาผิวพรรณก็ดี แม่เอามาทิ้งไว้ ใจร้ายจริงๆ เด็กคงกำลังติดแม่จึงร้องไห้โยเย” หญิงสาวที่ชื่อแต๋วซึ่งเป็นคนอุ้มแต่แรกบอก “ใครนะช่างใจร้ายแบบนี้ น่าตาน่ารักน่าเอ็นดูเชียว” นางนวลปรางมองใบหน้าเล็กๆ นั้นด้วยความสงสาร เด็กหญิงแม้จะหยุดร้องไห้แต่ยังคงมีเสียงสะอื้นออกมาเป็นพักๆ มิหนำซ้ำยังซบหน้าเล็กๆ ลงกับไหล่ของนางราวกับฝากเนื้อฝากตัว ทำให้หญิงวัยกลางคนรู้สึกสงสาร บังเกิดความรักและเอ็นดูขึ้นมาอย่างประหลาด ดูอายุแล้วน่าจะไล่เลี่ยกับหลานสาวของนาง จึงเอ่ยปากกับเจ้าหน้าที่ “ถ้าน้าจะรับเลี้ยงเด็กคนนี้ต้องทำยังไงบ้าง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD