“อุไร ตราบใดที่ลูกตื่นขึ้นมา แม่จะไม่ยอมให้ลูกแต่งงานกับเขา...”
อุไร ลูกจะทิ้งแม่ไว้ไม่ได้นะ!
หญิงร้องไห้สะอึกสะอื้น เฝ้าอุไรพรที่หัวร้างข้างแตกที่นอนอยู่บนเตียง
วินาทีต่อมา ใบหน้าที่ไร้ชีวิตชีวาก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ฉันเอง ไม่ใช่ว่าตายไปแล้วหรอกเหรอ?
ความทรงจําแวบนึงหลั่งไหลเข้ามาในสมองเธออย่างรุนแรง เธอเปิดตาอย่างรุนแรงและรูม่านตาของเธอก็หดตัวอย่างกะทันหัน
ฉันตายแล้วฝืนงั้นเหรอ หรือทะลุมิติข้ามเวลาแล้ว!?
เดิมทีเธอเป็นนักฆ่าระดับ SSS ซึ่งเธอได้รับการว่าจ้างจากประธานาธิบดีของประเทศเล็ก ๆ หนึ่งในราคาที่สูงเสียดฟ้า แต่สุดท้ายธอปกป้องประธานาธิบดีคนนั้นไว้ได้แต่กลับถูกผู้ช่วยของประธานาธิบดียิงพลาดแล้วตายสะงั้น
นักฆ่ารุ่นแรก ตายจากการที่พวกตัวเองยิงพลาด
อุไรพรอัดอั้นตันใจมาก!
หรือว่าเทพยดาเองก็ทนดูต่อไปไม่ได้ ถึงให้เธอมาเกิดใหม่เป็นสาวชาวนาในสมัยโบราณผู้ที่มีชื่อและนามสกุลเดียวกันกับฉันให้ฉันได้มีชีวิตอีกครั้งในภพใหม่
เพียงแต่สาวชาวนาคนนี้ เธอน่าสังเวชมาก
ในบ้านนอกจากมีแค่แม่แล้ว แม่ก็ยังเอาแต่ด่าทอทุบตีเธออีก และทุกวันนี้ยิ่งบังคับให้เธอแต่งงานกับคนป่วยที่เท้าครึ่งนึงได้ก้าวลงโลงศพไปแล้ว
เจ้าของร่างเดิมทีไม่ยอม ก็บีบคั้นว่าจะเอาหัวทิ่มตายทันทีเลย
อุไรพรถอนหายใจกับชะตากรรมของเจ้าของเดิมและวางแผนที่จะแก้แค้นให้เขา แต่เสียงเบา ๆ ก็ดังขึ้นในหูของเธอ
[ระบบอยู่ระหว่างเปิดใช้งาน -]
[ลงนาม ระบบเปิดใช้งานสำเร็จ! โฮสต์โปรดเลือกว่าจะลงนามหรือไม่]
อุไรพรงงงวยไปสองวินาทีและตระหนักได้ว่านี่มันอาจจะเป็นนิ้วทองคําที่ให้เป็นของแถมเหมือนในนวนิยายแนวทะลุมิติข้ามเวลา!
เธอเลือกตกลงอย่างเด็ดขาด
[ลงนามสำเร็จ! รับไอเทม:ของขวัญโฉมงาม, เปิดแบบสุ่มเพื่อรับยาความงามวิเศษ, ยาเสริมความงามวิเศษ, หนึ่งในยาแก้พิษ, หากว่าต้องการรับรางวัลสองเท่า สามารถเลือกเริ่มทำภารกิจ]
อันนี้คือวันละครั้ง ถ้าไม่เลือกสองเท่า งั้นก็ขาดทุนไม่ใช่หรือ?
[การเลือกสำเร็จ! กำลังเปิดรับภารกิจ ... ]
[ภารกิจ: ความปรารถนาสุดท้ายของเจ้าของเดิมอันที่หนึ่ง ต่อยตีพ่อเลี้ยงพลศักดิ์]
เอ๊ะ?
ภารกิจนี้มันช่างเหี้ยมหาญ ดุร้ายขนาดนี้เหรอ!
แต่หากตามคํานําหน้านี้ มันก็เป็นความปรารถนาของเจ้าของเดิม
[ก่อนเวลา 12.00 น. คืนนี้ หากภารกิจไม่เสร็จสมบูรณ์ ภารกิจการลงนามจะเป็นโมฆะทั้งหมด]
ภารกิจนี้คือต้องคว้าโอกาสไว้ ส็เพื่อเปลี่ยนจักรยานเป็นมอเตอร์ไซค์ ถ้าภารกิจไม่สำเร็จก็จะไม่ได้อะไรเลย
แต่ภารกิจนี้ สําหรับเธอแล้ว ยังเหลือเฟือมาก
น้ำ...
อุไรพรกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง เนื่องจากเลือดออกมากเกินไป คอของเธอแห้งมาก
เสียงนี้ทําให้ดุจเดือนเงยหน้าขึ้นทันทีและกระโจนเข้ามา "อุไร ลูก อุไร! หนูรอดมาได้แล้ว!
แม่จ๋า ขอน้ำให้หนูหน่อย...
ได้ ๆ ลูก แม่ไปเอามาให้!
น้ำใสยะเยือกไหลเข้าไปในลําคอ อุไรพรถึงรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา
อุไร หนูฟังที่ฉันพูดนะ ฉันคิดดีแล้ว คืนนี้ฉันเก็บของให้หนู หนูหนีไปในคืนนี้เลย!
หนี? คุณยังอยากให้เธอหนีอีก นางผู้หญิงเลวนี่ ทําไมแกถึงไม่เอาหัวชนตายไปเลยล่ะ กูเลี้ยงคนอกตัญญูที่ขาดทุนตัวนี้ ตอนนี้มันยังกล้ามาขู่ว่าจะไปตาย ๆ กับกูอีก!
กลิ่นสุราทั่วตัวหนึ่งพังประตูเข้ามา นั่นคือพ่อเลี้ยงของเจ้าของเดิม พลศักดิ์
ดุจเดือนก้าวไปข้างหน้า ร้องไห้แล้วพูดว่า “อุไรเกือบจะไม่ไหวแล้ว คุณก็ทำทำบุญเถอะ นี่แต่เดิมมันก็ไม่ใช่งานแต่งงานของอุไรอยู่แล้ว คุณจะให้เธอไปแต่งงานได้ยังไงล่ะ!”
พลศักดิ์ตบหน้าดุจเดือนไปหนึ่งทีแล้วด่าทอขึ้นว่า “ คนอกตัญญูนี่ไม่แต่ง แล้วจะให้ลูกสาวของฉันไปแต่งงั้นเหรอ?”
ดุจเดือนเองก็เป็นเมียน้อย พอเข้ามา เมียคนแรกของพลศักดิ์ก็ทิ้งลูกสาวคนหนึ่งไว้ให้แล้ว
การจับแต่งงานระหว่างตระกูลจิรพิทยาวงษ์และตระกูลสุพรรณศิลป์นั้นเดิมทีก็ถูกกําหนดโดยคนรุ่นก่อนแล้ว ตอนนี้ลูกชายของตระกูลจิรพิทยาวงษ์จะตายมิตายแหล่ ตระกูลสุพรรณศิลป์ไม่มีใครยอมแต่งงานด้วย ก็เลยมุ่งเป้ามาที่เจ้าของร่างที่เป็นลูกเลี้ยงซึ่งไม่มีสายเลือดตระกูลสุพรรณศิลป์คนนี้
“ถึงกูจะฆ่ามึงกับลูกสาวทั้งสองคนให้ตาย ยังไงก็ต้องแต่งงานกับตระกูลจิรพิทยาวงษ์!”
เสียงโกรธของผู้ชายผสมกับกลิ่นเหม็นของเหล้า ทําให้รู้สึกคลื่นไส้เอามาก
ครึ่งหนึ่งของใบหน้าดุจเดือนก็เริ่มบวม แม้ว่าเธอจะกลัว แต่เธอก็ยังปกป้องอุไรพรและพูดว่า “ได้โปรดเถอะค่ะ ปล่อยแม่ลูกเราสองไปเถอะ อุไรไม่อยากแต่งงาน...”
คําพูดยังไม่ทันจบ พลศักดิ์ก็ตบแรง ๆ ไปอีกที ร่างกายที่บางเฉียบของดุจเดือนถูกพลิกคว่ำไปอีกด้านหนึ่งเลยทันที
พลศักดิ์ยังคงรู้สึกไม่โล่ง เขาเตะลงไปอย่างแรง ทําให้ดุจเดือนอาเจียนออกมาเป็นเลือดอย่างรุนแรง
ถึงกระนั้น พลศักดิ์ก็ยังคงไม่มีความเห็นใจแม้แต่น้อย ด่าไปตีไป ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษพลางพูดว่า “อีนางตัวดี พวกเหลือขอ ยังกล้ามาเถียงอีก แกมันนับประสาอะไรวะ!”
อุไรพรซึ่งเดิมทีเสียเลือดไปมากเกินและยังไม่ทันได้สติก็รู้สึกตัวขึ้นมาทันที
ไอ้ผู้ชายหัวรุนแรงที่ไร้จิตสำนึก!
เธอหยิบแผ่นรองรองเท้าบนพื้นขึ้นมาและขว้างตรงไปที่ท้ายทอยของพลศักดิ์
“ไปตายซะ ไอ้เวร!”
ที่รองรองเท้าขว้างออกไปพร้อมกับลมพายุที่พัดกระหน่ำ ตบพลศักดิ์จนเดินโซซัดโซเซ
“ใคร ใครมันกล้ามาตบกู!”
พลศักดิ์หยุดตบต่อยแล้วหมุนโซเซหันมา
อุไรพรได้ลุกลงจากเตียงแล้ว เธอตะโกนด้วยความโกรธว่า “กูเอง ไอ้แม่งเอ้ย!”
ในมือเธอ เธอได้พบอาวุธที่มีประโยชน์กว่าแล้ว สลักประตูอันหนึ่ง
แม้ว่าจะสั้นไปหน่อย แต่ดีตรงที่มันค่อนข้างแข็งแรง พอที่จะสั่งสอนไอ้ขยะแบบนี้ได้
“อุไรพร นางเศษสวะ แก...”
ไม้อันหนึ่งตีตรงไปที่ประตู เจ็บจนเขายแสยะยิ้มด้วยความเจ็บปวด
“หญิงสารเลว!”
เขาเอื้อมมือมาจับอุไรพร ไม่รู้ว่าเพราะดื่มเหล้ามากเกินไปหรือเปล่า อุไรพรที่อยู่ตรงหน้ามีความคล่องแคล่วมาก
เธอแวบมาข้างหลังตัวเองเหมือนผี แล้วตามหลังมาอย่างใกล้ชิดก็เป็นไม้อีกอันหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นแขน เอว ต้นขา หรือแม้แต่เท้า
เขาโกรธมากจนกัดฟันแน่น แต่ไอ้ไม้นั่นเหมือนเป็นงูในน้ำสะอย่างนั้น ฟาดเขาเข้าไปอย่างแรง
“ดุจเดือน อีเศษสวะ ยังนิ่งทําอะไรอยู่ว่ะ ให้อีนางตัวดีนี่ขี่หัวฉัน กูแม่งจะเอาชีวิตมึง!
วินาทีต่อมา พลศักดิ์มีสีหน้าที่ดุร้าย เขาใบหน้าแดงก่ำ ร่างกายส่วนล่างปวดแน่นจนเขาเกือบสูญเสียเสียงไป
อุไรพรหัวเราะอย่างเย็นชาพลางพูดว่า “ฉันเศษสวะงั้นเหรอ งั้นแกมันมีค่าเท่าไหร่กันเชียววะ เอาแกไปขายในตลาดหมูดําก็เกรงว่าจะถูกคนอื่นเขาขับไล่ออกมาล่ะมั้ง กลัวว่าจะไปทําให้สถานที่ของคนอื่นเขาสกปรก!”
อุไรพรเตะเข้าที่หัวเข่าของพลศักดิ์ พลศักดิ์ที่โค้งงอด้วยความเจ็บปวดอยู่แล้ว เขาก็ล้มลงไปเลย
“อยากเอาชีวิตเธอ ก็ไม่ดูเลยนะว่าตัวเองน่ะมันมีปัญญาหรือเปล่า!”
เธอใช้มือควงแขนขึ้นมาปั๊มลงไปอย่างรวดเร็ว มือที่ตบไปอย่างรวดเร็ว ทําให้ใบหน้าของพลศักดิ์บวมเป็นหัวหมูทันที
พลศักดิ์ร้องครวญคราง กรีดร้องอย่างอนาถ
สัตว์เดรัจฉานแบบนี้ ตายไปก็เท่านั้น!
อุไรพรมองด้วยสายตาดุร้าย เธอยกแท่งไม้ขึ้น พร้อมที่จะโจมตีให้ตายในทีเดียว
“อุไร ไม่ได้ลูก!” ดุจเดือนกระโจนเข้ามา
อุไรพรพูดอย่างมีน้ำโหว่า “มันตีคุณ หรือว่าคุณยังจะตามเขาอีก หรือว่าคุณยังจะขอร้องเขาแล้วถูกเขาตีต่อไปงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ แม่แค่ไม่อยากให้มือคุณเปลื้อนเลือด แม่รู้ว่าลูกโกรธ แต่ถ้าเขาตายแล้ว อุไร ลูกจะทําอย่างไรล่ะ!”
อุไรพรพึ่งรู้ตัว
เออใช่ ตัวเองไม่ใช่นักฆ่าที่รับเงินแล้วทำภารกิจ ที่จะมีคนคอยเช็ดก้นให้เธอแล้วเคลียร์เรื่องที่ตามหลังให้
ถ้าตัวเองยังอยากใช้ชีวิตนี้ให้ดีต่อไป เป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มต้นโดยการเคยฆ่าคนไปแล้วหนึ่งคน
ไอ้เวรแบบนี้ มีวิธีทรมานมันเป็นร้อยวิธี แต่เพื่อไอ้ผู้ชายเฮงซวยแบบนี้ แล้วเดินบนเส้นทางที่ตัวเองยากจะหันหลังกลับ มันน่าเสียดายจริง ๆ
อุไรพรปล่อยมือและเตะพลศักดไปหนึ่งที เธอมองไปที่ดุจเดือนแล้วพูดว่า “แม่ หนูไม่ต่อยแล้ว หนูแค่เห็นมันตบตีแม่แล้วหนูโมโห”
“อุไรลูก ชาตินี้ฉันก็เป็นแบบนี้แหละ อย่างอื่นก็ไม่เรียกร้องอะไรแล้ว ขอแค่ให้ลูกสบายดี” ดุจเดือนร้องไห้แล้วพูดขึ้น
“แม่อายุแค่สามสิบสี่ปีเอง!” อุไรพรจับมือดุจเดือนไว้แน่น “ชีวิตนี้ยังอีกยาวไกล ตอนนี้แม่ยอมหย่าโดยดี วันดี ๆ ยังมีอยู่ข้างหน้าแหนะ!”