ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสมหวัง..แม้แต่คนที่หล่อเพอร์เฟคอย่างเขาก็ตาม ต่อให้บ้านรวยหล่อเท่แค่ไหนสุดท้ายก็เป็นได้แค่..พี่ชาย คำคำนี้มันเจ็บจี๊ดเหมือนถูกเข็มแทงลงกลางใจต่อให้เลิกเจ้าชู้เปลี่ยนตัวเองเป็นคนดีแค่ไหนก็เป็นได้แค่พี่ชาย!!ก็กลับมาเป็นตัวเองสิครับ แต่มันไม่เจ็บเท่ากับคนที่เป็นสามีของเธอคือเพื่อนสนิท จะให้เขาทำยังไงนอกจากยินดี ยอมรับกับชะตากรรมอำมหิต ถ้าไม่อำมหิตจริงคงไม่ลิขิตมาแบบนี้ แต่เรื่องทั้งหมดก็ผ่านมาหลายปีจนตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่รู้สึกมีความสุขกับชีวิตครอบครัวของเพื่อนกับน้องสาวที่เขารัก ทุกคนแฮปปี้เขาก็แฮปปี้...
หลังจากที่ผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ก็คิดว่าทุกอย่างจะดีแต่ชะตากรรมอำมหิตก็ยังไม่ให้เขาได้สมหวัง มันจะอะไรกันนักหนา คงเพราะเคราะห์กรรมที่เคยทำเอาไว้กับผู้หญิงหลายคน ความหล่อเป็นเหตุสังเกตได้ พอเจอคนที่ถูกใจ อยากจริงจังถึงไม่สมหวังสักที ส่วนชีวิตปัจจุบันของเขาตอนนี้นะหรือ ได้อยู่กับเมีย..ที่ไม่ได้เลือก!!!
คนที่เขาเลือกอยากจะแต่งงานด้วยไม่ใช่คนนี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นกรรมหรือบาปบุญนำพา เขาถึงได้แต่งกับเมียที่ไม่ได้เลือก แต่จะโทษใครได้อาจเป็นเพราะความใจร้อนอยากได้เมียของเขา ที่ให้พ่อรีบร้อนไปขอแต่งให้แต่ดันมีเรื่องให้เข้าใจผิด คนที่เขาอยากจะแต่งงานด้วยไม่ใช่คนนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับชะตากรรมอำมหิตที่ทำให้เขาต้องมาอยู่กับเมียที่ไม่ได้เลือกแต่เธอก็ไม่ได้แย่ เธอแสนดีทุกอย่างแต่คนอย่างเขามันไม่รักดี มันรักคนอื่น..ที่ไม่ใช่เธอ แต่ก็ยอมรับว่าเมียคนนี้แซ่บติดใจ!!! แต่ก็ยังไม่ใช่สเปกไม่ใช่คนที่เขาเลือก เดี๋ยวค่อยหาเรื่องหย่าแต่ก็กลัวว่าเธอจะมากอดขาอ้อนวอนไม่ยอม...
ห้องนอนใหญ่ชั้นบน
ร่างสมส่วนของช่อฟ้าวุ่นวนอยู่กับการพับเสื้อผ้าเข้าตู้ ทุกการกระทำของเธอประณีตยิ่งกว่ากุลสตรียุคกรุงศรีอยุธยา ใบหน้าสวยหวานในแบบฉบับหญิงไทยแท้หันไปยิ้มพูดคุยกับสามีด้วยคำพูดไพเราะเสนาะหู
"วันนี้คุณพี่ขุนจะเข้าไปช่วยงานเตี่ยเทพที่โรงสีหรือไม่คะ" ที่เธอต้องถามเพราะจะได้จัดเลือกเสื้อผ้าให้สามีถูก..บางวันเขาก็ไปประชุมบางวันก็เข้าโรงสีช่วยงานเตี่ย
"วันนี้พี่จะไปทำธุระข้างนอก แล้วก็หยุดใช้คำว่าคุณนำหน้าพี่สักที ได้ฟังทีไรนึกว่าอยู่ในยุคกรุงศรีอยุธยา" ปกติเขาไม่ใช่คนพูดเพราะใจเย็นแต่ก็ต้องปรับตัว ช่วงแรกๆ คือไม่ได้เลยเหมือนอยู่คนละยุคคุยกันคนละภาษา
"แล้วคุณพี่ขุน เอ่อแล้วคุณจะให้ช่อพูดว่าอะไรหรือคะ" เธอถูกคุณย่าเลี้ยงมาอย่างกุลสตรีมีมารยาท เนื่องจากคุณย่าของเธอเคยทำงานในวังและเป็นตระกูลผู้ดีเก่า..
"ก็เรียกพี่ขุนเฉยๆ หรือไม่ก็เรียกเฮียขุนเหมือนที่น้ำหวานเรียกอะ" น้ำหวานคือน้องสาวแท้ๆ ของเขา ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปหาภรรยาเธอเลือกเสื้อเชิ้ตสีดำขึ้นมาให้เขาสวม ความจริงไม่ต้องเลือกเลยด้วยซ้ำเพราะเสื้อผ้าเขามีแต่สีดำ..ใส่สีดำสกปรกก็มองไม่เห็น
"งั้นช่อขอเรียกพี่ขุนก็แล้วกันค่ะ" เธอไม่ถนัดพูดคำว่าเฮีย รู้สึกไม่ค่อยเพราะและกลัวจะพูดเพี้ยนกลายเป็นคำหยาบคาย เป็นสัตว์เลื้อยคลานสี่เท้าหน้าตาน่ารักที่ใช้ด่ากันในปัจจุบัน
"ตามใจ..อยู่ที่นี่มาจะหนึ่งปีก็ปรับตัวได้แล้วนะ ไม่ต้องมีมารยาทมากก็ได้ พี่เป็นคนง่ายๆ ห่ามๆ ทำตัวให้เหมือนเวลาที่อยู่บนเตียงอะ พี่ชอบแบบนั้น" ชอบแบบแซ่บๆ แม่เสือสาวไม่ใช่ สาวเรียบร้อยที่พร้อมบวชชีทุกเมื่อ..
"ค่ะ ช่อจะพยายาม" ใช่ว่าคนเราจะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ เธอก็พยายามปรับตามที่สามีต้องการมาโดยตลอด นี่ก็ปรับมามากแล้วจริงๆ เมื่อก่อนเธอตกใจทุกการกระทำของทุกคนในบ้าน ยิ่งตอนที่เขาพูดหยอกล้อกับน้องสาวตัวเองด้วยคำพูดหยาบคายเธอยิ่งตกใจ กว่าจะยอมรับได้ก็ปรับตัวอยู่นาน เธอไม่คุ้นชินกับคำพูดหยาบคายแม้จะเป็นคำธรรมดาสำหรับทุกคน แต่ก็ใช่ว่าเธอจะฟังไม่ได้ เธอฟังได้แต่แค่ไม่อยากพูดคำเหล่านั้น..
"ดีมาก ค่อยๆ ปรับไปเดี๋ยวก็ชิน พี่น่าจะกลับบ้านช่วงเย็นนะ ถ้าเตี่ยถามก็ให้บอกว่าคุณพี่ขุน เฮ้ยไม่ใช่ พี่ขุนไปทำธุระในเมือง" ถูกเรียกคุณพี่ขุนบ่อยจนติดหู
"ได้ค่ะ" ร่างอรชรเดินเข้าไปช่วยสามีติดกระดุมเสื้อเสร็จแล้วก็ถอยหลังออกห่าง
"ลืมอะไรไปหรือเปล่า?" เลิกคิ้วมองเชิงถาม..
"ลืมอะไรเหรอคะ" คนไม่รู้ก็ทำหน้างุนงง แต่เมื่อสามีเดินเข้ามาสวมกอด เธอก็รับรู้ได้ทันที เธอลืมจูบเขาก่อนออกไปทำงาน แต่วันนี้เขาไม่ได้ไปทำงานเธอต้องจูบให้กำลังใจเขาด้วยงั้นหรือ แต่ก็ยิ้มหวานให้กำลังใจสามี
"จูบหวานๆ ก่อนออกไปทำงาน" ถ้าเรื่องนี้เขาไม่เคยพลาด เมื่อแต่งเข้ามาเสียเงินแล้ว ก็ต้องเก็บทุกเม็ดเอาให้คุ้มกับเงินที่จ่ายไป ค่าสินสอดไม่ใช่บาทสองบาท
"แต่วันนี้พี่ขุนไปทำธุระไม่ใช่เหรอคะ" ใบหน้าสวยยิ้มเขินอาย ไม่ชินเลยสักนิดแม้ว่าจะทำบ่อยครั้ง
"ไม่ว่าพี่จะออกไปทำอะไร เธอก็ต้องจูบ มันเป็นหน้าที่ของเมียรู้ไหม" เดี๋ยวนี้มีตั้งคำถามแย้ง..ขยับใบหน้าหล่อๆ เข้าไปชิดแก้มเนียนใสของภรรยา แต่เธอย่นคอหนีเขินอาย ตอนยังไม่กลายร่างเป็นแม่เสือสาวเธอก็ดูเขินอายไร้เดียงสาจนน่าฟัด
"จูบเร็วๆ พี่ต้องรีบไป" รีบแต่ก็ยังรอให้เมียจูบก่อนไป เรื่องอย่างนี้ยังให้ต้องเตือนอีกหรือเป็นเมียต้องรู้หน้าที่ การกระทำหลายๆ อย่างของเขาคล้ายกับคนติดเมียแต่ความจริงนั้นไม่ใช่ เขาแค่ชอบอยู่ติดบ้าน ไม่ได้ติดเมียเลยแม้แต่นิด!!..
"ค่ะ"
ใบหน้าสวยยิ้มหวานมองเข้าไปนัยน์ตาของสามี สะกดให้เขานิ่งงันจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นประกบจูบริมฝีปากหยักลึกของสามี เธอตั้งใจแค่จะจุ๊บแล้วผละใบหน้าออกแต่เขากลับไม่ยอม จับล็อกให้ใบหน้าเล็กของเธอแนบชิดกับริมฝีปากของเขาพร้อมกับมอบจูบดูดดื่มแทรกเรียวลิ้นอุ่นร้อนเข้ามาด้านในขยับปลายลิ้นหยอกเย้าไล่วนรอบๆ ลิ้นเล็กไปมาออกแรงดูดดึงเบา ๆ สลับกับจูบริมฝีปากนุ่มหยุ่นบนล่างจนเกิดเสียงดังของริมฝีปากที่กำลังเบียดชิดกัน ฝ่ามือปลาไหลไล่วนไปตามลำคอขาวเนียนแล้วจากนั้นก็เลื่อนลงนวดเฟ้นอกอวบอิ่มผ่านเสื้อยืดสีครีมตัวโปรด อุณหภูมิในร่างกายของทั้งคู่ร้อนรุ่มไปด้วยแรงปรารถนา
"อือ.." ริมฝีปากบางครางเสียงหวานพยายามยกมือเล็กขึ้นดันให้ใบหน้าของสามีผละออก เธอรับรู้ได้ถึงแรงปรารถนาบางอย่างจากตัวเขาความเร่าร้อนดูดดื่ม ถ้าเขายังจูบเธออยู่แบบนี้ มีหวังไม่ได้ไปไหนแน่ๆ ไหนเขาบอกว่ามีธุระต้องรีบไป