จะได้ไม่ต้องมีใครมาจีบ

1310 Words
ฉันปิดตามาทั้งวันตั้งแต่เมื่อคืน หมอบอกว่าเปิดได้ในกรณีที่จำเป็นอย่างเช่นการเดินไปเข้าห้องน้ำหรืออะไรก็ตามแต่ แล้ววันนี้ฉันก็ไม่ได้ไปเรียนแต่ให้คิมลาอาจารย์ให้แล้ว บอกเขาไปว่าไม่สบาย ซึ่งถ้าไปเรียนฉันก็คงต้องแสดงหลักฐานให้อาจารย์ดูอีกที ฉันเตรียมขอใบรับรองแพทย์และตั้งใจจะขนยา(หมายถึงยารักษาตาฉันน่ะ) ไปให้อาจารย์ดูให้หมด จะได้ไม่ต้องข้องใจอะไรกันอีก ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาในขณะที่ฉันกำลังนอนนิ่งอยู่บนเตียง ใครมาวะ ร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครมาเคาะ ฉันค่อย ๆ ลุกขึ้นแล้วเดินคลำทางเดินไปเปิดประตู "ไง เก่งนะมึงเนี่ย ไม่เปิดตาซะด้วย" เสียงไอ้คิมร้องแซว มันก็คงเห็นว่าฉันยังปิดตาอยู่ “ไม่อยากเปิด ๆ ปิด ๆ อยากหายเป็นปกติจะแย่แล้ว” ฉันลืมไปได้ยังไงนะว่าไอ้คิมมันจะมา นอกจากไอ้คิมชีวิตฉันก็ไม่มีใครแล้วนี่ ต้องขอบคุณมันแหละที่ยังคงกันมาเป็นเพื่อนจนถึงทุกวันนี้ (ฟังดูแย่จังวะ) “เดี๋ยวมันก็หายเองนั่นแหละน่า” "แต่กูอยากหายไว ๆ ไง แล้ว... ตะ... แต่มึงเข้ามาได้ยังไงเนี่ย" ฉันลืมไปเลยว่าหอฉันไม่ให้ผู้ชายเข้า แล้วนี่ไอ้คิมมันเข้ามาถึงตรงนี้ได้ยังไง อย่าบอกนะว่าปีนรั้วเข้ามา ตาย ๆ ๆ ฉันต้องตายแน่ ๆ ฮือ ถ้าเจ้าของหอโทรไปแจ้งที่บ้านนะไอ้คิม กูตายแน่เลย "คิมเบอรี่เองฮ่ะ" เสียงไอ้คิมทำฉันขนลุกไปหมด ประโยคนี้พร้อมกับเสียงดัดจริตของมันทำให้ฉันต้องยอมแกะผ้าที่ปิดตาอยู่ออกทันที ใช่แล้วมันแต่งหญิงมาจริง ๆ คิดดูสิ ผู้ชายหุ่นล่ำ ๆ ใส่เสื้อสีขาวทับด้วยเดรสลายดอกไม้ยาวถึงเข่ากับวิกผมสั้นสีน้ำตาลเข้มแปะอยู่บนหัวมัน เห็นแล้วขนลุกชะมัด "กูจะอ้วก" ฉันโวยขึ้นทันที เอาจริง ๆ มันตลกมากกว่านะ แต่ด้วยธรรมชาติของคนที่เป็นเพื่อนกันอะ มันต้องพ่นคำพูดที่ฟังดูแย่ ๆ ออกมาก่อน นึกออกป่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม "หยุดเลย หยุดหัวเราะเลยนะมึง ที่กูทำไปเนี่ยกูทำเพื่อใคร หนอย อย่ามาลืมบุญคุณกันนะ" มันเท้าเอวถามก่อนจะเดินเข้าไปในส่วนที่จัดไว้เป็นครัว จากนั้นก็แกะขนมกับพวกผลไม้ที่ขนมาให้ฉัน มันซื้อมาเยอะมากเหมือนจะให้ฉันกินได้เป็นอาทิตย์ เยอะจนตอนมันถือเข้ามาพะรุงพะรังไปหมด "มึงเอาวิกใครเขามาใส่" ฉันนั่งลงที่พื้นแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย มันคงไม่ลงทุนขนาดซื้อวิกมาใส่หรอก แล้วมันก็ไม่น่าจะมีวิกเก็บไว้อยู่แล้วด้วย "ยืมน้องมินอา สาวข้างห้องมา" ไอ้คิมตอบพร้อมกับวางจานผลไม้ลง นึกแล้วเชียว อย่างมันคงไม่ลงทุนขนาดนั้นหรอก "นึกว่าจะลงทุนซื้อ" ฉันพูดไปพลางหยิบผลไม้ในจานใส่ปาก ชีวิตมันนี่น้า มีแต่เรื่องผู้หญิงมาวุ่นวายเต็มไปหมด "กูก็แต่งแค่มาหามึงไหมล่ะครับ อะ... นี่สาลี่ ชอบไม่ใช่เหรอ แดกเยอะ ๆ จะได้หายเร็ว ๆ" มันวางจานผลไม้อีกจานลงบนโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้อง "สาลี่ไม่ใช่ยาไหมล่ะ” “ถ้าร่างกายอิ่ม มันก็จะฟื้นฟูตัวเองได้อย่างดีไง” เถียงไปเรื่อย “แล้วนี่ วันนี้มีงานอะไรไหม" ฉันถามไปพร้อมกับหยิบผลไม้ใส่ปากไป มีคนทั้งปอกทั้งหั่นให้นี่มันดีอย่างนี้นี่เอง "ไม่มี กูทำหมดแล้ว จะให้กูหอบกลับมาให้มึงทำอีกเหรอวะ" คิมนั่งลงตรงข้ามฉันก่อนจะตอบ อย่างมันเนี่ยน่ะเหรอ จะทำการบ้านให้ฉัน "กูถามถึงของกูสิ" "ก็เออไง กูทำให้มึงแล้ว เห็นแบบนี้กูก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำนะเว้ย ถึงจะหล่อมาก ๆ ก็เถอะ" คิมมันหยิบสาลี่ขึ้นมาชิ้นหนึ่งหลังจากตอบคำถามแล้ว จะไม่ให้แปลกใจได้ไงล่ะ ปกติแม้แต่งานมัน ฉันยังเป็นคนทำเลย นี่มันมาบอกว่ามันทำทั้งงานตัวเองแล้วก็งานฉันอีก ให้ตายเถอะ พายุไม่ถล่มก็ดีแค่ไหนแล้วล่ะ "อ่ะ อ้ามมมม" อะไรของมันอีกเนี่ยอยู่ดีๆ ก็ชูชิ้นผลไม้มาแทบจะทิ่มหน้าฉัน "เฮ้ย ไม่ต้อง กูแดกเองได้ เจ็บตาไม่ใช่พิการ" ฉันรีบปฏิเสธพร้อมกับเอื้อมมือไปหมายจะหยิบผลไม้จากมือมัน "ไม่เห็นมึงแดกสักที กูก็กลัวมันจะดำ" ไอ้ที่เคี้ยวอยู่นี่มันไม่เรียกว่ากินหรือไงวะ อีกอย่างมันก็เป็นคนชวนฉันคุยเองด้วย "อันนั้นมันแอปเปิลไหม ถ้าสาลี่จะดำ ก็ดำขี้มือมึงเนี่ยแหละ "พูดมากเดี๋ยวกูเอามือยัดปากซะนี่" มันไม่พูดเปล่า ทำท่าทำทางยื่นมือจะยัดปากฉันอย่างที่มันพูด ระหว่างที่ฉันกำลังกินขนมกับผลไม้ที่คิมเอามาให้ มันก็เดินไปทั่วห้องของฉัน "ใจคอมึงจะไม่ทาครีมอะไรเลยใช่ไหมวะ" ถ้าให้เดาตอนนี้มันคงนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งของฉันแน่ ๆ นอกจากหวี ยางมัดผม กิ๊บ แป้งฝุ่น โรออน ของอย่างอื่นฉันก็ไม่มีอะไรเลย "ขี้เกียจ" ฉันตอบอย่างสั้น ๆ ง่าย ๆ "แบบนี้ไงสิวมึงถึงไม่หายสักที" "มันเป็นสิวฮอร์โมน เดี๋ยวก็หาย" ไม่ใช่ว่าไม่อยากหาย แต่ปรึกษาพี่ที่รู้จักแล้วพี่เขาทำงานอยู่คลินิกเสริมความงาม เขาบอกว่ามันเป็นสิวที่ต้องรอเวลาหาย "มึงจะรอมันหายตามธรรมชาติว่างั้นเถอะ" "เออ เสี่ยงใช้ครีม ถ้าไม่หายแล้วหน้าพังล่ะ ที่นี้จะไม่แย่กว่าเดิมเหรอ" ฉันเห็นในอินเตอร์เน็ตนะน่ากลัวมาก ไอ้ที่แพ้ครีมน่ะ เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็สาหัสมากแล้ว ไม่ขอเอาหน้าพังๆ ไปเสี่ยงพังจนซ่อมอะไรไม่ได้ดีกว่า รอให้ธรรมชาติมันบำบัดแล้วก็ค่อย ๆ หายไปเองก็แล้วกัน "บางอย่างมันก็น่าเสี่ยงหรือเปล่าวะ ถ้าเสี่ยงแล้วคุ้มล่ะ อีกอย่างนะ..." มันหยุดพูดแล้วเดินเข้ามาหาฉัน "กูอยากเห็นตอนมึงไม่มีสิวว่ะ อาจจะสวยเช้งเลยก็ได้" ทำไมชอบทำอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยเลยวะ คนมันยิ่งมีใจอยู่ ชอบมาทำให้คิดไปเองอยู่เรื่อย "..." "แต่แบบนี้ก็ดี ธรรมชาติดี จะได้ไม่ต้องมีคนมาจีบมึงด้วย" มันยิ้มก่อนจะพูดขึ้นมาแบบนั้น "มึงจะบอกว่าธรรมชาติลงโทษใช่ปะ" คนอย่างมันนะคิดอะไรดีๆ พูดอะไรดีๆ แล้วเหมือนจะตาย แต่ถึงมันจะเป็นแบบนี้แต่ฉันก็ยังรู้สึกดีที่มีมันอยู่ข้าง ๆ "แสนรู้จริง ๆ เลยนะมึงเนี่ย" ไอ้คิมมันเอามือมาขยี้หัวฉันเบา ๆ เพื่อนเว้ยที่รัก เพื่อน มึงอย่าคิดไปไกลเลย "กูกลับแล้วนะ มึงจะได้พักผ่อน มีอะไรโทรหากูได้ตลอด เข้าใจไหม" ฉันพยักหน้ารับ หลังจากมันกลับแล้ว ฉันก็นอนพักรอเวลากลับมาปกติสักที หมายถึง...ทั้งตาทั้งใจนั่นแหละ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD