และสุดท้ายคีตีกาที่บอกจะนั่งแท็กมาส่งเอง แต่ตฤณรู้สึกเป็นห่วงจนต้องยอมมาส่งลูกศรแทน ทั้งสองคนนั่งเงียบไม่พูดไม่จากันมาตลอดทาง มีเพียงเสียงสิริจาก GPS เท่านั้นที่ดังมาเพื่อบอกทาง บ้านของลูกศรถูกตั้งเอาไว้ใน Google map อยู่แล้วจึงไม่ยากที่จะบอกทาง เด็กสมัยใหม่อย่างเธอก็เปิดให้เขาดูไปเลยจะได้ไม่ต้องมีเรื่องให้คุยกัน
“โตขนาดนี้แล้วยังขับรถไม่เป็น?” อยู่ๆก็โพร่งขึ้นมาท่ามกลางเสียงที่เงียบสงัด ทำให้ลูกศรมองหน้ามองหลังว่าเขากำลังคุยกับใคร
“คุยกับหนูเหรอคะ” หมอหนุ่มเบี่ยงหน้ามองด้วยสายตาหงุดหงิดก่อนจะเอ่ยออกมาให้หญิงสาวได้รู้
“แล้วในนี้มีคนอื่นอีกไหมนอกจากเธอ”
“ก็ใครจะไปรู้ว่าคุยด้วย เห็นนั่งเงียบใบ้กินมาตลอดทาง” คนตัวเล็กไม่ได้คิดจะตอบคำถามเขากลับ แต่เลือกที่จะยกแขนขึ้นมากอดอกแล้วหันหน้าหนีมองไปข้างกระจกด้วยไม่อยากเห็นหน้าเขา ยิ่งเห็นยิ่งทำให้หงุดหงิด
เอี๊ยดดดด!!!!
ปลั่ก!!….
“โอ้ยยย”
ด้วยแรงกระแทกของรถที่เบรกกะทันหัน ทำให้ลูกศรที่ไม่ได้ได้ตั้งตัวและไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย หน้าฝากน้อยๆของเธอเลยพุ่งไปโขกกับคอนโซลด้านหน้าจนเกิดเสียงดัง
ตฤณเบรกเพราะเหมือนเขาเห็นมีน้องแมวตัวน้อยๆนอนอยู่ข้างถนน ด้วยสัญชาตญาณของการเป็นแพทย์อาสาสมัยตอนเรียน ทำให้เขานึกสงสัยแล้วจะรีบลงไปช่วยเหลือ แต่ตอนนี้หันไปข้างๆก็เหมือนจะมีคนต้องการความช่วยเหลือเหมือนกัน
ลูกศรยกมือขึ้นมากุมที่หน้าผากบางๆของตัวเอง ใบหน้าของเธอบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บ และเหมือนว่ามันจะเริ่มโนขึ้นจากการกระแทกอย่างจังเมื่อกี้
“ใครบอกให้เธอไม่คาดเข็มขัด ไม่รู้หรือไงว่านั่งรถอันตรายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา” คนตัวโตไม่วายที่จะสั่งสอนเด็กไม่เอาไหน ทว่าหญิงสาวกลับเหนื่อยจะต่อปากต่อคำ เธอเลือกที่จะเงียบไปแล้วหันหน้าไปอีกทางดังเดิม
“หันกลับมา หัวโนหรือเปล่า” ตฤณพยายามดึงไหล่บางให้หันกลับมาเพื่อที่เขาจะได้ดูอาการให้ อย่างน้อยเรื่องการปฐมพยาบาลเขาก็พอทำเป็นสมัยตอนเรียนเคยเลือกเป็นวิชาเสรี
“ไม่เป็นไรค่ะ เบรกทำไมคะ” หญิงสาวสะบัดมือหมอหนุ่มทิ้ง เธอพูดกับเขาแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองหน้าเขา แถมน้ำเสียงที่เปล่งออกมายังดูเหมือนหงุดหงิดเล็กน้อย
“โทษที ฉันเห็นเหมือนมีลูกแมวนอนอยู่ข้างถนน ตกใจเลยรีบเหยียบไปหน่อย” ลูกศรชะโงกหน้ามองกระจกด้านข้างพอเห็นเหมือนอย่างที่เขาพูดจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วมุ่งหน้าไปที่แมวตัวน้อยทันที ตฤณที่เห็นคนตัวเล็กลงจากรถไปเลยรีบลงตามอย่างหัวเสีย
ลูกศรรีบวิ่งเข้ามาอุ้มลูกแมวตัวน้อยที่เหมือนจะพลัดลงจากแม่ของมัน ปากมันทำท่าดูดนมจนดูน่าเอ็นดู ด้วยความไม่เคยเห็นลูกศรจึงลองเอานิ้วก้อยให้ตัวเล็กดูด แต่ก็ถูกหมออย่างตฤณดุให้ไปที
“สกปรก รู้ไหมว่ามือเราไปจับอะไรมาบ้าง แล้วลูกแมวอายุน่าจะยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ ดูดมือเธอไปแล้วถ้าท้องเสียจะทำยังไง ถึงตายได้เลยนะ” คนตัวเล็กช้อนสายตาขึ้นมามองหมอหนุ่มด้วยแววตาค้อนๆ ก่อนจะส่งลูกแมวน้อยให้เขาดูอาการต่อ
“เป็นยังไงบ้างคะ น้องจะรอดไหม”
“อาจจะต้องลองเอาไปดูอาการที่คลินิกก่อน ถ้าพ้นคืนนี้ไปได้แล้วไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร ก็ถือว่ามันยังโชคดีอยู่”
คลินิกรักษาสัตว์
ลูกศรมองหมอตฤณตรวจลูกแมวตัวน้อยอย่างไม่ละสายตา เวลาที่เขาอยู่ในโหมดนี้เขาเหมือนคนปกติ หน้าตาหล่อดูเท่สมกับที่สาวๆต่างสนใจ
หญิงสาวยืนกอดอกพิงขอบประตูจ้องใบหน้าหมอตฤณแล้วคิดอะไรไปเรื่อยจนเธอไม่รู้ตัวว่าตอนนี้เธอกำลังถูกอีกคนจ้องกลับ กว่าจะรู้ตัวหมอตฤณก็ยืนกอดอกถอยไปพิงตู้ด้านหลังแล้วมองจ้องมาที่เธอเหมือนกัน
“หลงเสน่ห์ฉันแล้วหรือไง ฉันเรียกถึงไม่ได้ยิน” ลูกศรเรียกสติตัวเองกลับมาได้ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการตกใจว่าตัวเองโป๊ะแตกเข้าแล้ว เธอถอยหายใจออกช้าๆแล้วเบนสายตาออกไปทางอื่นแทน
“ตัวเล็กจะรอดใช่ไหมคะ”
“อย่างที่บอกต้องรอดูให้พ้นคืนนี้ อาการแบบนี้มาแบบเดียวกับลูกๆคุณเพลงเลย” หมอหนุ่มยิ้มหน้าระรื่นยามที่พูดชื่อของหญิงที่ชอบ แต่ลูกศรก็ดับฝันด้วยการ
“สติค่ะ พี่เพลงเขากำลังจะแต่งงาน เลิกเข้าไปเป็นมือที่สามของคนอื่นสักทีนะคะ” พูดจบร่างบางเลือกที่จะเดินหนีออกมาเพื่อจะเตรียมออกไปเรียกรถกลับบ้าน วันนี้เธอออกมาทั้งวันจนตอนนี้เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว พรุ่งนี้หญิงสาวยังต้องมีเรียนที่มหาวิทยาลัยแต่เช้า แต่เหมือนเธอจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เธอนัดกับไฟเอาไว้ หญิงสาวเลยล้วงหามือถือในกระเป๋าสะพายแบรนด์หรูของตัวเองอย่างรีบๆ
“ทำอะไร ไปขึ้นรถสิฉันจะไปส่ง” ตฤณเดินนำคนตัวเล็กไปแต่พอเห็นว่าเธอไม่ได้เดินตามเขาออกมา นั่นยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดเพราะรู้สึกเสียเวลา
“มัวทำอะไรอยู่ ฉันไม่ได้มีเวลามาดูแลเธอตลอด 24 ชั่วโมงนะ”
“แป๊บนะคะหนูหาโทรศัพท์ไม่เจอ” ร่างบางเริ่มกระวนกระวายเพราะชีวิตเด็กสมัยใหม่อย่างเธอการขาดโทรศัพท์ไปมันเหมือนขาดชีวิตไปครึ่งหนึ่งได้เลย
ตฤณขมวดคิ้วมองก่อนจะหมุนตัวกลับไปที่รถ คราวนี้เขาอ้อมไปที่ฝั่งคนนั่งข้างคนขับ แล้วลองเปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องหาดูตามซอกเบาะ และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิด หมอหนุ่มหยิบมือถือราคาแพงทรงสี่เหลี่ยมขึ้นมาหวังจะเอาเข้าไปให้เด็กสาวที่ยังคงหาทั้งที่กระเป๋าใบเล็กนิดเดียว ถ้าจะเจอมันคงจะเจอตั้งนานแล้ว
ติ๊งง…ติ๊งงง…ติ๊งงง
เสียงแอพแชทสีเขียวดังและสั่นติดกันจนเรียกความสนใจของตฤณให้ยกขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นว่าคนที่ทักเธอมาคือไฟ เพื่อนสนิทของพี่ชายเธอที่โทรเข้ามาชวนเธอไปดูคอนเสิร์ตที่คลับเมื่อตอนกลางวัน ไม่รู้อะไรดลใจทำให้เขาอยากจะแกล้งเธอจนกดเข้าไปอ่านในแชท ดีที่ลูกศรไม่ได้ตั้งรหัสผ่านเอาไว้ ด้วยความขี้ลืมของเธอ เธอเลยเลือกที่จะไม่ตั้ง ส่วนการสแกนใบหน้าบางทีมันสแกนไม่ติดแล้วต้องใส่รหัส เธอก็จะลืมและใส่มันจนโดนล็อคไปเลย
“…”
พรึ่บ…
ตฤณพิมพ์ข้อความอยู่สักพักก็กดส่งไปหาไฟทันที ทำหน้าตาไม่มีอะไรเกิดขึ้นเข้าไปด้านในก่อนจะยื่นมันให้กับลูกศร
“อ่ะ หาอยู่นั่นแหละกระเป๋าเหมือนกระเป๋าใส่เหรียญ” ลูกศรเงยหน้าขึ้นมามอง กำลังจะขอบคุณแต่พอได้ยินที่เขาพูดหญิงสาวเลยต้องเปลี่ยนเป็นหน้ามุ่ยหน้าแทน
Rrrr….
“สวัสดีค่ะพี่ไฟ”
(น้องลูกศรส่งข้อความมาหาพี่หมายความว่ายังไงเหรอคะ)
“หนูยังไม่ได้ส่งอะไรไปเลยนะคะ…ข้อความพิมพ์ว่ายังไงเหรอคะ” คนตัวเล็กขมวดคิ้วช้อนสายตามองคนตรงหน้าที่ทำหน้ายิ้มทะเล้น เหมือนเขาจะจงใจให้เธอเห็นว่าเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนส่งไปหาไฟ
(น้องศรพิมพ์มาว่า น้องศรมาไม่ได้แล้วเพราะว่าแฟนหวง…)
ขณะที่ลูกศรฟังไฟเล่าว่าในข้อความพิมพ์อะไรไปบ้างนั้น ตฤณก็นึกอยากแกล้งเธอเข้าไปอีก โดยการเดินเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ ลูกศรที่เห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้เธอก็ยิ่งถอยออก ภาพตอนนี้เลยเหมือนว่าเธอกำลังถูกเขาต้อนให้จนมุม ตฤณเดินดันคนตัวเล็กให้ถอยไปติดกับผนังห้องจากนั้นก็ใช้ร่างกายอันแข็งแรงของตัวเองล็อคเธอเอาไว้ทั้งตัว ลูกศรช้อนแววตามองใบหน้าหล่อใกล้ๆแล้วหัวใจกลับเต้นรัวเหมือนคนหัวใจเต้นผิดจังหวะ
เธอพยายามจะดันเขาออกด้วยมือเดียว แต่แรงอันน้อยนิดของเธอมันจะไปสู้แรงผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาไหวได้ยังไง
ตฤณยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้กับเธอก่อนจะค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าหาอย่างช้าๆ เรียกได้ว่าตอนนี้ทั้งคู่อยู่ใกล้กันมากๆจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจ
“ค่ะ วันนี้หนูคงไปไม่ได้แล้ว พี่ไฟคะแค่นี้กะ….อื้มมมม” ตฤณเห็นว่าเธอกำลังจะวางสายเขาเลยพุ่งตัวเข้าไปเพื่อประทับรอยจูบให้กับคนตัวเล็ก
ลูกศรพยายามจะยกโทรศัพท์หนี แต่ตฤณเองก็ยังแกล้งด้วยกันล็อคมือเธอเอาไว้ทำให้โทรศัพท์ยังอยู่ข้างหูเหมือนเดิม
(น้องลูกศรเป็นอะไรหรือเปล่าครับ….)
“อื้มมม อุน อิน อ่อย (คุณตฤณปล่อย)” เธอพยายามดีดดิ้นแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าตฤณจะปล่อยให้เธอหลุดออกจากฝันร้ายนี้