การทานอาหารมื้อเย็นของทั้งสี่คนเริ่มมาได้สักพัก แต่การกินและการเอนจอยไปกับเชฟเหมือนจะมีแค่ไฟ และผู้หญิงที่นั่งข้างตฤณเท่านั้น
ตฤณกอดอกมองจ้องไปยังคนตัวเล็กที่นั่งฝั่งตรงข้าม พลางเบะปากมองเวลาที่ไฟดูแลร่างบางโดยการรับอาหารให้ เช็ดปากให้หรือแม้แต่บางคำไฟก็เลือกที่จะป้อนหญิงสาวเพราะไม่อยากให้มือของเธอนั้นเปื้อน
“น้องลูกศรชอบไหมคะ ที่นี่จองยากมากเลยนะคะ พี่ให้เลขาจองให้ยากมากๆเลย” เมื่อจบคอร์สและเซฟเสิร์ฟจานหลักท้ายคอร์ส ไฟจึงได้เอ่ยปากถามถึงอาหารมื้อนี้กับร่างบาง แม้ว่าตลอดการทานอาหารไฟจะพูดมากอยู่แล้วก็ตาม
“งั้นๆ”
ลูกศรกำลังจะอ้าปากตอบกลับไฟ แต่ใบหน้าเรียวกลับต้องหันไปมองร่างสูงฝั่งตรงข้ามเพราะเสียงที่เขาเอ่ยออกมามันดังจนเหมือนว่าตอบกลับไฟไป ทั้งที่เขาถามคำถามนี้กับเธอ ซึ่งไม่ต่างกันไฟเองก็รู้สึกว่าตฤณเองก็มองมาทางนี้บ่อยจนเขาเริ่มรู้สึกรำคาญ เมื่อไฟได้มองหน้าตฤณชัดๆเขาก็รู้สึกว่าคุ้นหน้าแต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน
“พี่ไฟคะ หนูขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
“พี่ไปเป็นเพื่อนไหมคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูรีบมานะคะ”
ลูกศรลุกออกไปโดยไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าแบรนด์หรูคู่ใจออกมาด้วย ร่างบางเดินเข้าไปในห้องน้ำหลังจากที่เดินตามทางมาเรื่อยๆ ใช้เวลาทำธุระได้ประมาณห้านาที เมื่อเช็คความเรียบร้อยดีแล้วร่างบางจึงได้เอื้อมมือไปปลดล็อคประตูเตรียมจะเปิดออก แต่ในขณะที่เธอกำลังก้าวขาออกนอกประตูห้องน้ำนั้น ก็มีชายร่างสูงอย่างหมอตฤณเดินเข้ามาขวางเธอเอาไว้จนเธอเผลอตกใจ
“ว๊ายย ทำอะไรของคุณ”
“พอไม่ได้เจอกันที่ร้านเหล้าเมื่อคืน วันนี้เลยต้องรีบแต่งชุดนักศึกษามาหากันเลยสินะ” ตฤณใช้สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่สายตาดันไปหยุดค้างอยู่ที่หน้าอกที่เกือบทำให้กระดุมปริของลูกศร คนตัวเล็กรีบยกมือขึ้นมาปิดที่หน้าอกเอาไว้พร้อมกับ มองค้อนขึ้นไปหาหมอหื่นกามอย่างไม่ค่อยโอเคนัก
“ไม่ใช่ค่ะ” ลูกศรดันร่างสูงให้ถอยออกห่าง เธอรีบเดินหนีเขาหวังจะเข้าไปด้านในให้ไว้ที่สุดอย่างน้อยเขาก็คงไม่กล้าแกล้งเธอต่อหน้าคนอื่น
ทว่ากลับมามีมือหนามาดึงแขนของเธอจนทำให้เธอกรี๊ดลั่น แต่คนที่ทำก็ดันเอามือมาปิดปากเธอไว้ได้นานเสียก่อน
“กรี๊ด อี๊ดดดดดดดดดดด”
“โอ้ยยย!..กัดฉันเหรอลูกศร” ทันทีที่หมอตฤณดึงร่างบางให้เข้ามาหลบตามซอกตรงทางเดิน ลูกศรก็กัดเข้าที่ฝ่ามือของเขาจนเกิดรอยฟันบริเวณที่เธอกัด
“ช่วยไม่ได้ อยากแกล้งหนูทำไมล่ะ” คนตัวเล็กแลบลิ้นใส่ร่างสูงก่อนจะรีบผลักเขาออกไปในตอนที่เขาเผลอ
“หึ คิดว่าจะรอด ฉีดยาหรือยังเนี่ย ถ้าฉันเป็นพิษสุนัขบ้าขึ้นมาจะทำยังไง” ตฤณยกแขนขึ้นมากันคนตัวเล็กเอาไว้ทั้งสองข้าง มุมปากกระตุกยิ้มอย่างสะใจ วันนี้เขาเองก็อารมณ์ไม่ดีเพราะต้องถูกแม่บังคับให้มานัดบอดกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ แต่พอได้มาเจอเด็กแสบที่นี่มันก็ทำให้เขานึกสนุกขึ้นมาได้ ยิ่งได้เห็นไฟดูแลเธอต่อหน้าแล้วยิ่งทำให้เขาอยากแกล้งเธอมากขึ้นกว่าเดิม
“จะบ้าเหรอคะ คนนะไม่ใช่หมา”
“ก็นึกว่าใช่ เห็นชอบหวงของ”
“หึ หนูหวงพี่ สะใภ้ ของหนูมันผิดตรงไหนคะ” หญิงสาวพยายามเน้นทีละคำเพื่อบอกให้ชายหนุ่มได้ทบทวนเผื่อเขาจะลืม
Rrr…
มือถือหญิงสาวดังขึ้นมาจนทำให้เธอต้องหันไปมอง มือเล็กหยิบมันขึ้นมาก่อนจะกดรับเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ใคร
“ค่ะพี่ไฟ”
(ยังไม่เสร็จเหรอคะ)
“เสร็จแล้วค่ะ เรากลับกันเลยไหมคะ”
(…)
“ค่ะ หนูกำลังไป” สิ้นสุดการสนทนามือเล็กเก็บมือถือเข้ากระเป๋าก่อนจะออกแรงดันอกแกร่งของตฤณให้ออกไปอีกครั้ง คราวนี้ตฤณยอมปล่อยให้หญิงสาวเดินไปง่ายๆ เพียงเพราะวันนี้เขาแกล้งเธอแค่นี้ก็พอใจแล้ว
ตฤณเดินกลับเข้ามาในห้องอาหารห้องเดิม และยังคงเจอกับผู้หญิงที่แม่ของเขาหามาให้ หญิงสาวยิ้มให้กับหมอหนุ่มทันทีที่เขาเดินเข้ามา เธอพยายามชวนหมอหนุ่มคุย แต่เหมือนกับว่าเธอกำลังคุยกับอากาศเพราะตฤณตอบกลับเธอน้อยมาก ประโยคไหนที่รำคาญมากๆก็มักจะตอบแบบตัดไปเลยอย่างตัดรำคาญ
“คุณตฤณจะกลับเลยไหมคะ”
“ครับ ขอตัว” แล้วเขาก็เดินไปที่รถหรูสีดำของตัวเอง เมื่อขึ้นรถได้เขาก็ออกรถไปโดยไม่ได้สนใจหญิงสาวที่ยืนมองเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึง
22.00 น
ตฤณขับรถกลับมาที่คลินิกเพราะตั้งใจมาตรวจดูเคสที่ค้างเอาไว้ แต่หางตาดันมองไปเห็นเหมือนกับว่าคีตีกากำลังเดินเข้าไปในร้านขายยาตรงแถวคลินิกของเขา หมอตฤณไม่รอช้าที่จะวิ่งเข้าไปหาเธอด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะไม่สบายหนัก
“คุณเพลงไม่สบายเหรอครับ” ตฤณพุ่งตัวเข้าไปถามหญิงสาวที่ไม่ทันได้ตั้งตัวว่าจะเจอคนรู้จัก เธอลนจนเผลอทำกล่องยาฉุกเฉินตกที่พื้น และเก็บมันขึ้นมาไม่ทันเพราะหมอหนุ่มตาไวเห็นตอนที่มันตกลงไปตั้งแต่แรก
“คุณเพลงทานยาฉุกเฉินทำไมครับ” หมอตฤณรีบคว้าแขนของคีตีกาเอาไว้
“ไอ้ศิลามันทำอะไรคุณเพลง” หมอหนุ่มพูดออกมาด้วยความโกรธ ในเมื่อมันเป็นการแต่งงานเพราะสัญญาหลอกๆ เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาล่วงเกินเธอแม้แต่นิด
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณตฤณ เพลงขอตัวก่อนนะคะ” หมอหนุ่มมองตามผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองกำลังหลงรักเดินออกไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา หมอหนุ่มได้ขบกรามตัวเองไว้แน่นเพื่อดับอารมณ์ แต่ก็เหมือนยิ่งร้อนขึ้นจนเขาต้องทำอะไรมาเพื่อช่วยดับ
Club
ตฤณเลือกขับรถเข้ามาจอดที่ผับ ที่เคยขับผ่านมา เขาพุ่งตรงเข้าไปตรงบาร์สำหรับคนที่มานั่งดื่มคนเดียว หมอหนุ่มสั่งเหล้าดื่มเพื่อดับกระหายอารมณ์โกรธที่มันกำลังเดือดพล่านเพราะเหมือนเรื่องนี้มันจะยิ่งตอกย้ำความเป็นส่วนเกินของเขาเข้าไปอีก
“น้อง อีกแก้ว”
เสียงเข้มหันไปสั่งบริกรให้นำเหล้ามาเสิร์ฟอีกแก้ว จนกลายเป็นหลายสิบแก้วในเวลาเพียงแค่สิบนาที แต่ไม่ว่าเขาจะสั่งตัวแรงเพื่อมาดื่มมันมากขนาดไหน ใจที่มันกำลังร้อนก็ยังไม่สามารถดับได้
กรี๊ดดดดดดด!!
เสียงกรี๊ดจากด้านหลังทำให้หมอตฤณละสายตาจากแก้วคริสตัลทรงเหลี่ยมเพื่อไปมอง คิ้วหนาคลายปมจากที่กำลังเครียดออก เพราะตอนนี้เหมือนกำลังจะมีกระสอบทรายเข้ามาให้เขาได้ระบายอารมณ์ถึงที่
ตฤณมองจ้องไปยังบุคคลที่มาทีหลัง และตอนนี้ศิลาเองก็ยืนจ้องมองหมอหนุ่มที่รู้มาว่าเขาก็กำลังทำตัวเป็นพระเอกเข้าไปปลอบใจภรรยาตัวเองอยู่เหมือนกัน
ตฤณยกแก้วในมือขึ้นมากระดกจนหมดรวดเดียว แล้วร่างกายแข็งแรงก็ลุกขึ้นเพื่อเดินเข้าไปหาศิลาที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“คนอย่างคุณไม่เหมาะที่จะเป็นสามีคุณเพลงหรอก”
“หึ แล้วคนแบบไหนวะที่เหมาะ อย่างมึงอ่ะเหรอ” ศิลาไม่ใช่คนมีมารยาทมากนัก ยิ่งสำหรับคนที่ชอบเข้ายุ่งกับเมียตัวเองแล้ว ยิ่งไม่จำเป็น
“ผมยังให้เกียรติคุณนะ จะถือซะว่าคุณมันเด็ก…ผลัวะ!!” ศิลาเข้ามาชกใบหน้าหล่อๆของเขาจนเขาเองต้องถอยหลังไปตามแรงเหวี่ยง
ตฤณเดินเซถอยหลังพลางยกหลังมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่มุมปาก ยืดตัวขึ้นมายิ้มแล้วแค่นเสียงหัวเราะเบาๆ ไม่กี่นาทีต่อมาร่างหนาก็พุ่งตัวเข้าไปเสิร์ฟหมัดกับศิลา ผลัดกันเหวี่ยงหมัดอยู่หลายทีอย่างไม่มีใครคิดห้าม
แม้แต่การ์ดของคลับเองก็ไม่มีใครกล้าเข้ามา เพราะว่าคลับนี้มันเป็นคลับของศิลาและเพื่อนของเขาที่ทำร่วมกัน พอเห็นว่าศิลาห้ามไว้ ทุกคนจึงทำได้แต่ยืนดูคอยกันคนเข้ามาเพิ่มเท่านั้น
อีกด้านของฝั่งในสุดที่เป็นโซนนั่งชิลบรรยากาศดี หญิงสาวร่างเพรียวบางที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนสาวและแฟนของเธอ ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังโหวกเหวกโวยวายจนเมทัลต้องพูดออกมาอย่างสงสัย
“เหมือนเสียงมาจากข้างใน มีคนตีกันหรือเปล่า” ร่างเพลียวบางในชุดเดรสรัดรูปเกาะอกสีดำสนิทมีความเหลื่อมของการปักนิดๆ หันไปมองด้านในเพราะเธอเองก็ได้ยินเหมือนกัน
“เห้ยๆแก คุณศิลาเจ้าของคลับกำลังต่อยกับใครก็ไม่รู้ว่ะ แต่หล่อทั้งคู่เลยอ่ะ ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามเลย”
“เฮีย!”
ลูกศรรีบวิ่งเข้าไปด้านในทันทีที่ได้ยินคนเดินเข้ามาหวังจะเม้าท์ให้เพื่อนร่วมโต๊ะฟัง เมทัลเองก็ห่วงเพื่อนกลัวว่าจะมีคนจำเธอได้จึงได้รีบวิ่งมากับลูกศรด้วยอีกคน แต่ก็วิ่งไม่ทันด้วยที่ชุดของเธอมันสั้นและเธอใส่ส้นสูงแบบเข็มแปดนิ้วมา
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! เฮีย!! พอแล้วคุณตฤณหยุด” เข้ามาด้านในได้หญิงสาวก็เห็นว่ามีคนสองคนกำลังซัดกันนัวอยู่ในวงท่ามกลางผู้คนที่ล้อมรอบคอยส่งเสียงเชียร์สนั่น
“นี่มันอะไรกันคะ ทำไมต้องรุนแรงกันขนาดนี้” ผู้ชายที่สภาพสะบักสะบอมกันทั้งคู่ต่างไม่มีใครตอบอะไรเธอออกมา แต่กลับหันหลังใส่กันพร้อมกับยกแขนขึ้นมาเช็ดเลือดให้ออกจากใบหน้า
“เฮีย บอกหนูได้ไหมว่านี่มันเรื่องอะไร” หันไปถามหาคำตอบจากพี่ชายตัวเองแต่ก็ต้องยอมใจเพราะคนเป็นพี่หันหลังใส่ไปแล้ว
พอจะหันไปถามอีกคน หมอตฤณก็ดันเดินหนีออกไปจากคลับแล้ว ลูกศรที่เห็นหมอหนุ่มเดินออกไปด้วยสภาพแบบนี้จึงนึกเป็นห่วงเลยตัดสินใจวิ่งตามเขาออกไป
ไฟและเคนลงมาพอดีกลับตอนที่ทั้งคู่เดินออกไปแล้ว ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงได้แต่มองตามหลังอย่างไม่เข้าใจ