ตอนที่10 ทฤษฎี 21 วัน
บนโต๊ะอาหาร
“ได้ข่าวว่าที่ผับจะเปิดโซนใหม่เหรอคะ งานเยอะขนาดนั้นพี่ลุคค์ดูแลไหวเหรอคะ” เสียงหวานของพลอยใสเอ่ยถามขึ้น
“ไหวครับงานไม่ได้เยอะจากแต่ก่อนนักหรอกครับ” ลุคค์ตอบกลับไปตามความจริง แต่ขณะที่ทั้งสองสนทนากันอยู่นั้นก็มีสายตาไม่ค่อยพอใจของใครบางคนจ้องมองตลอดเวลา
“อย่าทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนบ้างนะคะ”
“มันโตแล้วจะไปห่วงมันทำไม” เสียงเรียบดังแทรกขึ้น สายตาเข้มดุจ้องหน้าบอดี้การ์ดหนุ่ม
“ครับ ขอบคุณครับ”
“ฉันไม่ได้อยากเปิดโซนใหม่เลยนะ ไอ้ลุคค์มันอยากทำของมันเองจะมาว่าฉันไม่ได้” มาเฟียหนุ่มรีบพูดแก้ต่างให้ตัวเองทันทีเมื่อตอนนี้มีสายตาดุของภรรยาตัวน้อยมองมาด้วยสายตาและสีหน้าไม่พอใจ
“หนูยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนี่คะ” ใบหน้าสวยหวานหันไปพูดกับสามีที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ก็เห็นเข้าข้างแต่ไอ้ลุคค์ ทั้ง ๆ ที่ฉันเป็นผัวเธอ” ใบหน้าคมเข้มแสดงอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็ไม่กล้าที่จะโวยวายมากกว่านี้
“คืนวันเสาร์จะมีการส่งของที่ท่าเรือมึงไปช่วยกูกับนายเช็กสินค้าด้วย ที่ผับให้ไอ้แทนไทมันดูแลแทนไปก่อน สินค้าล็อตนี้เป็นสินค้าล็อตใหญ่” ธาราพูดขึ้นเสียงเรียบเมื่อเหตุการณ์บนโต๊ะเริ่มสงบลง
“ครับ ผมอิ่มแล้วผมขอตัวนะครับ” ลุคค์ตอบกลับพร้อมตั้งท่าจะลุกจากเก้าอี้ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงของคนเป็นนายเอ่ยเรียกเสียก่อน
“กูพึ่งได้กาแฟมาจากเชียงใหม่พันธุ์นี้ปลูกยาก ชงมาให้แล้วเสือกไม่แดก”
“ผมจะไปนอนครับ ร่างกายไม่ควรได้รับคาเฟอีนก่อนนอนเพราะจะทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวจนนอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิทครับ ความรู้พื้นฐานที่คนทั่วไปก็น่าจะรู้นะครับไม่จำเป็นต้องเป็นแพทย์เท่านั้นถึงจะรู้” ลุคค์ตอบกลับคนเป็นนาย ร่างสูงลุกขึ้นเต็มความสูงหันหลังเดินออกจากห้องอาหารขึ้นบันไดไปยังชั้นบนที่เป็นห้องนอนของชายหนุ่ม
“หึ..สมองมีก็คิดบ้างนะ” ธาราพูดขึ้นส่ายหัวเล็กน้อยสีหน้าเอือมระอาอย่างเห็นได้ชัด
“แค่จิบๆ ชิมดูแค่รสชาติมันจะกระตุ้นร่างกายขนาดนั้นเลยหรือไง ถ้าดีขนาดนั้นกูเหมากาแฟทั้งดอยมาให้ไอ้พวกนั้นกินแทนข้าวไม่ดีกว่าหรือไง”
“คุณวีจะรับกาแฟเลยไหมคะ” มือเล็กเอื้อมไปหยิบเหยือกแก้วทรงสูงข้างในบรรจุกาแฟเข้มข้นส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกมาให้ได้กลิ่น
“อืม..” พลอยใสค่อยๆ รินกาแฟใส่แก้วโดยที่ยังมีไอร้อนอยู่เพราะเหยือกแก้วที่สั่งมาจากฟินแลนด์ค่อนข้างเก็บอุณหภูมิของกาแฟได้ดี จากนั้นก็หันไปรินให้ธารา
“ลอนดอนยังไม่ตื่นเหรอพลอยใส” เสียงทุ้มนุ่มของธาราเอ่ยถามขณะยกกาแฟขึ้นดื่ม
“ตื่นแล้วค่ะ แต่วันนี้งอแงอยากทานข้าวบนห้อง”
“อย่าตามใจมากนักนะเดี๋ยวจะเสียคนเหมือนพ่อมัน คืนนี้พี่นอนบ้านโน้นนะไม่ต้องเตรียมมื้อเย็นเผื่อ”
“ค่ะ แล้วเมื่อไหร่พี่ธาราจะพาคุณมุกดากับน้องดาด้าย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันล่ะคะ”
“รอเขาโตกว่านี้ก่อนครับ อยู่ที่โน่นยังมีคุณยายช่วยเลี้ยงด้วยมุกดาดื้อมากไม่ยอมจ้างพี่เลี้ยงช่วย” ธาราบอกเหตุผลออกไป พลอยใสพยักหน้าเข้าใจ ได้แต่รอเวลาให้หลานสาวโตกว่านี้ก่อน
“วันนี้นายจะเข้าบริษัทไหมครับ” คำถามจากมือขวาคนสนิททำให้มาเฟียหนุ่มหยุดให้ความสนใจกับการพินิจพิเคราะห์รสชาติของกาแฟในมือส่งสายตาเข้มดุไปยังธาราที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“กูแต่งตัวแบบนี้คงทำงานอยู่บ้านหรอกนะ เดี๋ยวนี้มึงชอบถามอะไรไร้สาระเหมือนไอ้ลุคค์เข้าไปทุกวันนะ”
“สรุปไอ้ลุคค์เหมือนผมหรือผมเหมือนไอ้ลุคค์ครับ” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อเจอคำถามยอกย้อนจากลูกน้อง
“ไปเตรียมรถ” เสียงเรียบออกคำสั่งพร้อมกับลุกพรวดพลาดเดินดุ่ม ดุ่ม ขึ้นไปชั้นสองตรงดิ่งไปยังห้องลูกชายคนโปรดซึ่งมาเฟียหนุ่มจะต้องบอกลูกชายทุกครั้งก่อนออกไปทำงาน
“ฝากบอกนายน้อยด้วยนะครับว่าวันเสาร์จะพาไปหาดาด้าที่บ้าน” เสียงทุ้มของบอดี้การ์ดหนุ่มตะโกนตามหลังไป
บนห้องชั้นสองปีกซ้าย
ภายในห้องมืดสนิทไม่มีแสงสว่างเล็ดลอดเข้ามาเปลี่ยนกลางวันเป็นกลางคืนเพื่อการหลับพักผ่อนได้สนิทมีเพียงแสงไฟจากหน้าจอมือถือ อุณหภูมิ 18 องศาเย็นเฉียบต่างกับอุณหภูมิด้านนอกที่ร้อนเกือบ 40 องศา ชายหนุ่มในชุดนอนสีน้ำเงินเข้มกำลังตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์ข้อความอยู่บนเตียง
‘ถึงที่ทำงานหรือยังครับ’
‘ถึงแล้วค่ะ’ ข้อความตอบกลับจากอีกฝ่าย
‘ทานมื้อเช้าหรือยังครับ’
‘เรียบร้อยค่ะ คุณยังไม่นอนเหรอคะ’
‘กำลังจะนอนครับ’
‘พักผ่อนนะคะ ฉันทำงานก่อนตอนเย็นจะทักไปค่ะ’
‘ครับ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีครับ’
‘หลับฝันดีค่ะ’
“ลูคัส ลูคัสคือใครทำไมแกคุยกับเขาเหมือนสนิทกันขนาดนั้น นี่คุยกันไปถึงขั้นไหนแล้ว” ซีไนซ์เอ่ยถามเอียงคอไปมองหน้าจอมือถือของดีไซน์สายตาโฟกัสที่รูปโปรไฟล์ด้านซ้ายของหน้าแชต นิ้วเรียวเล็กยื่นไปแตะที่รูปโปรไฟล์เพื่อเปิดดูรูปขนาดเต็มรวมถึงรูปโปรไฟล์อื่นๆ ด้วย
“ไม่รู้เหมือนกันพึ่งคุยกันเอง แต่ฉันรู้สึกว่าคุยกับเขาแล้วสบายใจน่ะ”
“ลูคัสอย่างนั้นเหรอ” ซีไนซ์พึมพำกับตัวเองขณะที่นิ้วเรียวเล็กเลื่อนหน้าจอเพื่อดูรูปทุกรูปของชายหนุ่มคนนั้นแต่ทุกรูปถูกถ่ายจากด้านหลังหรือไม่ก็ด้านข้าง แต่มีการยืนยันตัวตนว่ามีตัวตนจริงๆ
“เอ๊ะ! นี่มัน” ร้องอุทานขึ้นเมื่อเลื่อนไปเห็นรูปสุดท้ายที่ถ่ายจากด้านข้าง บวกกับรอยสักตรงแขนขวาที่สะดุดตา
“มีอะไรหรือเปล่า แกรู้จักเขาเหรอ”
“เปล่าแค่รอยสักบนแขนเขาเป็นลายที่ฉันชอบพอดีน่ะ ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะประชุม 10 โมงฉันยังเตรียมข้อมูลไม่เสร็จเลย” ซีไนซ์รีบตอบกลับแล้วรีบปลีกตัวออกไปทันที ดีไซน์ที่มองดูนาฬิกาบนหน้าจอมือถือเมื่อเห็นว่าได้เวลาทำงานก็เก็บมือถือลงกระเป๋าสะพายแล้วเปิดแล็ปท็อปขึ้นเพื่อทำงาน
“นี่พี่ลุคค์แอบคุยกับยัยไซน์เหรอเนี่ย แถมใช้ชื่อที่ไม่มีใครรู้จักอีกต่างหาก จะมาหลอกยัยไซน์หรือเปล่าทำไมไม่บอกไปตามความจริงว่าเป็นพี่ชายเรา” ซีไนซ์บ่นพึมพำไปตลอดทางขณะเดินกลับไปโต๊ะทำงานริมหน้าต่างมองเห็นวิวกรุงเทพฯ ที่เธอนั่งทำงานอยู่ก่อนตั้งแต่เช้า
ตู๊ด…..
คนที่กำลังจะเผลอหลับต้องรู้สึกตัวตื่นเมื่อมีสายโทรเข้า
‘อือ..มีอะไรซี’
‘พี่ลุคค์จะมาหลอกเพื่อนซีหรือเปล่า ถ้าไม่คิดจริงจังไม่ต้องมาคุยกับเพื่อนซีเลยนะ’ เสียงแหลมรัวใส่คนปลายสายไม่ยั้งจนอีกฝ่ายต้องขยับโทรศัพท์ออกห่างจากใบหู
‘หลอกอะไร เมื่อคืนนอนน้อยจนไม่มีสติหรือไง’
‘ไม่มีสติอะไร ก็พี่แอบปลอมตัวมาหลอกเพื่อนหนูในแอปหาคู่อะไรนั่น หนูรู้นะว่าโปรไฟล์ที่ใช้ชื่อลูคัสเป็นพี่ หนูจำรอยสักของพี่ได้’
‘เดี๋ยวๆ ยัยซี พี่ไม่ได้จะหลอกดีไซน์เราเองก็รู้ว่าพี่ชอบดีไซน์มาตั้งนานแล้ว’
‘แล้วทำไมต้องปิดบังตัวตนด้วย ทำไมไม่บอกยัยไซน์ไปตรงๆ ว่าเป็นพี่ลุคค์’
‘ถ้าบอกตรงๆ ได้ก็บอกไปแล้วสิ ขืนบอกไปแล้วเธอไม่คุยกับพี่ล่ะ’
‘พี่ไม่ได้จะมาหลอกเพื่อนซีใช่ไหม’
‘ไม่มีทางเด็ดขาด พี่ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ พี่จะเอาเธอมาเป็นพี่สะใภ้ให้เราให้ได้ โอเคไหม’
‘ถ้าพี่รับปากแบบนี้ซีก็โอเคค่ะ’
‘แต่เราต้องรับปากพี่ก่อนว่าจะยังไม่บอกเรื่องนี้กับดีไซน์’
‘โอเคค่ะซีรับปาก รีบๆ จีบเธอให้ติดนะคะ ซีอยากเป็นเพื่อนเจ้าสาว’
‘โอเค แค่นี้แหละพี่จะนอน’
‘โอเคค่ะ’
หลังจากวางสายจากน้องสาวเสร็จสมองก็ตื่นตัวความง่วงก่อนหน้าหายเป็นปลิดทิ้งจึงลุกขึ้นนั่งเอนหลังพิงหัวเตียงและหยิบไอแพดข้างเตียงขึ้นมาเปิด
“ทฤษฎี 21 วัน”
หลังจากกดค้นหาหน้าจอก็โชว์ผลการค้นหาขึ้นมามากมายจากหลายเว็บไซต์ นิ้วเรียวยาวกดเข้าไปเว็บไซต์แรกบนสุดเพื่ออ่านเนื้อหา สายตาคมกวาดสายตาอ่านเนื้อหาอย่างละเอียด
“7 วันแรกจะเกิดความเคยชิน 21 วันจะเกิดความผูกพัน ถ้าอยากรู้ว่าเขามีใจให้ไหมให้ตามจีบให้ครบ 21 วัน ถึงจะทักไปแล้วเขาไม่ตอบก็ให้ทักไปทุกวันจนครบ 21 วัน แต่ถ้าเขาตอบเขาคุยด้วยครบ 21 วันแสดงว่าเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาแล้วไม่มากก็น้อยอย่างนั้นเหรอ” ในหัวคิดวิเคราะห์ตามจนผุดความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในหัว
“ตั้งรับดีๆ นะดีไซน์ ที่ผ่านมาพี่เจอเธอช้าไป วันนี้เธอเป็นอิสระแล้วพี่จะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือพี่ไปเด็ดขาด” คำพูดสุดท้ายก่อนที่ร่างกำยำสมส่วนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ถ้ามีใครสังเกตดีๆ จะเห็นว่ารูปหน้าจอมือถือของชายหนุ่มเปลี่ยนไปจากคำว่า “Alone” เป็นรูปภาพหญิงหน้าตาสะสวยยิ้มหวานให้กับกล้อง