📚 บทที่แล้ว
คีย์พูดคำที่เจ็บที่สุดเพื่อผลักพริมออก ทั้งที่เขายังรักเธอเต็มหัวใจ
พริมเริ่ม “รับรู้ถึงความผิดปกติ” มากกว่าความเสียใจ
และเริ่มตัดสินใจ “ค้นหาความจริง” ด้วยตัวเอง
เพราะเธอเชื่อว่า คนที่พูดว่า..ไม่รู้สึกอะไรเลยนั้น
ยังรู้สึกอยู่ แต่กำลังซ่อนทุกอย่างเพราะกลัวบางอย่างมากกว่า
และวันนี้..เธอกำลังจะได้เจอบางสิ่งที่ยืนยันว่า..
พี่คิรันของเธอ ไม่ใช่แค่รุ่นพี่วิศวะธรรมดา
⸻
✦
🗝️👨🔧
“ถ้าพี่ไม่ยอมพูด หนูจะหามันด้วยตัวเอง”
⸻
🌤️ เช้า – โต๊ะเรียนในห้องอักษร
พริมวรานั่งมองชีทตรงหน้า
ตัวหนังสือเต้นระริก
เพราะในหัวเธอวนเวียนแต่เสียงของเขาเมื่อวาน
“ไม่รู้สึก”
“ไม่ได้ขอให้เธอเข้ามาอยู่ในชีวิตฉัน”
แต่เธอก็ยังจำได้ ในวันเดียวกัน
เขารับกล่องข้าวไว้เงียบ ๆ
ไม่ได้ปฏิเสธ!
และยังเงียบพอให้เธอเห็นว่า..เขากำลังสั่นเบา ๆ
⸻
💡 เที่ยง – ม้านั่งใต้ตึก
เธอหยิบสมุดบันทึกขึ้นมา
เปิดไปหน้าที่เคยจดชื่อของเขาไว้แบบล้อ ๆ
‘คิรัน กาญจนากุล’
“ถ้าจะเริ่มสืบ…” เธอพึมพำ
“ต้องเริ่มจากชื่อของเขา…ที่หนูคิดว่ารู้จักหมดแล้ว”
เธอเปิดแล็ปท็อป
เริ่มค้นจากฐานข้อมูลนิสิต
ผลการค้นหาธรรมดา — ไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่เมื่อเธอใส่คำว่า “คิรัน กาญจนากุล” + “ข่าว”
เธอพบลิงก์หนึ่ง…ที่เปิดไม่ได้เลย
แต่พอเข้าโหมด “เก็บถาวร” ของเว็บไซต์เก่า
ชื่อที่โผล่ขึ้นมาคือข่าวเก่าเมื่อห้าปีก่อน
“บุตรชายของผู้ต้องสงสัยในคดีอาวุธเถื่อนระดับนานาชาติ…หายตัวจากระบบ”
รูปที่แนบอยู่ — แม้เบลอ…แต่เธอรู้ทันทีว่าเป็นใคร
“พี่คิรัน…”
⸻
🪞 เย็น – หน้ากระจกในห้องเธอ
พริมมองตัวเองนิ่ง ๆ
“ไม่ใช่แค่เรื่องรักแล้ว…ใช่ไหมคะพี่”
“หนู…เริ่มกลัวแล้วค่ะ”
แต่…
ไม่ใช่กลัวเขา
แต่กลัวว่า เขาจะปกป้องเธอด้วยการ ทำลายความรักนี้ด้วยมือของเขาเอง
⸻
☎️ ดึกคืนนั้น – มือถือของคีย์
เสียงโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่มีชื่อดังขึ้น กริ่ง กริ่ง กริ่ง
เขากดรับโดยไม่พูดอะไร..?
เสียงปลายสายคือเสียงผู้หญิง
แผ่ว…แต่นุ่มแน่น
“พี่คิรันคะ”
เขานิ่งไป
“พริม…”
“หนูจะไม่ถามว่า พี่เคยอยู่ในโลกไหน สถานะไหน”
“แต่ถ้าพี่กำลังจะจากไป หนูแค่อยากรู้ว่า..
พี่จะปล่อยให้หนูเดินอยู่ในความไม่รู้ไปจนถึงที่สุดจริง ๆ เหรอคะ?”
เขาเงียบ
แต่ปลายทางไม่มีเสียงวางสาย
“พี่อาจปกป้องหนูจากอันตรายได้…”
“แต่หนูไม่แน่ใจว่า..พี่กำลังปกป้องหัวใจหนู…หรือกำลังทำลายมันอยู่กันแน่”
เธอกดวาง
ปล่อยให้อีกฝ่ายฟังคำพูดนั้นค้างอยู่ในความเงียบ
⸻
📌
คีย์เดินไปเปิดตู้เซฟใต้โต๊ะ
หยิบซองเอกสารเก่าใบหนึ่งขึ้นมา — บนนั้นมีรูปของเขาในอดีตกับชายคนหนึ่งที่หน้าเหมือน “Alek”
ข้างหลังรูป เขาเคยเขียนไว้ว่า..
❝หากวันใดที่เธอรู้ทุกอย่าง..?
ขอให้เธอยังมีรอยยิ้มอยู่กับใครสักคน แม้ไม่ใช่ฉัน❞
แต่วันนี้..!
เขากลัวว่า ถ้าเธอรู้
เธอจะไม่เหลือรอยยิ้มให้ใครเลย
⏳จะย้อนกลับไปยังช่วงที่
“คิรัน” ยังไม่ใช่เพียงนักศึกษาวิศวะที่ชอบซ่อมของอยู่เงียบ ๆ อย่างเดียว
แต่คือ “ลูกชายของคนที่ไม่มีวันปฏิเสธคำสั่ง” ในโลกใต้ดินได้
โลกที่ครั้งหนึ่ง เขาเคยคิดว่าตัวเอง ควบคุมมันได้
จนกระทั่งวันหนึ่ง เขา “สูญเสียแม่” เพราะเขาคิดผิด
📚 บทนี้จะค่อย ๆ เปิดเงาของอดีต
พร้อมกับความรู้สึกที่เขาไม่เคยกล้าพูดกับใคร
รวมถึงความกลัวลึกที่สุดของเขา
การรักใครสักคน…อีกครั้งหนึ่ง
⸻
✦
“เพราะวันนั้น ฉันยืนใกล้คนที่ฉันรักที่สุด…แต่ช่วยเธอไม่ได้เลย”
⸻
⏳ [6 ปีก่อน] – บ้านพักตระกูล “กาญจนากุล” เขตชานเมือง
เสียงประกอบอาหารในครัวดังคลอไปกับเสียงข่าวเศรษฐกิจ
เด็กหนุ่มวัย 16 ปีในชุดนักเรียน ม.ปลาย นั่งแงะของเล่นเก่า ๆ อยู่บนโต๊ะกินข้าว
“คีย์ พอได้แล้วลูก เดี๋ยวโต๊ะกินข้าวก็กลายเป็นโต๊ะซ่อมพังหมด”
เสียงหญิงวัยกลางคนหัวเราะ
เธอคือ “คุณรสา”
แม่ของเขา
ผู้หญิงคนเดียวในบ้านที่ยังเรียกเขาว่า “คีย์” ด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก ไม่ใช่คำสั่ง
“อีกแป๊บเดียวแม่ ผมจะแปลงมันให้เป็นนาฬิกาตั้งปลุกแบบใช้เซ็นเซอร์เลยนะ”
เธอเดินมาเช็ดเหงื่อให้เขา
ก้มมองลูกชายที่ไม่ยอมทิ้งไขควงแม้แต่ตอนข้าวจะขึ้นโต๊ะ
“แม่เชื่อว่า คีย์จะใช้มือซ่อมของ…ไม่ใช่ถือปืนเหมือนพวกเขา”
เขายิ้ม
“ผมไม่อยากเป็นมาเฟียครับแม่
ผมอยากเป็นช่าง…อยากซ่อมให้ทุกอย่างมันไม่พัง”
⸻
🌧️ เย็นวันนั้น – เสียงปืนจากนอกบ้าน
🔫 🏡 เกิดการลอบยิงที่หน้าคฤหาสน์
คีย์ในวัย 16 วิ่งออกมาจากครัว
เขาเห็นแม่ก้มลงบังตัวเขาไว้
ก่อนกระสุนลูกหนึ่งจะทะลุประตูมาโดนแม่เข้าที่หน้าอกเต็มแรง
เลือดกระจาย 🩸
ทุกอย่างชะงัก
“แม่!! แม่!!”
เขากอดร่างที่ค่อย ๆ เย็นลง และรู้สึก โกรธ แค้น
มือที่เปื้อนเลือด
เสียงรอบข้างหายไป
เหลือเพียงเสียงหัวใจเขา..ที่เหมือนจะหยุดเต้น
⸻
🩸 คืนนั้น – ห้องใต้ดิน
🚑 ศพแม่ถูกส่งไปตรวจสอบ
แต่ไม่มีใครในบ้าน “ยอมรับผิด” ว่ามาจากความขัดแย้งภายใน
เขาเดินลงห้องใต้ดินไปลำพัง
ในมือนั้น..คือชิ้นส่วนปืนพกสั้นที่เขาเคยแกะมาจากของเล่น
เขาวางมันลงตรงหน้าพ่อ
“พ่อบอกผมว่าทุกอย่างในบ้านนี้คือระบบ”
“แต่ถ้าระบบที่ว่านั้นฆ่าแม่..ผมขอไม่อยู่ในระบบนี้อีกแล้ว”
เขาฉีกตราประทับตระกูลออกจากเสื้อสูท
แล้วหันหลังออกไปอย่างเงียบที่สุดในชีวิต
⸻
💬 [ย้อนกลับปัจจุบัน] – เสียงในหัวของคีย์
“วันนั้น ผมยืนอยู่ใกล้แม่ที่สุด…”
“แต่ช่วยเธอไม่ได้เลย”
“ถ้าผมปล่อยให้พริมอยู่ใกล้ผมมากขึ้นอีก…
ผมกลัวว่า เธอจะเป็นอีกคนที่ผมจะ ‘กอดไว้ไม่ทัน’ เหมือนวันนั้น”
⸻
📌
😔 คีย์นั่งอยู่ลำพังในห้อง
มือเขาถือของชิ้นหนึ่งมันคือ..“นาฬิกาตั้งปลุกใช้เซ็นเซอร์” ที่เขาซ่อมไม่เสร็จเมื่อ 6 ปีก่อน
ตอนนี้มันถูกประกอบเสร็จแล้ว
เขาตั้งปลุกไว้ที่เวลา 19:47 น.
ซึ่งเป็นเวลาที่แม่เขาหยุดหายใจ
และเขาค่อย ๆ พึมพำคำหนึ่งกับตัวเอง
“ผมจะไม่ให้ใครต้องหยุดหายใจเพราะผมอีกแล้ว…”
“Alek” เริ่มปรากฏตัวในชีวิตของพริม ไม่ใช่ในฐานะศัตรู
แต่ในคราบของ “คนรู้จักแปลกหน้า” ที่เหมือนบังเอิญเจอกันหลายครั้ง
เขาไม่ได้พูดโกหกตรง ๆ แต่เลือกจะ “บิดเบือน”
เพื่อให้พริมเริ่มตั้งคำถามกับคีย์ และห่างออกไปเอง
“คำพูดที่อ่อนโยน” ทำร้ายใจคนที่เงียบได้มากกว่ากระสุน
และคนที่ยิ้มอาจเป็นคนที่มี “เงา” อยู่ในดวงตา
⸻
✦
“ถ้าความจริงบางส่วนถูกเล่าโดยคนแปลกหน้า มันจะกลายเป็นคำโกหกหรือเปล่านะ?”
⸻
☕ บ่ายวันพุธ – ร้านกาแฟหน้าคณะอักษร
🍹 พริมวรานั่งแก้วลาเต้ไว้ตรงหน้า
เธอไม่ได้สั่งของหวาน ทั้งที่ปกติชอบสั่งเค้กมูสรสแปลก ๆ
ข้าง ๆ มีชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีขาวสะอาด
นั่งอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่เงียบ ๆ
เธอไม่ทันสังเกต
จนกระทั่งเขาเงยหน้ามาถามเบา ๆ
“ขอโทษนะครับ…คุณเรียนภาษาจีนใช่ไหม?”
พริมเงยหน้าขึ้น
สบตาเขา — ชายหนุ่มตาคม ยิ้มบาง และมีบุคลิกสุขุมนุ่มลึกแบบไม่น่ากลัว
เธอพยักหน้า
“ใช่ค่ะ…ทำไมเหรอคะ?”
เขายกหนังสือขึ้น — เป็นพจนานุกรมจีนโบราณ
“ผมแปลไม่ออกตรงนี้นิดหน่อย เลยอยากขอคำปรึกษาเล็ก ๆ ครับ”
พริมยิ้มบาง ๆ
📝 หยิบปากกาขึ้นมา แล้วช่วยเขาแปล
⸻
📎 15 นาทีถัดมา
📝 บทสนทนาเลื่อนไปเรื่อย ๆ
จากภาษาจีน → มาถึงชื่อของเธอ → แล้วเขาก็พูดเบา ๆ ว่า..
“คุณเป็นคนใจดีนะครับ…น่าจะเป็นคนใกล้ชิดใครสักคนที่โชคดีมาก”
พริมยิ้ม
แต่รู้สึกแปลกนิด ๆ
คนแปลกหน้า…ไม่ควรพูดแบบนี้กับคนเพิ่งเจอกัน
“แล้วคุณเรียนอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”
ชายหนุ่มยิ้ม
“ไม่ได้เรียนแล้วครับ…ผมทำงานในเครือของ ‘คุณพงศ์ กาญจนากุล’ อยู่พักหนึ่ง”
เธอชะงัก
“คุณ…รู้จักคนในตระกูลนั้นเหรอคะ?”
เขาไม่ตอบตรง ๆ
แต่หยิบหนังสือขึ้นพลิกหน้า
“คนบางคน…มีโลกที่คุณอาจไม่อยากรู้จักหรอกครับ
และถ้าเขาเคย ‘ทำให้ใครต้องหายไป’…คุณแน่ใจเหรอว่าอยากอยู่ใกล้เขาต่อไป?”
⸻
☁️ อากาศเริ่มอึมครึม
พริมวราเงียบ
แต่ใจเธอสั่น — ไม่ใช่เพราะเชื่อทันที
แต่เพราะเขารู้ชื่อพ่อของคีย์…โดยเธอยังไม่เคยพูดออกไปเลย
ชายหนุ่มลุกขึ้นช้า ๆ
หยิบกระดาษใบเล็กวางไว้
“ถ้าวันหนึ่งคุณอยากรู้ว่าเขาเคยอยู่ตรงไหนของโลกนี้…
ลองไปที่นี่ตอนสามทุ่ม”
“แต่คุณต้องเลือกเองนะครับ
ว่าจะเดินต่อไปทั้งที่ยังไม่รู้ทุกอย่าง…หรือจะหันหลังตอนที่ยังปลอดภัยอยู่”
⸻
📌
เมื่อเขาเดินออกไป
พริมเปิดกระดาษนั้นดู — มีแค่ชื่อสถานที่เก่าแห่งหนึ่งในเขตท่าเรือ และเลขห้อง “B-12”
เธอเม้มปากแน่น
ในใจมีคำถามใหม่ ๆ พุ่งเข้ามาไม่หยุด
“เขาคือใคร…”
“ทำไมถึงรู้เรื่องพี่คิรันแบบที่หนูยังไม่เคยได้ยินจากปากพี่เลย…”
เธอหยิบมือถือขึ้นมา
เลื่อนไปยังเบอร์ที่ถูกเมมไว้ว่า พี่คิรัน
แต่ยังไม่กดโทร
เธอแค่จ้องมัน
และพูดเบา ๆ กับตัวเอง…
“ถ้าหนูเดินไปที่นั่น…พี่จะยังอยากให้หนูอยู่ข้าง ๆ เหมือนเดิมไหม…”
จะเดินสองเส้นทางไปพร้อมกัน
ฝั่งของ พริม ที่ตัดสินใจเดินเข้าสู่ความจริงเพียงลำพัง
และฝั่งของ คีย์ ที่รู้ว่า Alek กำลังเคลื่อนไหว
เขาไม่มีเวลาอีกแล้วที่จะ “ซ่อนเธอ” ด้วยความเงียบ
ถึงแม้เขาจะถอยออกมาเพื่อปกป้อง
แต่วันนี้…
เขาจะถอยอีกไม่ได้
⸻
✦
“เธอกำลังเดินเข้าสู่ความลับที่ฉันเคยหลบซ่อนไว้
แต่ต่อให้ฉันห้ามไม่ทัน ก็จะไม่ปล่อยให้เธอเดินอยู่ในนั้นคนเดียว”
⸻
🕖 เวลา 19:48 น. — หอพักพริม
พริมวรายืนลังเลอยู่หน้ากระจก
เธอสวมเสื้อฮู้ดเรียบ ๆ กับกางเกงยีนส์
กระเป๋าสะพายมีแค่โทรศัพท์, บัตรนักศึกษา และโน้ตที่ Alek ทิ้งไว้
เธอไม่บอกใครว่าไปไหน
แม้กระทั่งรุ่นพี่สนิทที่เรียนอักษรด้วยกัน
“ถ้าหนูไม่ไป…
หนูก็จะไม่มีวันรู้เลยว่าคนที่พยายามผลักหนูออก…กำลังหนีอะไรอยู่”
⸻
🕣 เวลา 20:30 น. — ห้องของคีย์
คีย์นั่งอยู่ในห้องเงียบ ๆ
มือเขาถือมือถือที่มีตำแหน่งของพริมปรากฏอยู่
(เขาเปิดระบบติดตามไว้…เธอไม่รู้)
จุดสีแดง…กำลังเคลื่อนไปยัง โกดังเก่าท่าเรือ B-12
เขาเงียบ
ขากรรไกรเขากัดแน่น
ก่อนจะลุกขึ้น หยิบแจ็กเก็ตหนัง และกล่องเหล็กเล็ก ๆ ใต้เตียง
ในกล่องมี “ปืนพก” รุ่นเก่าที่ไม่ได้ใช้มาหลายปี
และจดหมายฉบับหนึ่ง — ที่เขาเขียนทิ้งไว้ หากไม่กลับมา
“หนีจากฉันเธออาจเสียใจ…
แต่เดินเข้ามาหาฉัน เธออาจเสียเธอเองทั้งชีวิต…”
เขาเก็บปืนไว้ใต้เสื้อ
หยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ แล้วหายไปในความมืด
⸻
🕘 เวลา 21:00 น. — โกดังท่าเรือ B-12
พริมเดินมาถึงสถานที่ที่ Alek ระบุไว้
โกดังเก่าที่มีประตูเหล็กขึ้นสนิม กับกลิ่นของน้ำทะเลแทรกกลิ่นฝุ่น
ภายใน…เงียบ
มีเพียงแสงไฟเพดานดวงหนึ่งส่องลงมายัง “โต๊ะไม้” ตรงกลาง
มีรูปถ่ายหลายใบ — ทั้งข่าวเก่า, เอกสารลับ, และภาพของชายคนหนึ่งในสูทดำ
“คุณพงศ์ กาญจนากุล”
(พ่อของคีย์)
และข้าง ๆ รูปนั้นคือ “Alek” ในภาพถ่ายหลายใบ
แต่ที่ทำให้พริมตัวชา คือภาพหนึ่งที่เห็นคีย์ในวัย 16
ยืนอยู่ในห้องเดียวกับศพผู้หญิงคนหนึ่งที่เปื้อนเลือด
เธอแทบหายใจไม่ออก
ไม่ใช่เพราะกลัว
แต่เพราะรู้แล้วว่า..
เขาเคยสูญเสีย “แม่” ไปต่อหน้าต่อตา
⸻
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้น
Alek ปรากฏตัวจากเงามืด
ยิ้มบาง ๆ และเดินเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบ
“ผมรู้ว่าเธอจะมา”
พริมพูดเสียงสั่น
“คุณเอารูปพวกนี้มาเพื่ออะไร…”
“เพื่อให้เธอเห็นว่า โลกของเขา ไม่ได้มีแค่รักกับข้าวกล่อง”
“คีย์อาจดูเหมือนคนเงียบ แต่เขาเคยอยู่ตรงกลางของสงครามในนรกมาแล้ว”
เธอสั่น
แต่ยังยืนอยู่ตรงนั้น
ไม่ถอย
“แล้วคุณเป็นใครกันแน่”
Alekยิ้ม
“คนที่พยายามดึงเขากลับมา…เพราะเขาคือหัวใจขององค์กรหนึ่งที่เคยไร้เทียมทาน”
“และถ้าเขาไม่กลับมา เธอจะเป็นคนแรกที่หายไป”
⸻
💥 ทันใดนั้น
เสียงกระสุนยิงเฉียดเข้ากำแพง
Alek ชะงักหันหลังไปเจอชายร่างสูงในชุดดำที่เธอคุ้นตา
คีย์ยืนอยู่ตรงนั้น
ในแววตาไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
“ขยับอีกนิดเดียว..ฉันจะยิงจริง ๆ”
“อย่าแม้แต่จะคิดแตะเธอ”
⸻
📌
Alekยิ้ม
เดินถอยช้า ๆ อย่างไม่รีบร้อน
“ฉันบอกแล้วใช่ไหม…
ว่าสุดท้าย นายก็จะเป็นคนพาเธอเข้ามาในโลกของนายด้วยมือของนายเอง”
เสียงรองเท้าเขาหายไปในเงา
เหลือแค่คีย์กับพริม — ในโกดังที่ยังมีแสงไฟส่องลงมาเบา ๆ
พริมมองหน้าเขา
ในมือยังถือภาพถ่ายวันนั้น
“พี่เคยบอกว่า…อยากให้หนูอยู่ในโลกที่ไม่มีพี่
แต่ตอนนี้ หนูไม่แน่ใจว่า
พี่ต่างหากที่อยู่ในโลกที่ไม่มีใครเลย…”
𑁍ࠬܓ 𓇢𓆸 ⟣┄─ ˑ ഒ ꫂ ၴႅၴ ❀ ( ၴႅၴ