DANGEROUS LOVE : 10

1122 Words
[Chernarin Talk] ฉันนั่งเช็ดผมตัวเองพลางมองปลายเท้าข้างซ้าย แล้วหยุดยิ้มออกมาซ้ำๆ เหมือนคนบ้าก็ไม่ปาน ใครจะคิดล่ะว่าจะมีโอกาสได้มาใกล้ชิดคนที่แอบชอบมาตั้งหกปี แถมยังได้เรียกเขาว่า เฮีย อีก งุ้ยๆๆๆ เขินจัง แค่คิดก็มีความสุขแล้ว Line~ Line~ ฉันลุกเดินไปหยิบมือถือมาเปิดดูไลน์กลุ่มที่มีทั้งใยไหมและปังปอนด์อยู่ในนั้นด้วย อิปังไลน์มาทำไม ไหนบอกจะไปเที่ยวกับพวกรุ่นพี่ที่คณะ Pung_pond : ส่งรูปภาพให้คุณ Pung_pond : บอกได้คำเดียว เละ! Pung_pond : ส่งตำแหน่งที่ตั้งให้คุณ พอเห็นรูปที่ปังปอนด์ส่งมาให้เท่านั้นแหละ ไม่ต้องคิดเลย ฉันรีบแต่งตัวในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนจะพาตัวเองไปยังตำแหน่งที่ตั้งที่ปังปอนด์ส่งมาให้ทันที พี่สาวฉันเมาเละเทะขนาดนั้นได้ยังไงกัน ว่าแต่มันไปกับใครนะ ทำไมเขาถึงปล่อยให้พี่สาวฉันมีสภาพแบบนั้นได้ ไม่นานฉันก็มาหยุดยืนอยู่หน้าผับ The one ที่อยู่ไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ฉันเท่าไหร่นัก ก่อนจะไลน์หาปังปอนด์ แต่มันกลับบอกว่าไม่เห็นพี่สาวฉันซะแล้ว มันเผลอหันไปชนแก้วกับผู้แป๊บเดียวก็หายไปเลย ฉันเลยบอกให้มันออกมาหาฉันข้างนอก เพราะฉันไม่อยากเข้าไปในนั้น ควันบุหรี่เป็นศัตรูตัวฉกาจของฉัน “เก่งนักเหรอมึง ฮะ!” ผลัวะ!!...ตุบ...ปึก...ปึก ระหว่างที่ฉันนั่งรอปังปอนด์อยู่ ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนตีกันอยู่ด้านข้าง ตรงซอกตึกนั่น แต่ฉันไม่กล้าไปดูหรอกนะและอีกอย่างมันไม่ใช่เรื่องของฉัน “ไม่เก่ง แต่ไม่ลอบกัดเว้ย!” เอ๊ะ!!! แต่เสียงนี่มัน ฝีเท้าฉันที่ตอนแรกจะถอยออก กลับก้าวไปข้างหน้าตามเสียงนั่นแบบไม่รู้ตัว ไม่ผิดแน่ ฉันจำเสียงเขาได้แม่นจนติดหู และภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจพลางเอามือขึ้นปิดปากตัวเอง นั่นมันเฮียวาโยจริงๆ ด้วย และเขากำลังโดนรุมทำร้าย “อย่านะ! อย่าทำนะ!!” ปึกกก ฉันหลับหูหลับตาวิ่งเข้ามากางแขนขวางตัวเฮียวาโยเอาไว้เมื่อคนพวกนั้นกำลังง้างไม้หน้าสามกำลังจะฟาดใส่เขา ก่อนจะรู้สึกว่าตัวเองถูกกอดไว้แน่นและเกิดแรงสั่นสะเทือนจนรู้สึกได้ ฉันลืมตาขึ้นเห็นเฮียวาโยกดหัวฉันไว้แน่นแนบอก และเอี้ยวตัวไปถีบคนพวกนั้นให้พ้นทาง จับมือฉันวิ่งออกมาจากตรงนั้นทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนตั้งตัวไม่ติด ฉันทั้งกลัว ทั้งตกใจ ทำอะไรก็ไม่ถูก เฮียวาโยดันร่างฉันเข้ามาหลบในช่องแคบๆ ที่ไหนสักแห่ง และเขาก็ตามเข้ามาพร้อมกับดึงร่างฉันแนบอกแกร่งไว้แน่น ฉันตัวสั่นเทาไปหมด ใจก็กระหน่ำเต้นโครมครามไม่หยุด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวพวกนั้นหรือเพราะอ้อมกอดของคนตรงหน้ากันแน่ ฉันเงยหน้าขึ้นมองมุมปากที่มีเลือดไหลออกมาและอดที่จะเอื้อมมือขึ้นไปเช็ดไม่ได้ “เจ็บมะ…” ชู่วววว์~ ฉันยังไม่ได้ถามจนจบประโยค นิ้วมือเรียวยาวของเขาก็ถูกยกมาแตะที่ปากฉันซะก่อน อ้อมกอดถูกกระชับให้แน่นขึ้นทันทีเมื่อคนพวกนั้นมาหยุดอยู่แถวด้านหน้าเพื่อวนหาเราสองคน เขากดหัวฉันแน่นจนได้ยินเสียงใจที่เต้นแรงมากๆ ของเขา “แม่งเอ๊ยย!! หายหัวไปไหนวะ!! อย่าให้กูเจอนะมึง ไป!!!” ฉันสะดุ้งเฮือกกับเสียงที่ดังอยู่ด้านนอก ก่อนพวกนั้นจะพากันวิ่งไปทางอื่น เฮียวาโยชะโงกหน้าออกมาดูนิดหนึ่ง ก่อนจะพาฉันวิ่งออกมา ตรงไปขึ้นรถเขาที่จอดอยู่ด้านหลังและขับออกมาด้วยความเร็วทันที เอี๊ยดดดด รถถูกหักเข้าข้างทางก่อนจะจอดสนิทแบบไม่ปกติ หลังจากที่เขาขับออกมาได้พักใหญ่และไกลจากผับมามากแล้ว และคอยดูนะ ฉันต้องโดนว่าอีกแน่ “ใครใช้ให้เธอเอาตัวเข้าไปบังแบบนั้นฮะ!!!” นั่นไง...ว่าแล้วเชียว ฉันเลือกที่จะนั่งเงียบๆ ไม่ตอบโต้ เพราะดูเหมือนอารมณ์เขาน่าจะกำลังร้อนเอามากๆ ฉันไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไร น่าจะเป็นเรื่องที่เขารีบร้อนไปเมื่อตอนเย็น และมันคงเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับเขาแน่ๆ คิ้วหนาผูกกันจนยุ่งไปหมด เนื้อตัวคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าและบุหรี่จนตลบอบอวล ปึกกก! “แม่งเอ๊ย!!!” ฉันสะดุ้งสุดตัวเลย เมื่อร่างหนาเอามือขึ้นทุบพวงมาลัยรถพร้อมกับสบถออกมาเสียงดังลั่นด้วยความโมโห ก่อนเขาจะเลื่อนกระจกฝั่งตัวเองลงจนสุด และล้วงซองศัตรูตัวฉกาจของฉันออกมาจากกระเป๋า แค่เห็นซองฉันก็หายใจไม่ทั่วท้องแล้ว เขายังจะหยิบมันออกมาจุดสูบโดยไม่สนใจฉันเลยสักนิด มือเล็กพยายามจะเปิดประตูรถแต่มันเปิดไม่ได้ เพราะเขาล็อกไว้ ฉันต้องตายแน่ๆ เหงื่อผุดออกเต็มกรอบหน้าแล้วตอนนี้ มือไม้สั่นไปหมด หายใจก็เริ่มติดขัด แต่ดูเหมือนเขาจะสังเกตเห็นอาการของฉัน “เป็นอะไร” “นะ...หนู แพ้ควันมัน” สิ้นเสียงฉัน บุหรี่ตัวนั้นถูกโยนออกไปทันที กระจกฝั่งฉันถูกเลื่อนลงพร้อมกับตัวเขาที่เปิดประตูอ้าไว้แล้วลงจากรถไปพ่นควันสีเทาออกจากปากอยู่ข้างนอกที่ห่างจากตัวรถสักระยะ ก่อนเขาจะใช้มือปัดไล่กลุ่มควันพวกนั้นจนหมดและกลับเข้ามานั่งหลังพวงมาลัยรถเหมือนเดิม “คะ…” “ไม่ต้องถาม นั่งเงียบๆ ไป” สิ้นเสียงทรงอำนาจของเขา รถก็แล่นออกมาจากตรงนั้นทั้งที่กระจกยังเปิดอยู่ทั้งสองข้าง ฉันอยากจะถามว่าเขาเป็นยังไงบ้าง เจ็บมากไหม ก็ไม่กล้าเลย ได้แต่นั่งเงียบตามคำสั่ง แต่เอาจริงๆ เขาดูเป็นห่วงฉันเหมือนกันเนอะ ช่วงนี้เราบังเอิญเจอกันบ๊อย...บ่อย พรหมลิขิตรึเปล่านะ บ้าน้า...หนูเฌอ มันใช่เวลามาคิดเรื่องนั้นไหม แต่ก็ขอนิดหนึ่งแหละ...เนอะ เมื่อกี้ถ้าฉันถูกตีคงสลบอะ แต่เป็นการเสี่ยงที่โคตรคุ้มค่ามากเวอร์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD