เมื่อมาถึงค่ายอ๋องหนุ่มก็จับเอวบางอุ้มลงจากอาชาตัวใหญ่ใบหน้าสวยนั้นหงิกงอ ผมเผ้ายุ่งเหยิงดิ้นลงจากการโอบอุ้มของเขาแล้วเดินกะโผลกกะเผลกใบหน้าเหยเกเข้ากระโจมไปนั่งหน้าหงิกอยู่ที่โต๊ะน้ำชา “เจ้าเป็นอะไร?” ถามด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวแต่ในใจนั้นกลั้นขำจนแทบไม่อยู่ นางทำสีหน้าฮึดฮัดเหมือนเด็กถูกขัดใจส่งสายตาดุคาดโทษมาให้เขาทำปากขมุบขมิบ น่าจะบ่นด่าว่าเขานั่นล่ะ คิดหรือว่าคนอย่างเขาจะไม่ได้ยิน แค่เสียงลมพัดผ่านยังเข้าหูเลย “อีอ๋องบ้า ขี่ม้านึกว่าขี่จรวด กระแทกเสียแรงยังนั่งหน้านิ่งอยู่ได้ไม่เจ็บไข่บ้างหรือไงนะ” “พรวด! แค่ก ๆ” ชินอ๋องหยวนจางหมิงกำลังยกถ้วยชาขึ้นดื่มถึงกับสำลัก ไม่นึกว่าสาวเจ้าจะกล้าพูดแบบนี้ออกมาได้ไม่กระดากปาก ใบหน้าร้อนผ่าวจนเก็บอาการไม่อยู่ พอหันไปก็เห็นสององครักษ์ยืนก้มหน้าตัวสั่นเพราะกลั้นหัวเราะก็ยิ่งนึกอาย “ออกไป” สั่งด้วยน้ำเสียงดุดันก่อนจะยกชาขึ้นดื่มอีกครั้ง “พ่ะ

