อั้มที่เห็นว่ากุญแจที่ถูกคล้องไว้เฉย ๆ จึงรีบก้าวเดินเข้าไปและเปิดออกทันที ก็พบกับคนที่เขากำลังตามหา ซึ่งภาพที่เห็น…. คือเธอที่ถูกมัดไว้และมีอาการช็อก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“พี่ทีน! พี่ทีน!” หลังจากที่อั้มเรียกด้วยความตกใจและรีบแก้มัดให้กับเธอผู้เป็นเจ้านายของเขาและได้โผล่เข้ากอดร่างของเธอผู้เป็นเจ้านายของเขาไว้เพื่อพยายามปลอบเธอที่อยู่ในอาการตกใจอยู่
“พี่ทีนไม่….ไม่เป็นไรแล้วนะ..ไม่..น้องอยู่ตรงนี้แล้ว”
อั้มที่พูดอย่างตะกุกตะกักคอยกอดเธอไว้แน่น และแน่นขึ้น…
“พี่หยาง! พี่หยางตะ..ตาย..แล้ว” เธอที่แค่นพูดด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักสั่นเครือในอ้อมกอดของอั้ม ลูกน้องคนสนิท
“ไม่…ไม่…พี่ทีน ไม่เอา..ไม่มอง มองน้อง”
…..กริ๊ดดดดดดดด……
“มะ..ไม่ ไม่เอา พี่หยางไม่เอา..”
เธอที่ยังคงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจนมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บไปทั้งอกปานจะขาดใจตายตามสามีของเธอไป ทั้งยังพยายามพลักอั้มออกเพื่อเข้าไปหาสามีผู้เป็นที่รักของเธอ
“มะ…ไม่เอา..ไม่มองพอแล้ว! มองน้อง มองน้อง..” อั้มที่พยายามจับใบหน้าของเธอให้มองมาที่เขาเพียงเท่านั้น
กริ๊ดดดดดดด
“ละ…เลือดๆ เลือด”
เธอที่พูดด้วยอาการช็อกสุดขีด เก็บกลั้นเสียงร้องไห้จนแทบจะเสียสติและสลบลงตรงนั้น… ทุกคน ทุกสายตา มองเธอด้วยความตกใจ ซึ่งทุกคนต่างรู้ดีว่าเธอคงเสียใจปานจะขาดใจตายตามสามีของเธอไป….
14.27 น. ห้องพยาบาลของเซฟเฮ้าส์ 🏡
เธอตื่น ด้วยอาการที่ยังคงช็อคอยู่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงนึงขึ้น.. 'กริ๊ดดดดด' เธอกรี๊ดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากภาพของเมื่อคืนที่โผล่ย้อนเข้ามาให้เธอได้นึกถึงหลังจากนั้นอั้มที่ได้ยินเสียงกรี๊ดก็รีบวิ่งตามเสียงเข้ามาทันที
“พี่ทีน พี่ น้องอยู่นี่ น้องอยู่ตรงนี้ใจเย็นๆนะ”
อั้มที่พยายามกอดปลอบเธอพยายามเรียกสติให้เธอได้ใจเย็นขึ้นอีกครั้งพยายามกอดเธอให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้
“อั้ม…อะ…อั้ม พี่…….” เธอที่พยายามพูดทั้งที่มีแต่เสียงสะอื้นตะกุกตะกักแถมยังคงร้องไห้ออกมา
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้ว น้องอยู่ตรงนี้ น้องจะอยู่กับพี่ ที่ตรงนี้ไม่ไปไหน"หลังจากที่เธอสามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้ง ซันและทรายก็ได้พาพลอยกับปุณณ์เข้ามาในห้องที่เธอพักรักษาตัวอยู่ ทั้งคู่ที่ต่างเห็นแม่ของพวกเขาแล้วต่างพากันร้องไห้ รีบวิ่งเข้ากอดแม่ของพวกเขาทันที
ปุณณ์เด็กชายในวัยเพียง 12 ขวบ และพลอยสาวน้อยวัย 15 ขวบ ต่างกอดแม่และร้องไห้
“แม่ ป๊า ป๊าทิ้งปุณณ์กับพี่พลอยไปแล้ว” เด็กชายผู้พูดทั้งน้ำต
“แม่ปุณณ์.....อยากเจอป๊าแต่พี่พลอยบอกว่าไม่ได้มันอันตราย ป๊าตายจริงๆเหรอครับแม่ แต่ทำไมถึงไม่มีงานศพของป๊าล่ะ ทุกคนหลอกปุณณ์ใช่มั้ย ใช่มั้ยแม่”
“พี่ซัน พี่ทรายใจร้ายพวกพี่ทุกคนใจร้ายไม่ให้ปุณณ์ไปหาป๊า” เด็กน้อยพูดทั้งน้ำตา โดยพลอยผู้เป็นพี่ก็ทำได้แค่เพียงดึงน้องไปกอดแทนแม่เพียงเท่านั้นเพราะแม่ก็ยังอยู่ในอาการช็อคอยู่เช่นเดียวกัน
“คุณปุณณ์ คุณพลอยคะเราต้องไปกันแล้วนะคะ”
ทรายพูดขึ้นหลังจาก เด็กน้อยพูดจบได้ไม่นาน
“เดี๋ยวจะไม่ทันเครื่องกันแล้วนะคะ”
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้เด็กๆจะต้องไปอาศัยอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
เพราะที่นั่นจะปลอดภัยที่สุดเพราะอย่างน้อยนามสกุลหยาง ที่ต่อท้ายชื่อของเด็กๆอยู่นั้นจะไม่มีใครกล้ายุ่งกับเด็กๆอีกแน่นอน
เพราะอำนาจและอดีตลูกน้องของคุณพ่อของหยางนั้น จะคอยเป็นที่คุ้มกันให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี และหลังจากที่เด็ก ๆ ได้ย้ายไปอยู่ที่สิงคโปร์โดยมีคนดูแลอย่างซัน กับทรายตามไปด้วยก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่ไทยเพื่อจัดการเรื่องทั้งหมด สามารถโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง
เพราะด้วยอาการของหญิงสาวผู้เป็นแม่ที่ต้องรักษาอาการช็อคและโรคซึมเศร้าอยู่นานนับปีในเซฟเฮ้าส์ โดยมีอาหมอคนสนิทของสามีคอยดูแลอย่างใกล้ชิดส่วนเรื่องของหยางที่ทำให้ทุกคนต่างแตกสลายไปตาม ๆ กันก็ทำได้แค่เพียงทำพิธีแบบเร่งด่วน ฝังตามพิธีกรรมของคนจีนโดยที่ไม่มีการจัดงานใด ๆ ขึ้นเพราะกลัวว่าพวกของภูมินทร์จะย้อนกลับมาทำร้ายอีก โดยมีเพียงน็อตและน้ำพุเพื่อนของสองเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดแทน เพราะสองเองที่ตอนนี้ก็ยังคงรักษาตัวอยู่ด้วยอาการโคม่าและหยุดหายใจไปถึง 2 ครั้ง ซึ่งคอยมีภูและธีร์ดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยอีกแรง ในเซฟเฮ้าส์ที่เดียวกันกับหญิงสาว โดยจะมีน็อตกับน้ำพุที่คอยมาสลับดูแลสองอย่างไม่ห่างด้วยเช่นกัน
3 เดือนผ่านไป 🌻
สองที่ฟื้นขึ้นอีกครั้ง แต่กลับจำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องราวของตัวเอง แต่กลับจำได้เพียงเรื่องราวของหยางเพียงเท่านั้น
“เฮ้ย!! ไอ้สองมึงตื่นแล้วหรอวะ? ไอ้พุ! ไอ้สองตื่นแล้วเว้ย”
เสียงของน็อต ตื่นเต้นและดีใจอย่างมากที่เพื่อนรักอย่างสองฟื้นขึ้นแต่ทว่าเมื่อสองตื่นขึ้น กลับทำหน้างงและสงสัย กับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น“น็อต?? น้ำพุ??....เหรอ?”
สองพูดขึ้นเพียงสั้น ๆ ทั้งยังทำหน้างง ปนสงสัย
“มึงจำกูได้ หรือมึงจำกูไม่ได้กันแน่ว่ะเนี่ยทำหน้าอย่างกับคนไม่เคยรู้จักกัน”
น็อตบ่นขณะที่สองยังคงทำหน้าสงสัยใส่
“ลูก ลูกกูอ้ะ ลูกกู เป็นไงบ้าง” สองที่ตื่นขึ้นด้วยอาการตื่นตกใจ และโวยวายร้องเรียกหาเด็กๆ
“เดี๋ยว เดี๋ยวนะ ไอ้สองมึงยังไม่มีลูกนะ เมียมึงยังไม่มีเลยมึงสับสนหรือ งงอะไรตรงไหนวะเนี่ย?” เพื่อนรักอย่างน็อตถามด้วยความสงสัย
“สอง?......สองเหรอ”
“เออ..มึงอ้ะสอง มึงสงสัยอะไรเนี่ยหรือมึงจำตัวเองไม่ได้ว่ะมึงมีอาการอะไรบ้าง ปวดหัวมั้ยกูเรียกหมอให้เอามั้ย”
น็อตที่ยังคงถามย้ำกับเพื่อนรักตรงหน้าเขาอย่างเป็นห่วงและเป็นกังวลอย่างมากกับอาการของเพื่อนรัก
“ไม่…ไม่ต้อง…ไม่เป็นไร”
“มึงแน่ใจนะ”
“แน่…แน่ใจ เอ่อ…เออ ลูกที่หมายถึงคือคุณพลอยกับคุณปุณณ์อ่ะเป็นยังไงบ้าง”
สองที่กลับเปลี่ยนคำถามแทน
“อ่อ..พวกเด็กๆอ่ะนะปลอดภัยดีมีลูกน้อง ที่ชื่อซันกับทรายพาไปอยู่ที่สิงคโปร์ได้ 3 เดือนแล้ว”
น็อตตอบให้เพื่อนรักอย่างสองฟัง
“กูเป็นห่วงเด็กๆ กูจะไปหาเด็กๆ” สองพูดขึ้นด้วยท่าทางกระวนกระวายต้องการที่จะกระชากสายน้ำเกลือที่อยู่บนตัวออก
“เดี๋ยวๆไอ้สองมึงใจเย็นมึงน่ะเพิ่งจะฟื้นมึงต้องนอนพักอีกก่อน” น๊อตพูดทั้งที่พยายามจะดึงมือเพื่อนออกไม่ให้แกะสายน้ำเกลือที่อยู่บนตัวออกหลังจากพักฟื้นมาได้ 1 อาทิตย์หลังจากตื่นขึ้นมาอีกครั้งของสองโดยที่สองก็ยังคงต้องอยู่อาศัยที่เซปเฮ้าส์ไปก่อนจนกว่าอาการของเธอเธอผู้เป็นเจ้านายจะดีขึ้น
🌻
น๊อต น้ำพุ และสองที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก
“ไอ้สองพวกกูรู้นะว่ามึงยังแอบชอบทีนเขาอ่ะ”
น็อตพูดขึ้น สองที่ได้แต่นั่งเงียบและทำหน้างงกับเรื่องที่น็อตกำลังพูดอยู่นั้น
“กูไม่รู้นะว่ามึงหลังจากนี้มึงจะเอายังไงต่อกับทีนเขา”
น้ำพุพูดเสริม
“มึงจะอยากดูแลทีนเขาเต็มตัวแทนผัวที่ตายไปมั้ย?”
น็อตพูดโดยที่มีน้ำพุ ที่คอยพยักคอตาม
“กูก็จะอยู่ข้างมึงเสมอไม่ว่ามึงจะเลือกทางไหนก็ตาม”
น็อตพูดขณะที่ตบบ่าเพื่อนรักอย่างสองเบาๆ
“ที่พวกมึงพูดหมายความว่ายังไงว่ะ น็อต น้ำพุ”