เชื่อมั่นอีกครั้ง

1485 Words
“มึงเนี่ยนะ…น็อต…มึงร้อง? ...มึงจะร้องทำไมวะ?” สองถามกลับด้วยความสงสัยกับสิ่งที่น้ำพุได้พูดและเล่าให้ฟังขึ้น “มึงก็รู้นี่ว่านอกจากเนลไอ้พุกูก็ไม่มีใครแล้วนะ นอกจากมึงอ่ะสองเราไม่ใช่แค่เพื่อนกันนะเว้ยไม่ใช่แค่โตมาด้วยกันแค่นั้นด้วย” “แต่สำหรับกูพวกมึงคือครอบครัวนะ” “มึงรู้ป่ะทุกครั้งที่มึงจะทำอะไรกูกับไอ้น็อตจะไม่เคยห้ามมึงเลยแต่สำหรับครั้งนี้กูกลับคิดเหมือนไอ้น็อตทุกอย่างเลย่วะ วันที่มึงโดนยิงไม่ใช่ว่ากูจะไม่เสียใจไม่กลัวมึงตายนะแต่ถ้าตอนนั้นกูเป็นแบบไอ้น็อตไปด้วยอีกคนใครจะดูแลจัดการเรื่องของมึง ใครจะคอยอยู่เป็นเพื่อนเพื่อปลอบใจไอ้เพื่อนเวรนี่อีก” “กูขอบใจพวกมึงนะน้ำพุ น็อต ขอบใจที่พวกมึงเป็นห่วงกูมากขนาดนี้” “เออ….และถ้ามึงยังยืนยันคำเดิมว่า…จะยังอยู่ต่อในจุดนี้ก็เอาไงก็เอากันวะในเมื่อห้ามมึงไม่ได้ก็เข้าร่วมแม่งเลย” “มึงจะเอากับกูไหมครับคุณน้ำพุ ธันวาธร” “แล้ว….? กูมีสิทธิ์ที่จะบอกว่าไม่ด้วยหรอในเมื่อมึงสองคนตัดสินใจแบบนี้กูก็ต้องอยู่กับพวกมึงอยู่แล้วป่ะ” ฮ่า ๆ ๆ “ตามสัญญาว่าพวกเรา 3 คนจะไม่มีวันทิ้งกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม” น็อตกล่าวให้นึกย้อนกลับไปตอนที่ยังเรียนในวันงานสีดำงานหนึ่งที่โลงศพ 2 โลงวางเคียงคู่กันโดยมีน็อตกับเนลนั่งอยู่ข้างกันกับ 2 โลงนั้น ‘กระผมนายพีระวิชญ์ ธนวรกุล กับผมนายน้ำพุ ธันวาธรขอสัญญาต่อหน้าพ่อกับแม่ ว่าพวกผม 2 คนจะไม่มีวันทิ้งน็อตกับเนลเด็ดขาดครับผม 2 คนจะร่วมกันดูแลน็อตกับน้องให้ดีจะไม่มีวันทิ้งมันแน่นอนต่อให้วันข้างหน้าจะทุกข์หรือจะสุขเพียงใดก็ตาม พวกเราขอสัญญาว่าจะไม่มีวันทิ้งมันแน่นอนครับพ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ’‘มึงสัญญากับกูและสัญญากับพ่อแม่กูแล้วนะว่าจะไม่มีวันทิ้งกูพวกมึงสองคนห้ามทิ้งกูนะกระผมนายพีระวิชญ์ ธนวรกุล’ ‘กระผมนายน้ำพุ ธันวาธร’ ‘และกระผมนายอชิระ ตั้งวรินทร สัญญาจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขก็จะผ่านมันไปด้วยกัน’ “เออ แล้วแผนของมึงคืออะไรวะ" น้ำพุ ถามขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ทั้ง 3 คนเงียบกับบทสนทนาอยู่ครู่นึง “กูก็ยังไม่รู้เลยว่ะ ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนเพราะตอนนี้ทีนกับอั้มก็กำลังฝึกอยู่และอีกอย่างกูก็เป็นห่วงเด็กๆ ทั้งสองคนด้วย” “เออกูเข้าใจนะแต่มึงจะเริ่มทำทุกอย่างโดยที่ไม่มีแผนกูว่าได้พังหรือตายของจริงแน่" “เอออันนี้กูเห็นด้วยกับไอ้พุว่ะ” “แล้วมึงมีอะไรเสนอกูมั้ยน้ำพุเผื่อมันจะดีเพราะตอนนี้กูคิดหลายเรื่องจนสมองกูจะไม่ทำงานละ” “งั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือหาเสือเพื่อล่อเหยื่อออกมาก่อนเป็นอันดับแรกและค่อยจัดการที่เหลือ" “ยังไง/ยังไง?” ทั้งสองและน็อต ต่างอุทานออกมาพร้อมกัน “ในเมื่อคืนนั้นมันยังไม่ได้ในสิ่งที่มันต้องการไปมันก็ต้องลงมืออีกรอบ แต่ในเมื่อเราเองก็ไม่รู้ว่ามันต้องการอะไรกันแน่ก็มีแค่อย่างเดียวคือ…หาคนที่สามารถรู้เรื่องของมันให้ได้ก่อน” “แล้วมึงจะให้ใครเป็นคนล่อ? ถ้าเป็นกูมันคงจะไม่ออกมาหรอก เพราะกูคิดว่ามันคงไม่คุ้มเพราะกูเป็นแค่ลูกน้องแต่ถ้าเป็น….ทีน…..ไม่ได้ว่ะกูไม่ยอมกูไม่ยอมที่จะให้ทีนเขาไปเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้แน่” “มันเสี่ยงเกินไปกูไม่ยอม” “แต่กูว่ามึงต้องยอมว่ะเพราะตอนนี้มีแค่ทีนคนเดียวที่จะตกเป็นเป้าหมายรายต่อไปไม่มีตัวเลือกอื่น” “แล้วยังไงต่อวะถ้าจะให้ทีนเขาไปเสี่ยงแล้วยังไงต่อจะให้เขาต้องไปเสี่ยงกับเรื่องที่เขาไม่เคยรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรือจะต้องให้เขาเจ็บตัวกับสิ่งที่เขาไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยแบบนี้เหรอว่ะ กูคงไม่ยอม” แต่ขณะที่น้ำพุกำลังเห็นต่างกันกับสองอยู่นั้น น็อตกลับพูดขึ้นว่า “แต่เดี๋ยวนะไอ้พุ ไอ้สองถ้าสมมุติว่าทีนเป็นแค่เหยื่อ ไม่ใช่ตัวเลือกที่มันต้องการล่ะ มันจะยังออกมาอยู่มั้ย?” “มึงหมายความว่าไงวะ น็อต!” “ก็วันนั้นทีนเขาก็อยู่ในห้องนั้นมึงคิดว่ามันไม่ผิดสังเกตหรอวะ ที่เขาเลือกที่จะไม่ยุ่งกับทีนแต่จัดการแค่มึงแล้วก็หยาง” “แต่วันนั้นทีนเขาอยู่ในตู้ไม่ใช่หรอวะ?” “แต่ถ้าคนนอกมองแบบผิวเผิน ใครจะไปคิดว่าหยางมันจะขังเมียตัวเองไว้ในตู้วะ?” น้ำพุพูดขัดขึ้นด้วยความสงสัยกับสิ่งที่น็อตกำลังสื่อ “แต่กูคิดเหมือนน็อตว่ะเพราะว่าปกติที่ภูมินทร์หรือใครที่จะมาคุยงานที่บ้าน เขาก็รู้อยู่แล้วว่าตู้นั้นจะไม่มีกุญแจล็อคและยิ่งกุญแจที่คล้องไว้เฉยๆ มันก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าในตู้นั้นมีอะไรแต่มันแค่ไม่สนใจ….แล้วสิ่งที่มันต้องการคืออะไรกันแน่หรือแค่อยากจะฆ่ากูกับคุณหยาง” “เออ..อันนี้น่าคิดว่ะ” น้ำพุพูดขึ้นเพื่อแสดงความเห็นด้วย “งั้นกูก็มีคนที่กูคิดว่ามันน่าจะรู้เรื่องนี้แล้ว” “แล้ววันนั้นไอ้พุตอนที่มึงช่วยทีนออกมามึงบอกกูใช่ป่ะว่าทีนที่ถูกขังมีเอกสาร โทรศัพท์แล้วก็ข้อมูลที่ดูแล้วน่าเกี่ยวกับธุรกิจใช่มั้ย” “เออ..ใช่…แล้ว” “แล้วสอง มึงได้เช็คเอกสารพวกนั้นหรือยัง” “เออ กูดูแล้วแต่เรื่องของกูกับคุณหยางกูดูแล้วก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับธุระกิจทั้งหมดว่ะ” “งั้นก็ตัดทีนออกไปเพราะเป้าหมายหลักก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับทีน แต่เป็นหยางกับมึงแทน” “เออ…งั้นพักเรื่องนี้ก่อนเพราะกูต้องไปละเดี๋ยวกูขึ้นเครื่องไม่ทัน” สองพูดขึ้นทั้งพร้อมมองนาฬิกาข้อมือ “มึงจะไปไหนวะสองอย่าบอกนะมึงจะไปสิงคโปร์อีกแล้ว” น็อตถามขึ้นกับท่าทางเร่งรีบของเพื่อน “เออ..” “เดี๋ยวสองปกติรถที่นี่เขาใช้กันกี่คันว่ะ” “มึงถามทำไม?” “เพราะว่าได้เวลาประกอบรถใหม่แล้วไง” น้ำพุพูดขึ้นให้สองต้องกลับมาสนใจในบทสนทนาอีกครั้ง “ถ้าที่ทีนใช้ประจำก็น่าจะเป็น BM สีดำของคุณหยาง กับ Land rover ที่กูจะเอามาไว้ใช้ก่อน และถ้าสำรองอีกคันก็จะน่าจะเป็น BM สีขาวที่น้องอั้มใช้ ว่าแต่มึงจะทำอะไรกับรถว่ะ” “ประดิษฐ์ของเล่นใหม่สักหน่อยกูว่าตัวจับสัญญาณให้รถทั้ง 3 คันลิงค์เข้าหากันได้นี้ก็สำคัญนะกูว่า ส่วนช่องเก็บของที่สามารถเก็บของได้โดยเวลาที่ขับทางไกลแล้วตำรวจจับไม่ได้นี้ก็สำคัญ และสุดท้ายเลยความเร็วของตัวรถและการทรงตัวที่ดีกว่สำหรับเวลาออกซิ่งนี้ก็น่าจะจำเป็นมากเหมือนกัน” “เค กูเข้าใจกับสิ่งที่มึงจะทำแล้วงั้นกูฝากมึงกับน็อต จัดการเรื่องนี้ให้กูหน่อยนะกูขอตัวไปจัดการธุระก่อนแล้วจะรีบกลับมา” “ธีร์ ภู กูฝากทีนกับน้องอั้มก่อนนะเดี๋ยวกูกลับมาแล้วเราค่อยมาคุยกันว่าหลังจากนี้เราจะเอายังไงกันต่อ แต่ตอนนี้ฝากดูแลทีนให้ดีด้วยนะ” “ได้มึง…แต่รอบนี้มึงจะไปประมานกี่วันวะ” “เดือนนึง” “เดี๋ยว! พี่สอง พี่จะไปไหน? เมื่อไหร่จะคืนโทรศัพท์ให้ทีน ทีนคิดถึงลูก” “รออีกนิดนะคะเดี๋ยวพี่คืนให้แต่ตอนนี้หนูต้องอยู่ที่นี่และฝึกไปก่อนคะ” “เดี๋ยวพี่รีบกลับมา” “พี่จะไปไหน? จะไปหาลูกทีนใช่ไหม?” “อาจจะใช่หรืออาจจะไม่ใช่แต่หนูไม่สามารถตามไปด้วยได้แน่นอนค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD