ย้อนยุคงั้นเหรอ 1

1278 Words
“นี่ พวกเธอได้ยินข่าวลือของยัยรัญบ้างรึเปล่า เขาว่ายัยนั่นเป็นสาวล่าแต้มน่ะ” เสียงซุบซิบนินทาจากสาวๆ ในร้านอาหารด้านข้างของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งดังไปถึงผู้ชายตัวใหญ่หน้าดุที่นั่งถัดไปอีกสองโต๊ะ เจ้าตัวนึกไปถึงผู้หญิงสวยจัด รูปร่างดีที่ชื่อรัญดาที่เขาเจอในร้านหรูกับผู้ชายแปลกหน้าเมื่อวันก่อนนั้น ข่าวลือของผู้หญิงสวยรักสนุก แน่นอนว่าหนุ่มๆ ต่างเล่าลือกันไปแบบปากต่อปาก บางคนทำถึงขนาดที่ว่าตามติดเหมือนสตอล์คเกอร์ เพื่อให้สาวสวยชวนขึ้นห้อง บางคนถึงขนาดที่ว่าเรียกร้องความสนใจ อย่างเช่นยืนช่วยตัวเองให้เห็น ถามว่าทำไมถึงดูเหมือนรัญดาจะฮอตมากและใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ นั่นเพราะเธอเป็นสาวสวย รวยมาก ไม่เล่นตัว ไม่ดูถูกว่าใครจนใครรวย สำคัญคือเข้าตาก็ได้ชิม...มันก็แค่นั้น “อาทิตย์นี้หล่อนหิ้วหนุ่มติดมือกลับไปด้วยแล้วตั้งสามคนสามวัน ไม่เข้าใจนะว่าหล่อนทำได้ยังไง” สาวหนึ่ง “อิจฉาเหรอยะ” สาวสอง “ปล๊าว! แค่สงสารพวกผู้ชายที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าแม่นั่นกำลังเก็บแต้มอยู่” สาวหนึ่ง “อย่าพูดเสียงดังสิยะ” สาวสามบ่นพลางหันซ้ายหันขวา ราวกับเป็นผู้ร้าย “ไม่เห็นเหรอว่าที่นี่มันร้านอาหารข้างบริษัท” ทั้งสามคนมองไปยังประตูร้านอาหารซึ่งเป็นร้านประจำของเหล่าพนักงานบริษัทแถวนี้ แน่นอนว่าที่นี่ยังเป็นร้านประจำของสาวฮอตที่พวกเธอนินทาด้วย พูดยังไม่ทันขาดคำสาวคนนั้นก็เดินกางร่มเข้ามาในสภาพสวมเสื้อเกาะอกสีขาวดันจนเต้าล้นทะลัก สวมทับด้วยบอดี้สูทเข้ารูปสีเลือดหมู กระโปรงสั้นแค่คืบสีขาวเข้าชุด ช่วงขาเรียวยาวน่ามองไร้การสวมใส่ถุงน่องให้สงสัย ทรงผมสีน้ำตาลอ่อนมัดยาวเป็นหางม้า ใบหน้ารูปไข่กับการแต่งหน้าแนวหวานซ่อนเปรี้ยวทำเอากลุ่มของพวกเธอได้แต่ลอบกลืนน้ำลายลงคอ ใดๆ คือสาวฮอตเดินไปนั่งกับผู้ชายผิวเข้มพร้อมกับยิ้มกว้าง ความเงียบและจุดสนใจของสายตาใครหลายคนในร้านคงอยู่ที่โต๊ะนั้นเพียงโต๊ะเดียว ‘ของสวยๆ แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก แต่ใครๆ ก็ยังจะมอง’ “นึกว่าจะไม่มา” ^^ รัญดายิ้มแบบไม่เสแสร้งให้ซีอีโอสุดดุของโรงแรมระดับสิบดาวตรงหน้าที่เธอเป็นฝ่ายขอนัดเขาเอง...ครั้งที่สอง ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบตกลงกันง่ายๆ “รัญนัดเองยังไงก็ต้องมา” หันมองไปรอบๆ ร้านที่ดูท่าว่าจะสนใจโต๊ะของเธอเหลือเกิน ก่อนจะพูดติดตลก “สั่งอะไรเผื่อรึเปล่าคะท่าน” ^^ แกล้งแซวอีกฝ่ายและก็เห็นเขาพยักหน้า ไม่นานนักบริกรของร้านก็ยกสเต๊กเนื้อชั้นดีมาวางเอาไว้พร้อมกับน้ำส้มคั้น สาวสวยยิ้มบางๆ ให้พนักงานก่อนจะหยิบส้อมและมีด ปากก็พูดต่อ “เย็นนี้ว่างรึเปล่าคะ รัญจะเชิญไปดินเนอร์” ชูนิ้วชี้และนิ้วกลาง (เป็นเลขสอง) “แค่สองคน” ยิ้มมุมปาก “สำหรับรัญผมว่างตลอด ได้ข่าวว่าเมื่อวันก่อนไปตกคุณชายที่ไหนได้ ไม่อิ่มเหรอเรา” จะบอกว่าภาพแอบถ่ายของรัญดามีมากยิ่งกว่านักแสดงหญิงบางคนก็คงจะใช่ หรือถ้าจะบอกว่าดังในเรื่องใต้สะดือกับหน้าสวยๆ นี่ก็คงไม่ผิด ขนาดเขายังยอมรับว่าเธอสวยและ...ช่วงล่างยังแน่น ‘เป็นผู้หญิงที่น่าประทับใจในทุกสัดส่วน คงไม่เกินจริง’ “ลูกชายเจ้าของห้างดังน่ะค่ะ หล่อจัดแต่นั่นเล็ก รัญไม่ถูกใจ อืม...” ทำท่าคิด ก่อนจะบอกซีอีโอติดดินที่มานั่งรอเธอในร้านอาหารธรรมดาว่า “วันนี้รัญโบกแท็กซี่มาทำงาน เย็นนี้สะดวกไปรับรัญที่หน้าบริษัทเลยไหมคะ หรือรัญต้องไปเอง ก็ว่าจะคุณนัดที่เดิมนั่นล่ะ” ที่เดิมของเธอนั่นหมายถึงร้านอาหารกึ่งผับในโรงแรมห้าดาวที่เคยเจอกันครั้งแรก และใช่ว่านี่คือครั้งที่สอง จะบอกว่าเธอเป็นคนเปิดเผยก็ถูก ใครอยากตามติดก็แล้วแต่ หรือใครจะเกลียดก็ช่าง เธอไม่ซีเรียส “ทางผ่านพอดี แวะไปรับก็ได้” ^^ “ขอบคุณค่ะ น่ารักที่สุด” ซีอีโอหนุ่มมาดดุนั่งเท้าคางมองคนสวยจัดทานสเต๊กเนื้อ พลางคิดถึงค่ำคืนที่กำลังจะมาถึง ถุงยางห้าชิ้นจะพอรึเปล่าก็คงต้องแล้วแต่ว่าสาวตรงหน้าจะดื่มหนักไหม…คิดย้อนไปถึงคืนนั้นเธอดื่มหนักบวกกับติดวันหยุด เขาเลยโชคดีที่ได้กินหล่อนในตอนเช้าด้วยอีกสองรอบ ‘คุ้มมาก’ หน้าอกใหญ่นุ่มนิ่มที่เจ้าตัวยอมรับว่ามีซิลิโคนอยู่ในนั้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเห็นว่ามันเป็นเรื่องแปลก ในทางกลับกันมันเด้งดีกว่าหน้าอกธรรมดา ‘อ่า’ หรือเอาจริงๆ เขาว่า “ลาครึ่งวันเลยดีไหม” รัญดาเอียงหน้า ยิ้มน้อยๆ^^ “ก็ อืม...ไม่เอาดีกว่า คราวก่อนรัญเมาแต่ก็จำได้ว่าคุณดุมากจนเกือบสลบ ถ้าไปตอนนี้รัญคงได้ตายก่อนส่องหาหนุ่มๆ คนอื่น” ใช้ส้อมจิ้มสเต๊กเนื้อเข้าปาก ช่วงล่างขมิบถี่ๆ ตามประสาคนที่ชอบใช้งานส่วนนั้นจนต้องบริหารกำลังให้มันตลอดในยามนั่งว่าง...ความชอบในเรื่องบนเตียงไม่ใช่เรื่องน่าอายนะ จริงไหม “ไม่ขนาดนั้นหรอก อันที่จริงผมทำเพราะคิดว่าเราจะแค่วันไนท์ ไม่ได้คิดว่าจะมีครั้งที่สอง” ยักไหล่ “หรือครั้งที่สาม” “อ่า” แล่บลิ้นเลียช้อนส้อม ก่อนจะยิ้มหวาน ^^ “ถ้าถูกใจจนต้องขอครั้งที่สาม ก็คงจะมีคุณคนแรกและคนเดียว ก็อยู่ที่ว่าคุณผู้ชายจะจัดให้ได้รึเปล่า” รัญดามองอีกฝ่ายที่ยกยิ้มตรงมุมปาก ก่อนที่ต่างฝ่ายจะต่างทานอาหารกลางวันสลับกับพูดคุยเรื่อยเปื่อยไปจนหมดเวลาพักเที่ยง ด้วยเพราะทั้งสองคนไม่ได้ทำงานในบริษัทเดียวกันจึงแยกย้ายกันไปเมื่อออกจากร้านอาหาร รัญดาเดินกางร่มสีสวยกลับไปที่บริษัทซึ่งต้องผ่านร้านสะดวกซื้อกับถนนทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าและตึก ผู้คนเดินกันพลุกพล่าน หากไม่ติดว่าวันนี้เธอขี้เกียจขับรถมาและอยากจะเดินทอดน่องสวยๆ เธอคงติดรถท่านภิรมย์ ซีอีโอสุดเข้มเข้าบริษัทไปแล้ว แต่เพราะไม่อยากเสี่ยงที่จะถูกคุณท่านเชือดก่อนเวลาก็เลยต้องเดินกลับเอง “อีกนิดเดียว” คนขาขาวก้าวยาวๆ หนึ่งมือถือร่ม อีกหนึ่งมือถือกระเป๋าใบเล็กราคาแพง วินาทีที่จะเลี้ยวเข้าบริษัทกลับมีใครคนหนึ่งในชุดสีดำ สวมหมวกโม่งวิ่งเข้ามากระชากกระเป๋า “อะ ว๊าย!” รัญดาตกใจรีบจับสายกระเป๋าเอาไว้แน่น คนร้ายอาศัยจังหวะที่เธอใส่รองเท้าส้นสูงเหวี่ยงร่างบอบบางเข้าใส่กำแพงอิฐ พลั่ก! ตุ่บ! เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนที่เดินผ่านไปมากรูเข้าหาคนร้ายพร้อมกับช่วยคนบาดเจ็บที่อยู่ในสภาพศีรษะแตกนอนคว่ำหน้าอยู่ตรงพื้น เลือดสดๆ ในปริมาณมากไหลเอ่อนอง มากกว่าความโชคดีมันคือความโชคร้ายที่กว่ารถพยาบาลจะมาถึง ผู้หญิงที่ถูกกระชากระเป๋าก็หมดลมไปเสียแล้ว &&&& “อืม...ม” “น้องเล็กฟื้นแล้วพวกเรา!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD