ลุงสิทธิ์พ่อของเกดเป็นคนเดียวที่หยิบยื่นความช่วยเหลือให้แม่กับฉันในวันที่ไม่มีที่ซุกหัวนอน และเป็นคนเดียวที่ช่วยจัดการงานสุดท้ายของพ่อ ขณะที่ญาติพี่น้องต่างพากันหนีหน้าหมด เมื่อไม่มีปู่ย่าอยู่บนโลกนี้ พี่น้องก็เหมือนเป็นคนอื่นต่อกัน ไม่ช่วยเหลือไม่ว่าซ้ำยังพากันซ้ำเติม
ไม่ใช่ทุกครอบครัวจะรักใคร่กลมเกลียวกันเสมอไป ช่วงเวลานี้มีคนอื่นเข้ามาในห้องน้ำและมองพวกเรา ผู้หญิงที่รักหน้าตาอย่างเกดจึงหยุดกรีดร้องโวยวาย เธอดึงแขนฉันไว้พูดด้วยสีหน้าเยาะหยันเสียงเบา
“แกทำปากดีไปเถอะ ยังไม่รู้สินะ เรื่องฉาวโฉ่ของแกมันถึงหูแฟนแกแล้ว ฉันได้ยินว่าเขาชอบควงดาวนิเทศฯ ไปเล่นสนุกเกอร์ทุกเย็นเลย”
“พูดอะไร”
“พูดความจริงไงยะ ยังคิดว่าเขาจะเอาลูกไอ้คนขี้โกงอย่างแกอยู่อีกเหรอ เชอะ!” เพื่อนเกดคนหนึ่งล้วงมือถือขึ้นมาเปิดรูปให้ฉันดู
“หลงตัวเองชะมัด”
“ลูกคนขี้โกงอย่างแกเป็นได้แค่ของเล่นเขาแค่นั้นแหละ”
“ไปเหอะพวกแก เดี๋ยวเสนียดจัญไรจะติดตัวพวกเรา”
เกดกับเพื่อนหัวเราะพลางส่งสายตาสมเพชมองฉันก่อนจะพากันออกไปจากห้องน้ำ ฉันได้แต่ยืนกำมือแน่น ฉันมีแฟนเรียนอยู่มหา’ลัยนี้เหมือนกัน เขาเรียนปี 3 วิศวะไฟฟ้า เรารู้จักกันมาสองปีแล้ว เนื่องจากเมื่อก่อนพ่อฉันกับพ่อเขาเป็นเพื่อนกัน เราจึงถูกจับคู่กันไปด้วย ที่ฉันเข้าเรียนที่นี่ก็เพราะพ่อเห็นว่าเขาเรียนอยู่ อยากให้พวกเราสนิทสนมกันมากขึ้น เราจึงมีสถานะเป็นแฟนตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่
“เป็นไรแก หน้าเครียด ๆ นะ”
สีหน้าฉันคงดูคร่ำเคร่งเกินไปเพื่อนถึงเอ่ยทักตอนที่ออกมาสมทบกับเธอที่ร้านน้ำ “ไม่มีอะไรหรอก แค่เจอพวกยายเกดน่ะ เข้าห้องเรียนเหอะ”
ฉันตัดบทเมื่อเห็นแสนดีอ้าปากจะพูด เพื่อนเองก็รู้เห็นความไม้เบื่อไม้เมาของฉันกับญาติผู้พี่มาตลอด
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย ยายนั่นมันทำอะไรแกหรือเปล่า”
“ไม่ได้ทำ แค่เรื่องไร้สาระ แกไม่ต้องสนใจหรอก”
แค่เรื่องน่ารำคาญเล็ก ๆ ฉันจัดการเองได้
สนุกเกอร์คลับที่อยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้เป็นอาคารขนาดใหญ่ห้าชั้น ฉันได้ยินมาบ้างว่ามันเป็นสถานที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมของนิสิตมหา’ลัย A ก่อนมาที่นี่ ฉันไลน์ไปถามพี่เมธหยั่งเชิงแล้วว่าเขากำลังทำอะไร และเป็นตามคาดคือเล่นสนุกเกอร์ เขายังชวนฉันมาดูด้วย พี่เมธไม่ได้เพิ่งชวนแต่ชวนหลายครั้ง ฉันไม่เคยมาเพราะไม่ชอบ ไม่ใช่ไม่ชอบสนุกเกอร์แต่ไม่ชอบเขาไม่อยากอยู่ใกล้ถ้าไม่จำเป็น วันนี้เขาก็คงคิดว่าฉันไม่มา ฉันเลยได้เห็นภาพที่เขากำลังนัวเนียกับดาวนิเทศฯ คนสวยอย่างไม่อายสายตาใคร
บนชั้นสามมีโต๊ะสนุกตั้งเรียงรายมากกว่าสิบโต๊ะ มีคนกำลังเล่นไม่กี่โต๊ะ ถึงอย่างนั้น พี่เมธดูสนุกและฮึกเหิมกับเสียงเชียร์เสียงแซวจากเพื่อนผู้ชาย ขณะที่ผู้หญิงคงเป็นเพื่อนของดาวคนนั้น พวกนางทำทีเอียงอายแต่ส่งเสียงเชียร์ช่างขัดแย้งจนดูน่าขำ พี่เมธจูบแลกลิ้นกับดาวสาวรุ่นน้องอย่างถึงพริกถึงขิง ไม่รู้ตัวด้วยว่าฉันเดินมาหยุดมองตรงหน้าโซฟาที่เขานั่งอยู่แล้ว
เพื่อนเขาและคนอื่น ๆ มองฉันเป็นตาเดียว ก่อนค่อย ๆ เงียบเสียงลง
คงเป็นความเงียบที่ทำให้พี่เมธรู้ตัวว่ามีอะไรผิดปกติเลยผละหน้าจากอีกฝ่าย แล้วชะงักทันทีที่เห็นฉัน
“ที่รัก...” เขาเสยผม ผลิยิ้มบาง ๆ แก้เก้อ “ถูกเห็นเข้าแล้วสิ”
“พี่ก็ไม่ได้คิดจะปิดบังไม่ใช่เหรอ” ฉันเอ่ยถามยิ้ม ๆ เลื่อนสายตาไปยังดาวนิเทศฯ เธอคือเด็กปีหนึ่งเหมือนฉัน สวย เซ็กซี่สมเป็นดาว แววตาที่มองสบกลับมานั้นก็เต็มไปด้วยแววท้าทาย แถมยังกอดแขนผู้ชายไม่ปล่อย แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเต็มที่ ไม่กริ่งเกรงคนที่มีสถานะแฟนอย่างฉันสักนิด
“ไม่คิดว่าที่รักจะมา”
เสียงพี่เมธดังขึ้นอีก ฉันกดยิ้มหยัน ตวัดสายตาไปมองหน้าคนพูด เขายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มคล้ายว่าไม่ได้มีเรื่องสำคัญ ไม่ใช่คนที่เพิ่งถูกแฟนจับได้ว่ามามั่วกับกิ๊กลับหลัง
พี่เมธเป็นอีกคนหนึ่งที่หายหน้าหายตาตั้งแต่พ่อฉันเกิดเรื่อง เขายังส่งข้อความหา แค่ข้อความแสดงความเห็นอกเห็นใจ หากไม่เคยมาพบหน้า อ้างว่ายุ่งเรียน ยุ่งงาน ยุ่งเรื่องทางบ้าน ซึ่งฉันเองก็เข้าใจ
บ้านเราคบกันเพราะผลประโยชน์ เมื่อไม่มีผลประโยชน์แล้วจะไม่อยากคบก็ไม่แปลก ฉันแค่มาทำให้เรื่องเราจบแค่นั้น พูดตามตรงว่าไม่ได้เสียใจหรือเสียความรู้สึกอะไร ที่เราคบกันก็เพราะพ่อเขาพ่อฉันอยากให้ศึกษาดูใจกัน ยังไม่ทันเห็นความเห็นอกเห็นใจอาทรก็ได้เห็นความหัวดอเสียก่อน
“มีคนบอกฉันเรื่องพี่เลยมาแวะดูซะหน่อย”
“พวกเราก็แค่เล่นเกมกันนะครับน้องที่รัก ไอ้เมธกับวาไม่ได้มีอะไรกันมากกว่าที่น้องเห็นหรอก”
“ใช่ ๆ” เพื่อนเขาแย่งกันพูด ทำเหมือนฉันเป็นคนตาบอด ดาวคนสวยเบียดตัวเข้าหาผู้ชายจนแทบจะกลืนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
“ไม่มีอะไรหรอกเราแค่เล่นเกมอย่างพวกมันว่า ยังไงพี่ก็ยังเป็นแฟนที่รักเหมือนเดิม ที่รักไม่ต้องหึงหรอก”
“ฉันคงไม่ใช้คำว่าหึงหรอก ที่มานี่ก็แค่อยากเห็นกับตาจะได้บอกพี่ให้สบายใจว่า ต่อไปนี้เราไม่ใช่แฟนกันอีกแล้ว พี่อยากมีใคร อยากจูบใคร หรืออยากเอาผู้หญิงคนไหนก็ตามสบายเลย” พูดจบฉันยิ้มปิดท้ายให้ทำท่าจะหมุนตัวออกไปจากตรงนั้น ในใจโล่งสบาย ฉันเองก็หาโอกาสอยากบอกเลิกคบกับเขามานาน ตลอดเวลาที่รู้จักกันใช่ไม่รู้ว่าวราเมธเจ้าชู้ขนาดไหน ผู้หญิงคนไหนอยากได้ก็โง่เต็มทน
“ใครจะจบครับ”