Chapter 6 รางวัลผู้ชนะ

1059 Words
“บอกว่าอย่ากรี๊ด” “ฉันจะกลับบ้าน! ไอ้!” เสียงที่จะก่นด่าถูกผลักลงคออีกรอบเพราะจู่ ๆ เขาก็ประกบปากจูบ ส่งควันและเรียวลิ้นเข้ามารุกราน ความร้อนชื้นของลิ้นที่ฉาบเคลือบด้วยรสบุหรี่กับควันฟุ้งกระจายขึ้นสมอง ควันพวกนั้นก็หลั่งไหลออกทางจมูกและลงคอ ทำให้สำลัก ฉันอยากไล่ควันพวกนั้นออกไปแต่ทำไม่ได้เพราะเรียวปากแข็งแรงบดเบียดแนบเน้นหนักจนฟันเรากระทบกัน แรงขบเม้มและดูดดึงส่งผลให้ปากฉันบวมเจ่อจนรู้สึกได้ ในอกวาบไหว ร่างกายชาวาบ ความหวาดผวาเกาะกุมหัวใจที่สั่นไหวรุนแรง ไม่ว่าจะดิ้นรนยังไง ปากนั้นก็ยังระรานไม่เลิกไม่ถอยห่าง ทำเอาเรี่ยวแรงในกายถูกสูบออกไป มือที่เคยทุบตีเขาเปลี่ยนเป็นขยุ้มเสื้อช็อปสีน้ำเงินเข้มแน่น ลมหายใจหอบรัว ใจจะขาดรอมร่อ ถึงจุดที่คิดว่าตายแน่แล้ว เขาถึงยอมถอยห่าง ฉันเจ็บปากและแสบคอเพราะควันบุหรี่ไปหมด “อา...ชื่นใจจัง” สุ้มเสียงกลั้วหัวเราะนั้นดึงสติขึ้นมา ฉันจิกตาวาววับจ้องเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ รวบรวมแรงน้อยนิดเพื่อผลักเขาเต็มกำลัง “อ๊ะ ว้าย!” ผลคือตัวฉันตกจากโซฟาลงไปบนพื้นพรมเพราะไม่คิดว่าเขาจะยอมปล่อยง่าย ๆ “รีบเหรอครับคนสวย หืม...” หน้าหล่อเหลาระบายยิ้ม เขาส่งบุหรี่เข้าปากปล่อยควันออกทางจมูกขณะโน้มตัวลงมากักตัวฉันไว้บนพื้นพรม “ไอ้บ้า” ทันทีที่ด่า เขาพ่นควันนั่นใส่หน้า ทำเอาสำลักและไอโขลกจนแสบคออีกรอบ ยิ่งเรียกรอยยิ้มในตาคมมากขึ้น เขารื่นรมย์ เคลื่อนไหวเนิบนาบ หากทุกการกระทำกลับเต็มไปด้วยการข่มขวัญ ทำฉันยิ่งลนลาน ร่างกายที่คร่อมอยู่ด้านบนเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งตามแบบฉบับผู้ชายและดูเหมือนยิ่งฉันต่อต้านยิ่งยั่วให้เขาสนุกสนานระราน “คนสวยพูดเพราะจะน่ารักมากขึ้นนะ” “ใครอยากน่ารักกับนาย” “ปากดีจริง แล้วเรียกนายอะไร เธอเป็นรุ่นน้องถึงจะต่างคณะก็ต้องเรียกฉันว่าพี่หรือเปล่า” “หึ” ฉันข่มความกลัวจิกตามองเขาเขม็ง “ออกไป” “นี่ห้องพี่” “งั้นก็ลุก ฉันจะออกไปเอง” “ออกไม่ได้หรอก” “เอ๊ะ!” เขาดึงบุหรี่ออกจากปาก หันไปพ่นควันทางอื่น ฉันคิดจะใช้จังหวะที่เขาไม่ได้ระวังถีบกายหนาออกไป แต่แค่ยกเท้า ท่อนขาก็ถูกจับยกเกี่ยวรัดสะโพกสอบส่งผลให้กระโปรงร่นขึ้นถึงโคนขา “เป็นคนใจร้อนจริงด้วยนะเรา” รอยยิ้มจากหน้าหล่อเหลาแม้จะทำให้เขาดูหล่อกระชากใจแต่ฉันเห็นแล้วใจผวา ไม่รู้เขาวางบุหรี่ไปตอนไหน ตอนนี้กายแกร่งเบียดเข้าแนบชิด โดยเฉพาะหน้าขาแกร่งเบียดแนบกลางหว่างขาฉัน ขยับเสียดสีเบา ๆ หากสร้างความหวั่นหวาดให้ฉันมากมาย “จะทำอะไร ลุกออกไปนะ” “อืม...ลุกตั้งนานแล้ว ไม่รู้สึกเหรอ” พลันนั้น ฉันรับรู้ถึงอาการลุกที่เขาว่า ใต้สาบกางเกงนั้น บางอย่างมันเริ่มตื่นตัวหยัดขยายชวนประสาทผวา มันยังถูกดลงเสียดสีซอกขาฉันอย่างจาบจ้วงหยาบคาย “อะ ไอ้บ้า ปล่อย! นายไม่มีสิทธิ์มากักขังฉัน นายกำลังทำผิดกฎหมายอยู่นะ ฉันจะแจ้งตำรวจ” “ความสมยอมไม่ใช่ความผิดนะครับคนสวย” ปากยิ้ม ๆ ยียวนกดลงมาจูบไซ้แก้มอย่างเย้าหยอก ฉันเบี่ยงหน้าหนีสุดฤทธิ์ กำกำปั้นทุบตีอีกฝ่ายไม่ยั้งไม่นับ แต่ทุกที่ที่มือสัมผัสล้วนแต่แน่นตึงแข็งแกร่ง สร้างความเจ็บช้ำให้กับมือฉันเอง ก่อนจะถูกรวบมือสองข้างกระชากขึ้นไปกดไว้พื้นเหนือหัว นั่นทำให้ฉันดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง “สู้มือแบบนี้สิค่อยน่าสนุก” “จะข่มขืนกันหรือไง” แม้จะกลัว หากความปากดีที่มีไม่ลดละจนนึกอยากตบกะโหลกตัวเอง เขาทาบทับลงมาทั้งตัว น้ำหนักที่มีกดตัวฉันจนแทบบี้แบนติดพื้น “พี่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น ตอนนี้เธอก็เป็นเด็กพี่แล้ว” “ใครจะเป็น” “อ้าว...” น้ำเสียงลากยาวของเขาบอกฉันว่าเขากำลังยียวน “ไหนบอกเท่าไหร่ก็จะจ่ายถ้าพี่ช่วยไง” “นายได้เงินแล้วนี่ ห้าล้านไม่พอเหรอ” “อันนั้นมันค่าฝีมือพี่ แต่ค่าที่ช่วยเรา เราต้องจ่ายหรือจะเบี้ยว” “แต่...” ทันทีที่อ้าปากจะสวนตอบ ปากร้อนก็ประกบปาก จูบขยี้บี้บดขบดึงทั้งยังสอดลิ้นร้อนชื้นเข้ามาไซ้ซอนไปทั่วโพรงปาก แรงที่เขากดเข้าใส่บอกฉันได้ว่ามันคือการเอาชนะคะคานให้สยบยอม ฉันเบือนหน้าหนีก็ถูกจับหน้าตรึงให้รับปากลิ้นร้ายจนหายใจหายคอไม่ทัน “คนอย่างพี่ไม่จำเป็นต้องข่มขืนผู้หญิงหรอกที่รัก” สุ้มเสียงพร่าต่ำเต็มไปด้วยความมาดมั่นเมื่อเขาผละปากออกห่างแต่แค่ไม่กี่วินาที ปากร้อนก็ประกบลงมาใหม่ จูบครั้งนี้ถูกละเลียดเบียดเคล้าเร้าโรม สติเริ่มกระเจิดกระเจิงเมื่อกระแสวาบหวามซ่านไปทุกปลายประสาท ร่างกายคลายล่องลอยจากพื้น ประกอบกับกายส่วนล่างถูกกายแกร่งเบียดไซ้ไถถู เนื้อผ้าเสียดสีกับจุดอ่อนไหวก่อเกิดเป็นความเสียวซ่านวาบหวามยากจะต้านทาน “ไม่...ไม่เอา อย่า...” ร่างกายฉันสั่นระริกไร้เรี่ยวแรงเมื่อถูกจูบซ้ำ ๆ หนักเบาสลับกันจนปากบวมเจ่อ เขาลากปากไปจูบไซ้ซอกคอ ขบดึงใบหู และวกกลับมาประกบปาก ขณะปล่อยมือจากหน้าฉันเลื่อนลงไปบีบเคล้นยอดอก สามัญสำนึกส่วนลึกทั้งกลัวทั้งผวา รู้สึกต่อต้านจึงส่งเสียงตะกุกตะกักสั่นเครือออกมา จู่ ๆ ฉันก็นึกถึงหน้าพ่อแม่ และสำนึกได้ว่าที่ผ่านมา ฉันคิดว่าตัวเองเก่งเอาตัวรอดได้ จัดการปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง หารู้ไม่ว่าโลกอีกด้านที่ไม่เคยเห็นมันร้ายกาจมากขนาดไหน พานทำให้ขอบตาร้อนผ่าว “รู้จักกลัวแล้วเหรอ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD