คำอวยพรจากสหาย

1080 Words
“พวกเจ้าคงไม่ได้ชื่นชอบสตรีคนเดียวกันใช่หรือไม่” “............” “ไม่ได้นะ ห้ามพวกเจ้าชอบสตรีคนเดียวกัน” “ทำไม/ทำไม” ฟางหรงถอนหายใจออกมา ก่อนมองทั้งสองด้วยแววตาจริงจัง “สตรีที่รักบุรุษถึงสองคนมิใช่คนดีหรอก หากชอบนางจริง ๆ ให้นางเลือกได้หรือไม่.....” “หมายความว่า???” “ข้าไม่อยากให้พวกเจ้าทะเลาะกันเพื่อแย่งสตรีใดก็ตาม” “...........” “แล้วถ้าหากพวกข้าอยากครอบครองนางทั้งคู่เล่าหรงหรง” “ถึงตอนนั้นให้ก็ให้นางได้เลือกเถิดว่าจะอยู่กับพวกเจ้าทั้งสอง หรือจะเลือกแค่คนใดคนหนึ่ง หากนางเลือกที่จะเห็นพวกเจ้าแย่งชิงกันเพื่อนาง สัญญากับข้าว่าจะถอยออกมา...” “........” “........” จางหมิ่งและเจียอี้ไม่ได้ตอบอะไร พวกเขาต่างมองไปที่ฟางหรงด้วยแววตาที่สับสน พลางคิดในใจว่า หรงหรงข้าไม่อาจสัญญาได้ ถึงตอนนั้นหากเจ้าเลือกข้าจะยอมถอยออกมาได้เช่นไร....... “เอาเถิด หากไม่สัญญาก็เก็บคำพูดข้าไปคิดก็ได้” “หรงหรงของเราโตแล้ว” ฟางหรงทำเพียงฝืนยิ้มออกมา พลางคิดว่าเรื่องในอดีตจะเกิดซ้ำรอยเดิมอีกหรือไม่ นางมองอาหารที่กำลังถูกวางบนโต๊ะ ก่อนจะคิดถึงตงหยางที่มักทานข้าวและพูดคุยกับนางตลอดหลายปี เรื่องความสัมพันธ์ของนางและตงหยาง คงถึงเวลาที่จะต้องบอกแล้ว อย่างน้อยก็อยากฟังคำยินดีก่อนพวกเขาจะจากไป อีกไม่นานแล้วที่การเรียนกับท่านพ่อจะสิ้นสุดลง..... “หรงหรง จริงวันนี้พวกข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า” “ข้าเองก็มีเรื่องจะบอกพวกเจ้า” “เจ้าบอกก่อนเถอะ เรื่องขอพวกข้าไม่ได้สำคัญมาก” เจียอี้พูดขึ้นก่อนจะคีบอาหารให้ฟางหรงด้วยรอยยิ้ม ฟางหรงหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้าก่อนจะพูดออกไป “ตงหยางกำลังส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้า” เพล๊ง!! ตะเกียบที่อยู่ในมือของชายทั้งสองร่วงลงบนจานจนเกิดเสียงดัง ฟางหรงที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มจาง ๆ ออกไปเดิมทีก็ทำใจไว้แล้ว แต่พอมาเจอเช่นนี้ คุณหนูเช่นข้าทำตัวไม่ถูกจริง ๆ “กล้าดียัง เจ้าตงหยางนั่น มันใช้อะไรล่อลวงเจ้า” “จางหมิ่ง เจ้าใจเย็น ๆ ไหนบอกข้ามา เจ้ากับไอ้โง่นั่นไปชอบพอกันตอนไหน” เจียอี้กัดฟันพูดออกมา ฟางหรงเองที่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว แต่ยังคงฝืนยิ้มออกมา “จางหมิ่ง เจียอี้ ข้าและพี่หยางรักกันจริง ๆ อีกไม่นานพี่หยางจะส่งแม่สื่อมา ที่ข้าบอกพวกเจ้าเพราะ อยากได้คำอวยพรจากสหาย” “เหอะ สหาย” เจียอี้ “ใครอยากเป็นสหายของเจ้ากัน” จางหมิ่ง ฟางหรงที่ได้ยินเช่นนั้น เม้มปากแน่น “ฟางหรง อยากได้คำอวยพรจากพี่ชายทั้งสอง” “...........” “...........” จางหมิ่งที่ได้ฟัง แทบอยากเข้าไปเขย่าตัวคนตรงหน้า ว่าเขานั้นเลิกที่จะอยากเป็นพี่ชายของนางนานแล้ว เหตุใดถึงไม่รู้ตัวเลยสักนิด ด้านเจียอี้เขาทำเพียงฝืนยิ้มออกมา แม้จะเอาแต่คิดว่าจริง ๆ มันผิดพลาดตรงไหนกันแน่ เดิมหลังจากกลับจวนก็จะให้ท่านแม่ส่งแม่สื่อมา เหตุใดจึงผิดพลาดเช่นนี้ “ข้ารักพี่หยางจริง ๆ นะ พวกเจ้าจะยินดีกับข้าใช่ไหม” ฟางหรงพูดออกมาน้ำตาคลอ จางหมิ่งและเจียอี้ที่เห็นเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมา ทั้งสองพยายามสงบอารมณ์โกรธของตัวเอง มองนางในดวงใจที่เอาแต่เฝ้าบอกให้พวกเขาอวยพร นางมองพวกเขาผ่านม่านน้ำตา จางหมิ่งเงยหน้าฝืนให้ตัวเองไม่ร้องไห้ออกมา “ตงหยางผู้นี้ คุ้มค่าให้เจ้ามาเสียน้ำตาต่อหน้าพวกข้างั้นหรือ” จางหมิ่ง “หากเจ้าโง่นั้นทำให้เจ้าเจ็บปวด หากมันดูแลเจ้าไม่ได้” เจียอี้ “ข้ายินดีรับ ชะตานั้นเพราะข้าเลือกเอง” เจียอี้พยักหน้าก่อนจะหลับตาลง มือทั้งสองของเขากำแน่น ก่อนจะลุกขึ้น “เช่นนั้นก็ดี ข้าก็ขอให้เจ้ามีความสุข อาหารมื้อนี้ไม่อร่อยแล้ว ข้าขอตัว” ฟางหรงมองเจียอี้ที่วางเงินลงบนโต๊ะก่อนจะเดินออกไป เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามองฟางหรงที่เรียกเขาอย่างที่เคย เจียอี้ในตอนนี้เขาแทบพังทลายจนกลับไปมองหน้านางในตอนนี้ไม่ได้แล้ว..... “จะ...จางหมิ่ง....” “ข้า.....ข้าจะไปส่งเจ้า..” จางหมิ่นจับมือของฟางหรงก่อนจะพาเดินออกมาจากร้าน ตลอดทางที่ออกมาจากร้านจนถึงนั่งรถม้า ทั้งสองไม่ได้คุยกันเลย มีเพียงจางหมิ่งที่ยังคงจับมือของฟางหรงไว้แน่น “ข้ากับเจียอี้จะไปวันนี้” “ทำไมถึง....” “นี่คือเรื่องที่จะบอกเจ้าในร้านอาหาร แต่ไม่ต้องห่วง หากยังไม่ตายจากสนามรบข้ากับเจียอี้จะมางานแต่งเจ้าแน่” “เข้าใจแล้ว” ฟางหรงยิ้มออกมา เพราะนางรู้ดีว่าพวกเขาจะไม่ตายและกลายเป็นวีระบุรุษ จางหมิ่งมองฟางหรงที่ยิ้มมาทางเขาน้ำตาที่ฝืนมาก็ไหลออกมา เขาดึงหญิงสาวตรงหน้าเขามากอดแน่น “จางหมิ่ง...จะ..เจ้าจะทำอะไร” “หรงหรง เหตุใดไม่ใช่ข้า....” “จะ...จางหมิ่ง..เจ้าเป็นอะไร” “.........” ไม่มีเสียงตอบกลับมาอีก จางหมิ่งยังคงกระชับอ้อมกอดแน่น “คุณหนูถึงจวนแล้วขอรับ” จางหมิ่งที่ได้ยินเช่นนั้นก็เช็ดน้ำตาของตัวเอง ก่อนจะคลายอ้อมกอด เขาฝืนยิ้มออก มองหน้าสตรีที่เขารักปักใจมาตลอดหลายปี “หรงหรงของเราโตแล้ว พี่ใหญ่เช่นข้าขอให้เจ้ามีความสุข....” “จางหมิ่ง” “เจ้าไปเถิดข้ามีนัดกับเจียอี้อีกที่” ฟางหรงพยักหน้า นางมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วงก่อนจะเดินออกไป จางหมิ่งที่เห็นฟางหรงเดินลงไปแล้ว ก็ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าของฟางหรงที่เขาเก็บไว้มาหลายปีออกมา “ข้าช่างโง่งม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD