ขวัญระมิงค์อาศัยอยู่กับธนูผู้เป็นบิดาในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง บ้านของทั้งคู่เป็นบ้านเดี่ยว สองชั้น มีบริเวณไม่กว้างนัก
ธนูเป็นชายวัยประมาณห้าสิบกว่า ๆ ท่าทางเป็นคนเจ้าอารมณ์ เขาเป็นเจ้าของผับกึ่งร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งว่ากันว่าข้างในนั้นมีบ่อนผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ แต่เนื่องจากมี ‘แบ็ก’ ดี บ่อนดังกล่าวจึงไม่ถูกกวาดล้าง ปักษ์ไม่รู้เรื่องนี้ และธนูก็ไม่ได้ทำตัวให้เป็นที่น่าสงสัยนัก กล่าวคือ เขาไม่ได้อยู่บ้านที่ใหญ่โต ไม่ได้ขับรถหรูเกินฐานะเจ้าของร้านเล็ก ๆ ยิ่งตอนนี้กำลังประสบปัญหากับ ‘แบ็ก’ และตำรวจท้องที่ เขาจึงยิ่งต้องทำตัวเงียบ ๆ ไม่ให้โดดเด่นสะดุดตา
ปักษ์เคยพบธนูเพียงครั้งเดียว ตอนที่มารับขวัญระมิงค์ไปทานข้าวในช่วงแรกที่เริ่มเดตกัน แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบ ไม่ได้พูดคุยกันอีก ช่วงที่เขาตาบอด ธนูก็ไม่ได้ไปเยี่ยมสักครั้ง
วันนี้ เป็นวันสู่ขอขวัญระมิงค์อย่างเป็นทางการ ว่าที่เจ้าสาวแต่งตัวด้วยชุดแซกพอดีตัวสีครีมคอถ่วง ทำจากผ้าซาตินเนื้อดี สวยมั่นใจสมกับเป็นขวัญระมิงค์คนเดิมก่อนที่ปักษ์จะตาบอด แต่งหน้าก็สวย ฉีดน้ำหอมหอมฟุ้ง ดวงตาของเธอเป็นประกายสดใสน่ามองยิ่งนัก
หลังจากแนะนำญาติผู้ใหญ่ให้ฝ่ายว่าที่เจ้าสาวรู้จักแล้ว การสู่ขอก็เริ่มต้นขึ้น หลังจากฟังผู้ใหญ่พูดจบ ธนูก็เอ่ยทันที
“อย่างที่เห็นกันอยู่ว่าเด็ก ๆ รักกัน โดยเฉพาะยายขวัญนี่รักและห่วงพี่ปักษ์มาก ลมหายใจเข้าออกก็เป็นพี่ปักษ์ ตอนพี่ปักษ์ตาบอดก็ใจจะขาด มาอ้อนวอนพ่อขอไปดูแลพี่ปักษ์ ตอนแรกจะไม่ให้ไป เกรงจะไม่งามที่ต้องไปอยู่บ้านผู้ชายแบบนั้น แต่ก็เห็นแก่ความรักของทั้งคู่ จึงอนุญาต”
ฝ่ายเจ้าบ่าวทุกคนหันสบตากันไปมา ก่อนที่ญาติผู้ใหญ่จะเป็นคนเอ่ย
“ทางปักษ์และครอบครัวจึงเห็นสมควรว่าถึงเวลาแล้วที่เด็กสองคนจะได้อยู่บ้านเดียวกันอย่างถูกต้อง ปักษ์หลานชายผมก็มีฐานะมั่นคงมากพอที่จะดูแลหนูขวัญไปตลอดชีวิต ทางคุณธนูเห็นเป็นอย่างไรครับ”
“ผมไม่มีปัญหาหรอกครับท่าน”
“ขอบคุณมากครับ แล้วเรื่องสินสอด...”
“ห้าล้านขาดตัว ขอไม่ต่อนะครับ ลูกสาวผมเป็นคนไม่ใช่ผักปลา จะมาต่อรองกันไม่ได้”
เป็นอีกครั้งที่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวมองหน้ากันไปมา ก่อนที่ประไพจะเอ่ย “แล้วถ้าจะขอต่อรองเป็นสิบล้านล่ะคะ จะเป็นอะไรหรือเปล่า”
ธนูเบิกตาโตเป็นไข่ห่าน หันไปสบตากับขวัญระมิงค์ซึ่งก็ตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้นและดีใจไม่ต่างกัน
“คุณว่าไงนะ! ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม” ธนูถามเสียงสั่น
ประไพยิ้ม มองไปทางว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยแววตารักใคร่เอ็นดูเต็มพิกัด
“ช่วงเวลาที่ปักษ์มองอะไรไม่เห็น หนูขวัญได้เป็นดวงตาให้กับปักษ์ เงินแค่นี้ดูจะน้อยไปด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับช่วงเวลายากลำบากที่หนูขวัญต้องเจอ ถ้าคุณยกหนูขวัญให้ปักษ์ ดิฉันสัญญาว่าจะดูแลหนูขวัญให้เหมือนลูกสาวอีกคนค่ะ”
“ด้วยความยินดีครับ” ธนูพยักหน้า ซ่อนความดีใจไว้ไม่มิด
“ส่วนเรื่องฤกษ์แต่งงาน เดี๋ยวดิฉันจะเป็นธุระเองค่ะ พอดีลุงของปักษ์ท่านบวชอยู่แล้ว จะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมท่านด้วย”