“เดี๋ยว ขวัญ เดินหนีพี่ทำไมจ๊ะ โกรธอะไรพี่เหรอ” เขาดึงแขนเรียวเอาไว้
“ดิฉันไม่ได้ชื่อขวัญ” เธอส่ายหน้า แววตายังคงตื่นตระหนก แล้วก็พยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุมของเขา แต่ปักษ์ไม่ยอม เพราะไม่เข้าใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
“นี่ขวัญเล่นตลกอะไรน่ะ พี่ไม่เข้าใจ”
“ปล่อยนะคะ”
“พี่ไม่ปล่อย จนกว่าขวัญจะบอกพี่ว่าขวัญงอนพี่เรื่องอะไร เรื่องงานแต่งเหรอ เมื่อวานเราก็คุยกันเข้าใจแล้วไงจ๊ะ ขวัญเองก็ยอมรับสิ่งที่พี่เสนอไปแล้วด้วย”
“ปล่อย! ดิฉันบอกว่าดิฉันไม่ใช่ขวัญไงล่ะ” หญิงสาวเสียงแข็งขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
ปักษ์ส่ายหน้าไปมาด้วยความงงงันเหลือแสน เขามองถุงยาในมือของเธอด้วยความแปลกใจ
“แล้วนี่ขวัญป่วยเป็นอะไรจ๊ะ แล้วทำไมไม่บอกพี่” ไม่พูดเปล่า เขาเอื้อมมือไปดึงถุงยาจากมือเธอด้วย
“ไม่นะ! เอาถุงยามานะ!” เธอโวยวายด้วยน้ำเสียงตระหนก พยายามกระชากกลับ ซึ่งนั่นยิ่งเป็นพิรุธให้ปักษ์ยิ่งสงสัย เขาชูถุงยาขึ้นสุดแขน อีกมือก็เปลี่ยนจากจับแขนเธอมาเป็นกอดเอาไว้แนบอกอย่างต้องการแกล้ง โทษฐานทำให้เขางงและงง แล้วจึงไล่สายตาผ่านตัวหนังสือบนซองยา
ยาบำรุงครรภ์!
ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างอีกครั้งด้วยความดีใจสุดแสน ขนลุกไปหมดด้วยความตื่นเต้น
“นี่ขวัญท้องเหรอ!...” เสียงเขาดังลั่นบริเวณนั้น เรียกให้หลายคนหันมามอง
“ดิฉันไม่ใช่ขวัญ แล้วก็ปล่อยได้แล้วค่ะ” ร่างแบบบางเขย่งเท้าเพื่อดึงยาและถุงยาจากมือเขาจนสำเร็จ
“โอ๊ย พี่ดีใจที่สุดเลย...” ปักษ์ยังคงตื้นตันกับข่าวดีที่คู่หมั้นสาวมอบให้ ไม่ได้สนใจฟังคำพูดของเธอ เขาพรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานละมุน “ขอบคุณสำหรับของขวัญ...”
“ปล่อยค่ะ บอกแล้วไงคะว่าไม่ใช่ขวัญ” เสียงของหญิงสาวเด็ดขาดขึ้น ขณะที่ใบหน้าซับสีระเรื่อจากการถูกกอดและหอมแก้ม
“โถ งอนที่พี่...” พูดยังไม่ทันจบ เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน ปรากฏว่าเป็นขวัญระมิงค์นั่นเอง!
ปักษ์มองหน้าจอโทรศัพท์สลับกับมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความงงงันสุดชีวิต
“ขวัญ...”
ส่วนหญิงสาวที่หน้าเหมือนขวัญระมิงค์คนนั้น เมื่อเป็นอิสระ เธอก็หมุนตัวเดินจากไปด้วยความรวดเร็ว ปักษ์มองตามเธอไปไม่วางตา นาทีนั้น หัวใจของเขากระตุกวูบด้วยความรู้สึกแปลก ๆ บอกไม่ถูก นอกจากความแปลกใจแล้ว ทำไมเขารู้สึกใจหายกับภาพที่เธอหันหลังให้เขานะ?
“ฮัลโหล พี่ปักษ์ ขวัญจะโทร.มาบอกว่า เดี๋ยวขวัญจะไปคอนโดเพื่อนต่อนะคะ พี่ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องโทร.หาขวัญนะ ออกจากคอนโดเพื่อนแล้วขวัญจะโทร.หาค่ะ ฮัลโหล พี่ปักษ์ ได้ยินหรือเปล่า” ปลายสายถามย้ำเมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากทางนี้
“เมื่อกี้พี่เจอคนหน้าเหมือนขวัญ” ปักษ์เอ่ยเสียงเบาเหมือนละเมอ สายตายังมองไปยังด้านหน้าโรงพยาบาลที่หญิงสาวคนนั้นเพิ่งเดินพ้นไป
“ว่าไงนะคะ!” น้ำเสียงขวัญระมิงค์บ่งบอกความตระหนก “แล้วเขาพูดอะไรกับพี่ปักษ์หรือเปล่า”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยขณะตอบ “ไม่จ้ะ เขาบอกแค่ว่าเขาไม่ใช่ขวัญ...ขวัญรู้จักเขาใช่ไหม ตกลงเขาคือ...?”
“ปิ๊ง คู่แฝดขวัญเองค่ะ”
“พี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าขวัญมีแฝด” ปักษ์เอ่ยทึ่ง ๆ
“ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกค่ะ ปิ๊งเขาอยู่กับแม่ อ้อ จริง ๆ ต้องบอกว่า ขวัญก็ไม่เคยรู้หรอกค่ะว่าตัวเองมีแฝด เพิ่งจะรู้ก็ตอนงานศพแม่เมื่อสองปีที่แล้วนี่เองค่ะ”
“อ้อ” เขาทำเสียงรับรู้
“ว่าแต่พี่ปักษ์เจอปิ๊งที่ไหนคะ”
“โรงพยาบาลนี่แหละ เดินชนกันพอดี”
“เขาเป็นอะไรเหรอคะ” ถามอย่างอยากรู้มากกว่าจะเป็นห่วง
“เธอน่าจะมาฝากครรภ์นะ พี่เห็นเธอถือยาบำรุงครรภ์”
“ว่าไงนะ! ปิ๊งท้องเหรอคะ” ขวัญระมิงค์ส่งเสียงตกใจกว่าเมื่อครู่ “แค่นี้ก่อนนะคะพี่ปักษ์” แล้วเธอก็กดตัดสายไป
ปักษ์เลยได้แต่มองมือถือแบบงง ๆ อีกครั้ง งงที่เธอไม่เคยบอกเขาว่ามีคู่แฝดและในงานหมั้นก็ไม่ปรากฏคู่แฝดของเธอ
ไม่สนิทกันขนาดนั้นเลยหรือ?