สายใยที่แสนบางเบา

1442 Words
เธอไม่ควรเชื่อคำพูดของคนหน้าซื่อแบบพิงค์ลานนาใช่ไหม คิดได้ดังนั้น เธอก็โทร.หาพี่สาวทันที แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่รับ เธอจึงตัดสินใจไปหาฝ่ายนั้นด้วยความร้อนใจ ตอนที่ไปถึง พิงค์ลานนาอยู่คนเดียว เพราะแดนกับณดากลับไปแล้ว “ตกลงมาหาปิ๊ง มีอะไรเหรอ” พิงค์ลานนาถามขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทั้ง ๆ ที่พอจะเดาออกแต่แรก “พ่อเขาอยากรู้ว่าแฟนปิ๊งเป็นใคร ทำไมพวกเราไม่เคยเจอแฟนปิ๊งเลย” “มาเพื่อถามเรื่องนี้เนี่ยนะ” “ขวัญถามก็ตอบมาสิ ตกลงแฟนอยู่ไหน” “เขาไม่ได้อยู่ที่นี่” “เขาไปไหนล่ะ ทำไมใจร้าย ปล่อยเมียอยู่บ้านคนเดียว ไม่ห่วงบ้างหรือไง” “ปิ๊งจะไม่พูดเรื่องนี้...ถ้าขวัญมีธุระอื่นก็รีบพูดมา ปิ๊งมีอะไรต้องทำอีกหลายอย่าง” พิงค์ลานนาตัดบท ขวัญระมิงค์มองสบตาพี่สาวตรง ๆ “ถ้างั้นก็จะไม่อ้อมค้อมแล้วนะ...ตกลงไม่มีแฟนใช่มั้ย” “มี” “แล้วอยู่ไหน” “เขาไม่ได้อยู่ที่นี่” แฝดพี่ย้ำประโยคเดิม “ไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เพราะเขากำลังจะแต่งงานใช่มั้ย!” ถามเสียงคาดคั้น ยื่นหน้ามาจนเกือบชิด ดวงตาที่เป็นพิมพ์เดียวกันมองสบกัน คู่หนึ่งเต็มไปด้วยความตกใจ อีกคู่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว “ตอบมา!” “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับขวัญนะ เขาจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับขวัญ” “แน่ใจนะว่าไม่เกี่ยว ถ้าไม่เกี่ยวแล้วจะไปวอแวกับว่าที่เจ้าบ่าวของขวัญทำไม!” “บอกหลายรอบแล้วว่าทำงานให้เขา งานจ้างผ่านบริษัท และปิ๊งก็ทำงานในบริษัทนั้น” “เหรอ? การยืนดูชุดแต่งงานด้วยกัน เลือกเสื้อผ้าเด็กด้วยกันก็เป็นงานเหรอ” ขวัญระมิงค์กระชากเสียงอีก พิงค์ลานนาไม่แปลกใจ เพราะเดาไว้อยู่แล้ว “ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นเพื่อนขวัญเหรอ” “ใช่ แล้วปิ๊งกับพี่ปักษ์สวีทกันเบอร์ไหน เขาถึงคิดว่าเป็นพ่อแม่ลูกน่ะ บอกขวัญมานะ...ปิ๊งท้องกับพี่ปักษ์ใช่มั้ย!” “ขวัญ...” พิงค์ลานนาครางด้วยความตกใจ “ไหนบอกว่าไม่มีอะไรกันไง!” ขวัญระมิงค์กรีดเสียงด้วยความโมโห การที่พิงค์ลานนาไม่ปฏิเสธ นั่นเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดแล้ว “ปิ๊งนี่แรดกว่าที่คิดไว้นะ” เค้นเสียงด้วยความโกรธและเกลียดชัง “แย่งแม่ไปจากขวัญแล้วคิดจะแย่งผัวขวัญอีกเหรอ ถามหน่อย มีความละอายใจบ้างมั้ย!” พิงค์ลานนาน้ำตาคลอ มองน้องสาวด้วยความรู้สึกผิดในเรื่องของปักษ์ เธออดย้อนนึกไปถึงวันที่เขากลับจากโรงพยาบาลไม่ได้ วันที่เขาและเธอเป็นของกันและกันครั้งแรกนั่นละ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของเธอที่ปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิด เพียงเพราะเธอรักเขา อยากใช้เวลาแสนดีกับเขาก่อนที่เธอจะต้องจากมาเพื่อให้ขวัญระมิงค์ตัวจริง ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เขารัก ได้อยู่เคียงข้างเขา แต่เธอไม่คิดว่าตัวเองจะตั้งท้อง “ปิ๊งขอโทษเรื่องพี่ปักษ์...” “เลว เลวมาก ปิ๊งทำกับขวัญแบบนี้ได้ยังไง หา ทำได้ยังไง!” “ปิ๊งจะไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น ปิ๊งก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ปิ๊งถึงไม่คิดจะบอกเรื่องที่ปิ๊งท้องไงล่ะ” “เฮอะ! แต่ก็พาตัวเองไปวน ๆ เวียน ๆ อยู่ใกล้ ๆ เขา ทุเรศ!” “คุยกันไปก็ไม่จบ เพราะขวัญฟันธงแล้วว่าปิ๊งตั้งใจทำอย่างนั้น...ขวัญควรจะเชื่อใจพี่ปักษ์ว่าเขารักขวัญและจะไม่มีวันรักผู้หญิงคนไหนอีก” “ที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะกูเชื่อใจเหรอ เรื่องมันถึงเป็นแบบนี้อะ” ระเบิดอารมณ์อย่างเหลืออด “เพราะกูไว้ใจทั้งแฟนทั้งพี่สาวกูไง วันนี้กูถึงโดนสวมเขาอยู่นี่ไง อีปิ๊ง!” ไม่พูดเปล่า ขวัญระมิงค์ยื่นมือไปบีบคางคนพี่จนอีกฝ่ายนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ น้ำตาพิงค์ลานนายิ่งไหลแรง “แต่ไม่ว่ายังไง ปิ๊งก็ยืนยันว่าปิ๊งไม่เคยคิดจะแย่งพี่ปักษ์” แล้วเธอก็แกะมือน้องสาวออกจนสำเร็จ “เสร็จงานนี้ ก็คงไม่ได้เจอเขาแล้ว ต่างคนต่างอยู่ ขอให้ไว้ใจ” “กูไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว” อีกคนยังคงหยาบคายต่อเนื่อง “หรือถ้ามึงอยากให้กูเชื่อ มึงก็ต้องพิสูจน์มา” “ด้วยการ?” “ไม่ต้องทำงานนั่น แล้วก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นซะ จะได้ไม่ต้องเจอพี่ปักษ์อีก กลับเมืองจันทน์ก็ได้ โดยที่ไม่ต้องบอกพี่ปักษ์ว่าท้องกับเขา” “ถ้าปิ๊งจะบอก ปิ๊งบอกไปนานแล้ว โอกาสที่จะบอกก็มีเยอะแยะ...ปิ๊งว่าเราหยุดคุยเรื่องนี้กันเถอะ” พิงค์ลานนาตัดบทด้วยความรู้สึกเหนื่อยหนักหัวใจ “ปิ๊งไม่อยากทะเลาะกับขวัญเพราะเรื่องนี้ เราต่างคนต่างแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเองเถอะ” “เห็นมั้ยล่ะ มึงก็ทำไม่ได้ เพราะมึงอยากจะแย่งผัวกู!” “ขวัญ...” คนพี่พยายามปรามเพื่อให้อีกคนมีสติ แต่ไม่เป็นผล “โอเค ๆ ถ้าหยุดทำงานไม่ได้ ออกห่างพี่ปักษ์ไม่ได้ มึงก็ต้องทำแท้ง!” “ขวัญ!” พิงค์ลานนาเรียกชื่อนั้นอย่างไม่อยากเชื่อหู ขณะเดียวก็มองน้องสาวเหมือนมองคนแปลกหน้าคนหนึ่งที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน อ้อ ก็จริงนี่นะ เธอไม่เคยรู้จักอีกฝ่ายมาก่อนเลย ไม่คิดเลยว่าจะใจร้ายใจดำขนาดนี้ “พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า” “รู้ตัวสิ แล้วมึงล่ะ รู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป ปล่อยตัวเองให้ท้องเพราะหวังจะจับเขางั้นสิ” “ปิ๊งไม่เคยคิดแบบนั้น” “ก็พูดแต่คำเดิม ๆ แต่บอกให้ทำแท้งก็ไม่ยอมทำ จะปล่อยให้เด็กคลอดออกมาแล้วให้ดีเอ็นเอบนหน้าเด็กฟ้องว่าลูกใครใช่มั้ย” พิงค์ลานนาส่ายหน้า “ปิ๊งจะไม่มีวันฆ่าลูกตัวเอง” “ถ้างั้นก็ย้ายกลับเมืองจันทน์ไปเลย หรือไปอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่กรุงเทพ ไม่ใกล้พี่ปักษ์ อย่าให้พี่ปักษ์หรือคนในครอบครัวเขาเห็นหน้าอีกเด็ดขาด” ทุกคำพูดล้วนแล้วแต่ความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการ โดยไม่สนเหตุสนผลอะไรทั้งสิ้น “ทุกอย่างมันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก” “แล้วจะทำให้มันยากทำไมเนี่ย กูไม่เข้าใจ ไหนตอบมาซิ ทำไมต้องทำเรื่องให้มันยุ่งยากด้วย” พิงค์ลานนาเงียบ รู้ว่าพูดอธิบายเท่าไรขวัญระมิงค์ก็ไม่มีวันยอมรับฟัง “ทำไม แค่นี้ทำเพื่อกูไม่ได้เหรอ เฮอะ! จำไม่ได้เหรอว่าจดหมายของแม่เขียนไว้ว่ายังไง บอกให้รักน้อง ให้คอยดูแลน้องไง” แฝดของเธออ้างจดหมายของแม่ที่เขียนไว้แนบคู่กับพินัยกรรมที่บอกให้พิงค์ลานนาคอยดูแลน้องสาวให้ดี ให้หมั่นไปหา และต้องคอยดูแลพ่อด้วย ให้เธอทำครอบครัวให้เป็นครอบครัว ซึ่งที่ผ่านมา เธอเคยพยายามแล้วแต่มันไม่สัมฤทธิผล เนื่องจากพ่อกับขวัญระมิงค์ปิดกั้นตัวเองจากเธอ ไม่ยอมให้เธอก้าวไปในโลกของพวกเขา แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็พยายามเหลือเกินที่จะรุกล้ำชีวิตของเธอ “ดูแล ก็ไม่ได้หมายความว่ายอมให้ขวัญเอาแต่ใจทุกอย่างแบบนี้นะ ปิ๊งจะไม่ทำแท้งเด็ดขาด ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ทำ ขวัญกลับไปได้แล้ว เชิญ!” ขวัญระมิงค์เม้มปากแน่นด้วยความเดือดดาลที่ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างใจคิดหวัง “กลับก็ได้ แต่บอกได้เลย ถ้ามึงยังไม่หยุดวุ่นวายกับพี่ปักษ์ กูก็จะไม่หยุดกับมึงเหมือนกัน อีปิ๊ง!” แล้วก็สะบัดหน้าจากไป พิงค์ลานนาร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ ส่วนหนึ่งเพราะรู้สึกผิดกับการปล่อยใจปล่อยกายของตน แต่อีกส่วน เธอร้องเพราะเห็นได้ชัดว่าสายใยพี่น้องจากที่บางเบาอยู่แล้ว มาตอนนี้กลับบางมากขึ้นไปอีก บางจนน่ากลัวว่าไม่ช้าไม่นานคงขาดสะบั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD