หญิงสาวสั่นหน้าเร็ว ๆ
“อยู่ด้วยกันไม่ได้หรอกค่ะ นิสัยต่างกันมากเกินไป และพ่อกับขวัญก็ไม่ชินกับการที่จะมีสมาชิกคนอื่นในบ้านด้วย อึดอัดตายเลย...เออ กินข้าวเสร็จแล้วเราไปฟังเพลงกันต่อนะคะ” หญิงสาวตัดบทไปเรื่องอื่น เอียงหน้าซบไหล่เขาและเอ่ยเสียงออดอ้อน “ห้ามอ้างว่าคุณหมอไม่ให้ใช้สายตาหนักอีกนะคะ ผ่านมาเกือบสามเดือนแล้ว ดวงตาพี่ใช้ได้ปกติแล้วละ” เธอดักคอ มองเขาอย่างรู้ทัน
“ยังหรอกจ้ะ พี่ต้องดูแลดวงตาตัวเองต่อไปอีกสักพักเลย ขวัญไปกับเพื่อน ๆ เถอะนะ” ปักษ์บอกไปตามตรง เขายังต้องพักสายตาไปอีกสักระยะจริง ๆ แต่ความจริงนั้นทำให้หญิงสาวหน้ามุ่ยด้วยความผิดหวังและหงุดหงิด
“เราแทบไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันเลยนะคะ พี่ปักษ์”
“เอาไว้พี่หายดีจริง ๆ ก่อนสิจ๊ะ”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะคะ” เธอกระแทกเสียงเบา ๆ ด้วยความเบื่อหน่ายและมันก็สะดุดความรู้สึกของปักษ์เข้าอีกครั้ง เธอมักมีท่าทีหงุดหงิดและรำคาญต่ออาการป่วยไข้ของเขาเสมอ นี่เป็นอย่างหนึ่งที่เขารู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไป
แต่แล้วปักษ์ก็รีบปัดความรู้สึกนี้ออก เขาไม่ควรคิดกับหญิงสาวที่รักเขา ดูแลเขาด้วยหัวใจช่วงที่ชีวิตเขายากลำบาก เธออาจจะเหนื่อยกับการดูแลเขามานาน เธอควรจะมีความสุขความสบายใจเสียทีแล้ว
“ไม่นานหรอกจ้ะ ยังไงพี่ก็ต้องปกติให้ทันงานแต่งของเราแน่ ๆ”
“โห อีกตั้งครึ่งปี ขวัญก็อยากใช้เวลาแบบแฟนกับพี่ปักษ์ด้วยนะคะ ไม่ใช่รอสถานะสามีภรรยาอย่างเดียว” เธอยังคงออกอาการหงุดหงิด ผละออกห่างเขา แล้วก็หันไปสนใจอาหารตรงหน้า ปักษ์ลอบระบายลมหายใจยาว ครั้งหนึ่ง ก่อนยื่นข้อเสนอเป็นการพบกันครึ่งทาง
“ถ้างั้นพี่ขอเป็นร้านที่ฟังเพลงเบา ๆ ก็แล้วกันนะ ถ้าเป็นผับ พี่ไม่ไหวจริง ๆ”
หญิงสาวยิ้มออก สีหน้าดีขึ้นทันตาเห็น “ก็ได้ค่ะ”
คืนนั้น พอกลับถึงบ้าน หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนแล้ว ปักษ์ที่มีสีหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่างตลอดเวลา ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สนิทกับขวัญระมิงค์ มันเป็นความรู้สึกที่วาบผ่านเข้ามาจนเขาก็ตกใจตัวเอง
เขาเป็นอะไรไป?
แล้วชายหนุ่มก็ทบทวนเหตุการณ์นับตั้งแต่ได้พบและได้รู้จักคู่หมั้นตัวเองอีกครั้ง ซึ่งเขาพบว่ามีหลายครั้งที่เธอทำให้เขาพิศวงงงงวยได้
ครั้งแรก เขาพบเธอในงานแสดงเฟอร์นิเจอร์ที่ศูนย์การแสดงสินค้าเมืองทองธานี เขาไปเดินดูของกับไปรยา แล้วก็บังเอิญเดินชนเธอเข้า วันนั้นเธออยู่ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นพอดีตัวสีดำ ยัดชายไว้ในกระโปรงยีนสั้น รองเท้าผ้าใบ รวบผมตึง เผยให้เห็นวงหน้าสวยที่แต่งหน้าเพียงบาง ๆ นั้นชัดเจน เขาจำได้ว่า ดวงตาของเธอดูเศร้า ๆ แต่มันกลับจับตาเขายิ่งนัก
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตกหลุมรักใครในครั้งแรกที่พบ แต่วันนั้นเขาสลัดใบหน้าของเธอออกจากความคิดไม่ได้ นึกเสียดายที่ไม่ได้ทำความรู้จักเธอ แต่โชคชะตาก็เข้าข้างเขา เพราะวันต่อมา เขาก็ได้พบเธออีกครั้ง คราวนี้เธออยู่ในชุดแซกสั้นสีดำรัดรูป ปล่อยผมยาวสยาย และกำลังเดินเลือกเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้าอยู่กับเพื่อนผู้หญิงสามคน ปักษ์บอกตัวเองว่าเขาจะไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยอีกแล้ว จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาเธอ
เธอผู้มีชื่อแสนไพเราะว่าขวัญระมิงค์
หลังจากได้เบอร์โทรศัพท์ของเธอ เขาก็ทิ้งช่วงประมาณอาทิตย์หนึ่งถึงได้โทร.หา แล้วก็เริ่มต้นสานสัมพันธ์กันเรื่อยมา จนในที่สุดก็ตัดสินใจคบหากัน เขาพาเธอไปรู้จักกับเพื่อน ๆ ของเขา ซึ่งพวกนั้นก็อิจฉาเขายกใหญ่ที่มีแฟนสวยขนาดนี้ ในขณะที่ปราการบอกเขาว่าให้ดูเธอให้ดีก่อนตัดสินใจ
‘กูเคยเห็นแฟนมึงไปกับผู้ชายคนอื่น’
ตอนแรกเขาไม่เชื่อ แต่คืนหนึ่ง ปราการส่งรูปมาให้ เป็นรูปเธอกับผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งกินข้าวด้วยกันด้วยท่าทีสนิทสนมจริง ๆ เขาจึงตัดสินใจจะไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเอง ไปถามให้แน่ใจว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่พอใกล้ถึงร้านอาหารดังกล่าว เพื่อนก็บอกว่าเธอกับผู้ชายคนนั้นออกจากร้านไปแล้ว เขาจึงรีบขับรถตามไป แล้วก็ประสบอุบัติเหตุนั่นละ
ปักษ์หลับตาลง เผลอยกมือขึ้นแตะดวงตาของตัวเอง แล้วก็อดคิดถึงเหตุการณ์วันที่ทราบว่าตัวเองตาบอดอีกครั้งไม่ได้
เขาอาละวาด ฟาดข้าวของด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุดกับความโหดร้ายที่พบเจอ แม่ น้องสาว รวมถึงเพื่อน ๆ เข้าหน้าไม่ติดสักคน เขาไม่อยากพบใคร ไม่อยากได้ยินคำปลอบประโลมจากใครทั้งนั้น ปลอบไปก็เท่านั้น คนปลอบไม่ได้เป็นเหมือนเขานี่ ก็พูดได้สิ!
แต่แล้วเสียงหวาน ๆ ที่ไม่ค่อยมั่นใจนักเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
‘พี่ปักษ์…’
‘ขวัญ ขวัญเหรอจ๊ะ’ เขาหันตามที่มาของเสียง ยกมือออกไปไขว่คว้าหาเธอ แล้วมือนุ่มนิ่มแต่เย็นเฉียบของเธอก็เข้ามาอยู่ในอุ้งมือเขา
‘ขอโทษนะคะที่เป็นต้นเหตุให้พี่ต้องเป็นแบบนี้’ เธอเอ่ยเสียงเครือ ‘เมื่อกี้เจอพี่ต้น เขาเล่าให้ฟังหมดแล้วค่ะ’
‘ขวัญอย่าโทษตัวเอง มันผิดเองที่พี่ไม่เชื่อใจขวัญ’ เขากระชับมือเธอเอาไว้แน่น
เธอไม่พูดอะไรอีก นอกจากบีบมือเขาตอบ และหลังจากวันนั้นเธอก็อาสาเป็นคนคอยดูแลเขาร่วมกับนางพยาบาล เป็นคนพาเขาหัดใช้ทักษะของคนตาบอด เธอใจเย็น ใจนิ่ง เขาอยู่ด้วยก็เย็นใจสบายใจ เธอดูแตกต่างจากก่อนที่เขาตาบอด แต่มันก็เป็นความย้อนแย้งที่ทำให้เขายิ่งหลงใหลเธอ
แต่วูบหนึ่ง เขาได้ยินเสียงหัวใจตัวเองบอกว่าจะทำอย่างไรให้ได้เธอคนที่ดูแลเขาตอนตาบอดกลับคืนมา เขารักเธอคนนั้นนัก ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าเธอในตอนนี้ดูห่างเหินกันอย่างไรพิกล