เวลาผ่านไปช้าๆ ผู้คนยิ่งนานยิ่งหนาตา เบียดเสียดหนาแน่นวุ่นวาย ในที่สุด ...ขบวนเสด็จที่รอคอยก็ปรากฏ เสียงแซ่ซ้องดังกระหึ่มกึกก้อง ชาวเมืองหมิงเวยพากันคุกเข่าลง ร้องสรรเสริญองค์รัชทาทยาทต้าถัง ผู้เปรียบประดุจเทพบนฟากฟ้าแต่เลือกย่ำพสุธาบนแดนมนุษย์ เพื่อบรรเทาทุกข์ทั่วสารทิศ หากกล่าวตามจริง การที่ชาวประชาราษฎร์ต่างชื่นชมเพียงจ้าวเหว่ย ทั้งยังกล่าวถึงความเปี่ยมบารมีแผ่ไพศาลของเขายิ่งกว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเช่นนี้ นับว่าไม่เหมาะสมอยู่มาก บุตรไม่อาจเหนือกว่าบิดา จ้าวเหว่ยย่อมรู้ดีว่าการใดควรไม่ควร คำสั่งเคลื่อนทัพแม้เป็นเขาเสนอตัว ทว่าความจริงย่อมเป็นเพราะอำนาจแห่งพระราชดํารัสของพระบิดา เขาจึงให้หัวหน้าขบวนกล่าวคำนำแซ่ซ้องต่อพระองค์ไปจนสุดทาง ความหมายว่าอำนาจบารมีของจักรพรรดิอยู่สูงที่สุด แผ่ไพศาลยิ่งกว่าใคร ชาวบ้านจึงพร้อมใจเปลี่ยนมากล่าวคำสรรเสริญดังกึกก้องว่า ‘ต้าถ