EP 1 ตีสองสิบนาที 1

1199 Words
ท่ามกลางตึกสูงระฟ้าใจกลางกรุงเทพมหานคร มีอาคารหลังเล็กสีฟ้าอมม่วงสไตล์วินเทจซุกซ่อนอยู่ในสวนเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยต้นกุหลาบนานาพันธุ์กำลังแบ่งบานอวดสีสันและกลิ่นหอมละมุนโชยฟุ้งไปทั่ว กุหลาบเฉาดอกหนึ่งร่วงลงพื้นเมื่อร่างอรชรในเดรสสีชมพูอ่อนเดินเฉียดผ่าน หญิงสาวก้าวขึ้นบันไดไม้ห้าขั้น ผ่านระเบียงไม้สีขาวไปจนถึงประตูกระจกใสและผลักบานประตูเปิดเข้าไป กระดิ่งเล็กๆ หน้าร้านส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊ง แล้วกลิ่นหอมอวลของขนมหวานและกาแฟก็โชยกรุ่นมาทักทายพร้อมเสียงหวานๆ ของพนักงานหลังเคาน์เตอร์ทันที “สวัสดีค่ะ คุณหลิน” กณิการ์ยิ้มและพยักหน้ารับ ก่อนก้าวเข้าไปหลังร้านที่มีออฟฟิศเล็กๆ ซุกซ่อนอยู่ใกล้กันกับครัว หญิงสาววางกระเป๋าลงบนโต๊ะทำงานแล้วหาวหวอด เธอทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งของตนคือเจ้าของร้าน...เพียงแค่อึดใจเดียวหลังจากนั้น เสียงเคาะประตูก็ดัง ก่อนปรากฏร่างอวบของสุจีรา ผู้จัดการร้านสาวใหญ่ผู้รู้ใจเจ้านายที่สุดในสามโลกก้าวเข้ามาพร้อมถ้วยกาแฟเอสเปรสโซ่ควันกรุ่นพร้อมโถนมร้อนแกล้มมาการองรสมะม่วงสีเหลืองนวล “ดับเบิลช็อตค่ะคุณหลิน เมื่อคืนนอนไม่พออีกแล้วใช่ไหมคะ” กณิการ์พยักหน้ารับทั้งๆ ที่ยังหลับตา กลิ่นกาแฟเพียวๆ ที่โชยมาทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นนิดหน่อย แต่การที่ได้นอนเพียงคืนละสามสี่ชั่วโมงติดๆ กันมาตลอดสัปดาห์ ก็ทำให้เธออยากล้มตัวลงไปแล้วหลับเป็นตายสักปีสองปีให้หายง่วงอยู่ดี “ฝันแบบเดิมอีกแล้วพี่หญิง” กณิการ์ยกมือขึ้นลูบหน้า “หลินสะดุ้งตื่นเวลาเดิมตลอดเลย ตีสองสิบนาที...แล้วพยายามนอนเท่าไรก็ไม่หลับอีกเลย อ้อ...เมื่อคืนหลินนอนไม่หลับเลยลุกมาคิดสูตรขนมที่คิดค้างไว้ค่ะ พี่หญิงเอาไปให้เชฟปุ้ยลองทำดูนะคะ หลินว่ามันยังไม่ค่อยโอเคเท่าไร เหมือนขาดอะไรแต่คิดไม่ออก ฝากพี่หญิงบอกเชฟปุ้ยให้ทำต่อทีนะคะ” หญิงสาวค้นเอกสารสูตรอาหารใหม่ที่จดด้วยลายมือจากในกระเป๋าส่งไปให้สุจีรา “ถ้าหลินได้นอนมากกว่านี้คงดี นี่สำนักพิมพ์ก็อยากได้ต้นฉบับเล่มใหม่ด้วย” เธอหมายถึงหนังสือทำขนมที่เธอเขียนส่งตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งนานๆ ครั้ง “แต่หลินตื้อตันไปหมดเลยค่ะ เมื่อเช้าก็แทบจำไม่ได้เลยว่าขับรถมาถึงร้านได้ยังไง” กณิการ์หาวหวอด “สงสัยหลินต้องไปพบจิตแพทย์แล้วค่ะ แบบด่วนๆ เลย” สุจีราขมวดคิ้ว มองเจ้านายสาวที่กำลังยกถ้วยกาแฟขึ้นเป่าให้คลายร้อน “พักงานสักหน่อยดีไหมคะคุณหลิน แทนที่จะไปหาหมอ ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวทะเล นอนเปลญวน เขียนหนังสือ สักเดือนสองเดือนก็ได้นะคะ เดี๋ยวพี่ดูร้านให้” มือขาวนวลวางถ้วยกาแฟลงบนจานรองทั้งที่ยังไม่ได้จิบ ดวงตาบวมจัดจากการอดนอนมองไปที่ตู้เก็บแฟ้มเอกสารอย่างครุ่นคิด เธอเป็นผู้หญิงบ้างาน กณิการ์รู้ตัวดี แต่มันช่วยไม่ได้ที่ความยากจนข้นแค้นเมื่อครั้งยังเยาว์เป็นสิ่งผลักดันให้เธอถือคติว่าถ้าไม่ทำงานก็จะไม่มีข้าวกิน กณิการ์จึงทำงานหนักมาตลอดตั้งแต่จำความได้ ทั้งรับจ้างล้างจานตามร้านอาหาร รับทำรายงาน ตลอดจนช่วยคุณย่าทำขนมขาย กว่าจะมาถึงจุดนี้ เรียกได้ว่าจากการได้รับโอกาสและความพยายามล้วนๆ ควันกาแฟที่โชยกรุ่นอยู่เหนือถ้วยนั้นวูบไหวเหมือนถูกลมจากที่ไหนพัดมา แต่กณิการ์จำได้ว่าเธอยังไม่ได้เปิดหน้าต่างหรือแม้กระทั่งเครื่องปรับอากาศเลย หญิงสาวเงยหน้ามองสุจีราที่ยังคงยืนรอฟังคำตอบ และคิดว่าตนเองคงอุปาทานไปเอง คงเพลียเกินไปจนคิดเองเออเองว่ามีลมปริศนาพัดพามาจากไหนไม่รู้ “เอาไว้หลินจะลองคิดเรื่องพักงานดูนะคะ ขอบคุณค่ะพี่หญิง” สุจีรายิ้มรับ ก่อนขอตัวออกไปช่วยพนักงานดูแลลูกค้าที่ทยอยกันเข้าร้านมาจนเกือบแน่นขนัด ปล่อยให้เจ้าของร้านสาวจัดการเอกสารการเงินที่ต้องเคลียร์ก่อนสิ้นเดือน จนลืมดื่มกาแฟเอสเปรสโซ่ดับเบิลช็อตบนโต๊ะทำงานตรงหน้าเสียสนิท กระทั่งเกือบเที่ยงแล้วที่กณิการ์เดินออกจากออฟฟิศไปหน้าร้านด้วยท่าทางเร่งรีบ “พี่หญิงคะ” หญิงสาวเอ่ยเรียกสุจีราที่กำลังออกคำสั่งกับพนักงานเสิร์ฟ เมื่อผู้จัดการร้านหันมา เธอจึงเอ่ยปากบอก “เดี๋ยวหลินไปธุระก่อนนะคะ ลืมไปเลยว่าวันนี้วันเกิดปุ่น หลินจะออกไปหาซื้อของขวัญหน่อย” เธอหมายถึงไปรยา เพื่อนสนิทที่เคยเรียนโรงเรียนมัธยมที่เดียวกัน แม้แยกย้ายกันไปตอนเรียนมหาวิทยาลัยเพราะไปรยาเลือกเรียนเอกชน ส่วนเธอสอบติดมหาวิทยาลัยรัฐ แต่พวกเธอก็ยังติดต่อกันอยู่เสมอ “วันนี้คงไม่เข้าร้านแล้ว ถ้ามีอะไรด่วนโทร.เข้ามือถือหลินนะคะ” “ค่ะ คุณหลิน” สุจีรามองตามหลังเจ้านายสาวที่เดินออกจากร้านไป ก่อนจะหันกลับมาสั่งงานพนักงานต่อแล้ววุ่นวายอยู่กับลูกค้าที่ล้นออกไปถึงโต๊ะสำรองในสวนกุหลาบ เธอโทร.หากณิการ์หนึ่งครั้งเพราะคอลัมนิสต์และตากล้องจากนิตยสารฉบับหนึ่งเดินทางมาขอพบตามนัดหมาย สุจีราพอจะเดาได้ว่ากณิการ์ลืมนัดกับคอลัมนิสต์แล้ว เหมือนที่หลงลืมเรื่องอื่นๆ อีกมากมายเพราะนอนไม่พอ “ขอโทษครับ คุณหญิง” สุจีราเงยหน้าจากเคาน์เตอร์มองสบตาคอลัมนิสต์หนุ่มกับตากล้องที่นั่งกินขนมรอเจ้านายของเธอมากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว เธอยิ้มรับอย่างมืออาชีพ ขณะในใจกำลังลุ้นว่าขอให้กณิการ์เปิดประตูร้านเข้ามาในวินาทีนี้ทีเถอะ “พวกผมว่าจะกลับกันก่อน” คิ้วหนาขมวดมุ่น ก่อนก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ ขณะที่เสียงโทรศัพท์มือถือของร้านดังกังวาน พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ สุจีราจึงหันไปรับสายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “เดี๋ยวพวกผมต้องไปสัมภาษณ์ที่อื่นต่อครับ นี่ก็ช้ามากแล้ว ถึงคุณหลินจะกลับมาตอนนี้ก็คงไม่ทะ...” “พี่หญิง!” ทุกสรรพเสียงในร้านเงียบลงทันควันเมื่อพนักงานสาวกำโทรศัพท์มือถือแน่นขณะหันมาตะโกนเรียกจนสุจีราตวัดสายตามองอย่างคาดโทษ แต่แทนที่หญิงสาวจะขอโทษลูกค้าและแขก เธอกลับเบิกตาโต ใบหน้าตื่นตระหนกลนลาน ขณะเอ่ยตะกุกตะกักบอกข่าวที่ทำให้สุจีราแทบลมจับ “คุณหลินรถชนพี่...ตอนนี้อยู่ห้องฉุกเฉิน!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD