บทนำ

1444 Words
ณ บ้านหลังหนึ่งในยามค่ำคืน... "เอ้าชนแก้ว!" เสียงอึกทึกของผู้คนที่มาร่วมงานกินเลี้ยงวันแต่งงานของผีเจ้าที่นามว่าวายุนั้นดังขึ้นเป็นระยะ ขณะดื่มกินและร่ายรำรอบกองไฟหน้าบ้านของเขา   "แม่กับน้องล่ะ หายไปไหนแล้ว" ดวงวิญญาณแกร่งเอ่ยถามผู้เป็นเจ้าสาวเมื่อเห็นว่าเธอกำลังเดินโซซัดโซเซตรงเข้ามายังจุดที่เขานั่งอยู่   "แม่ขึ้นไปนอนตั้งนานแล้วค่ะ ส่วนไม้กำลังดื่มกับยัยนาวแล้วก็เพื่อนคนอื่น ๆ ของหมี่แล้วก็บริวารของปู่" เสียงหวานหย่อนยานตอบผู้เป็นเจ้าบ่าวก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนตักกว้าง "ปู่คิดว่าแม่กับไม้จะสงสัยเพื่อนของปู่ไหม" เสียงหวานถามผู้เป็นเจ้าบ่าวต่อเมื่อนึกถึงเพื่อน ๆ ของเขาที่มาจากโลกวิญญาณ   "ไม่หรอก พวกนั้นเป็นเจ้าที่ ลืมไปแล้วหรือไงว่าพวกเจ้าที่น่ะแข็งแกร่งขนาดไหน ไม่มีใครพลาดท่าทำให้คนเป็นจับได้ว่าตัวเองเป็นผีหรอก" เสียงทุ้มเย็นยะเยือกเอ่ยตอบผู้เป็นเจ้าสาว   วายุกับมัดหมี่ทั้งคู่มีสถานะที่ต่างกัน วายุเป็นดวงวิญญาณผีเจ้าที่ที่คอยปกป้องบ้านและผู้อาศัยในบ้านของเธอ ส่วนเธอเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่พลาดท่ามีอะไรกับเขา จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปจนกลายเป็นความรักและแต่งงานกันในที่สุด   "เธอโอเคไหมที่ฉันให้จัดงานเลี้ยงที่บ้านแทนที่จะเป็นโรงแรม" เจ้าของเสียงทุ้มก้มลงไปถามเจ้าสาวที่นั่งอยู่บนตักขณะกดปลายจมูกคมลงบนแก้มเนียนไปด้วย   "หมี่โอเค งานเราเล็ก ๆ มีเฉพาะคนรู้จักไม่กี่คนมาทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกัน ไม่จำเป็นต้องไปโรงแรมหรอก อีกอย่างปู่กับเจ้าที่คนอื่นก็จะเข้างานลำบากด้วยเพราะมันอยู่นอกเขตปกครองของปู่ ต้องขออนุญาตเจ้าที่เขตอื่นให้วุ่นวายอีก" ผู้เป็นเจ้าสาวเอ่ยตอบดวงวิญญาณแกร่ง   ถึงเธอจะรู้ว่าเจ้าบ่าวของเธอนั้นแข็งแกร่งที่สุดในภพนี้หากไม่นับเจ้าแห่งภพชาติผู้ปกครองดวงวิญญาณ เขาต้องปกป้องเธอและพวกพ้องได้แน่หากออกไปนอกเขตปกครองของเขาแล้วเจอกับดวงวิญญาณร้าย แต่เธอก็ไม่อยากให้ผู้เป็นเจ้าบ่าวนั้นลำบาก อีกทั้งไม่อยากให้มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในงานแต่งของเธอด้วย การเลือกสถานที่จัดงานเป็นที่บ้านของเธอเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด   "ฉันดีใจนะที่เธอเข้าใจ" ดวงวิญญาณแกร่งส่งยิ้มให้ผู้เป็นเจ้าสาวขณะที่มือหนาลูบผมเธอเบา ๆ   "เพราะหมี่รักปู่ไง แต่ตอนนี้ช่วยอุ้มหมี่ไปนอนก่อนได้ไหม ตอนนี้หมี่ง่วงมากเดินไปนอนไม่ไหวแล้ว" น้ำเสียงออดอ้อนของผู้เป็นที่รักทำให้ดวงวิญญาณแกร่งอดยิ้มตามไม่ได้ เขาไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาหากแต่ช้อนร่างบางในชุดคาวบอยสาวขึ้นในท่าเจ้าสาวก่อนจะเดินฝ่าวงล้อมของเพื่อน ๆ ไป   "มะนาวแกอย่าดื่มเยอะน้า~ เมาแล้วก็รีบกลับบ้านนะรู้ป่าว~" ผู้เป็นเจ้าสาวหันไปตะโกนบอกเพื่อนรักที่นั่งกระดกเครื่องดื่มสีอำพันลงคออยู่กลางวงล้อมของเหล่าดวงวิญญาณ เธอไม่เคยบอกใครว่าเจ้าบ่าวของเธอไม่ใช่คนรวมทั้งเพื่อนของเขาที่มาร่วมงานในคืนนี้ด้วย แน่นอนว่าเรื่องนี้ถูกปิดเป็นความลับแม้กระทั่งคนในครอบครัวของเธอก็ไม่มีใครรู้ว่าเขยคนโตของบ้านเป็นผีเจ้าที่   "รู้แล้วน่า~ บ้านฉันอยู่ข้างบ้านแกนะ ฉันกลับไหวอยู่แล้วไม่ต้องเป็นห่วง~" น้ำเสียงหย่อนยานของเพื่อนรักตะโกนกลับก่อนจะหันไปสนใจเครื่องดื่มต่อ   เนื่องจากยุคสมัยและภพชาติที่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหลายร้อยปีก่อนเจ้าแห่งภพชาติได้มีประกาศให้ผีเจ้าที่บนผืนแผ่นดินนั้นเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นชื่อหรือการพูดจาก็ให้เป็นไปตามสมัยนั้น ๆ อีกทั้งเสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับแต่ละยุคสมัย เผื่อว่าวันหนึ่งวันไหนเกิดพลาดท่ามีเรื่องราวทำให้เจ้าของบ้านที่เป็นคนปกติเห็นเข้าจะได้ไม่ตกอกตกใจจนเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น และไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันเดือนปีหรือกี่ภพชาติ วิญญาณเจ้าที่เหล่านี้ก็ไม่ได้ไปผุดไปเกิดแต่จะคอยคุ้มครองผู้คนและดูแลบ้านแต่ละหลังที่ถูกสร้างขึ้นไม่ไปไหน แม้จะมีสิ่งก่อสร้างเกิดขึ้นมากมายแต่ดวงวิญญาณที่ถูกบรรจุในตำแหน่งผีเจ้าที่ก็มีมากพอกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทุกหนทุกแห่งจึงมีเจ้าที่อยู่เต็มไปหมด   อีกมุมหนึ่ง... คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงเพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันปล่อยผีทำให้มีแสงจันทร์สาดส่องอยู่ทั่วทุกมุม เป็นค่ำคืนที่ดีเลยทีเดียว   ฟิ้ว〜 สายลมยามดึกที่พัดผ่านมาไม่ได้ทำให้ดวงวิญญาณหนุ่มซึ่งนั่งห้อยขาอยู่บนหลังคาบ้านนั้นสะทกสะท้านแม้แต่น้อย ดวงตาดำขลับจ้องมองผู้คนและเหล่าดวงวิญญาณที่กำลังสนุกสนานอยู่หน้าบ้านหลังตรงข้ามด้วยแววตาเรียบเฉย   "ท่านเพทายกลับมาเร็วจังเลยครับ ข้างนอกยังดูสนุกสนานกันอยู่เลย" เสียงทุ้มเย็นยะเยือกของบริวารเอ่ยถามผู้อาวุโสกว่าขณะลอยขึ้นมาหาเขาบนหลังคาบ้าน   "สนุกก็จริง แต่พอท่านปู่กับท่านย่าไปพักผ่อนแล้วก็ไม่รู้จะคุยกับใครต่อ" เขาตอบบริวารอายุน้อยขณะหันไปสบตาด้วย "มึงก็ไปสนุกกับเขาสิ เดี๋ยวคืนนี้กูเฝ้าบ้านเอง จะกลับมาตอนไหนก็ได้ไม่ต้องรีบ"     "ขอบคุณครับท่านเพทาย" บริวารอายุน้อยเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจก่อนจะหายวับเข้าไปในงานปล่อยให้ดวงวิญญาณอาวุโสทำหน้าที่เฝ้ายามแทนเขา   กึก กึก! "หืม?" คิ้วคมเข้มสองข้างของเจ้าที่หนุ่มขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นที่ประตูรั้วบ้าน หากแต่บ้านหลังนี้ผู้อาศัยอยู่ต่างประเทศกันหมดจะกลับมาแค่ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น "ใครมาทำอะไรตรงนั้น?" เสียงทุ้มพึมพำก่อนจะหายวับไปดูต้นตอของเสียง   "แม่ 〜 แม่เปิดประตูให้หนูหน่อย 〜" เจ้าของเสียงหย่อนยานร้องบอกคนด้านในขณะที่มือเรียวเล็กนั้นเขย่าประตูบานใหญ่ไปมา   วูบ 〜   ดวงวิญญาณหนุ่มปรากฏกายตรงหน้าเจ้าของเสียงพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เขาจำได้ว่าผู้ที่กำลังโวยวายอยู่หน้าบ้านเขาคือเพื่อนรักของท่านย่าหรือมัดหมี่เจ้าสาวท่านปู่ที่เขาเคารพรักนั่นเอง หากแต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?   "แม่ 〜 เปิดประตูให้หนูหน่อย 〜" คนด้านนอกยังคงโวยวายไม่เลิก   "มาผิดบ้านแล้วครับ ที่นี่ไม่ใช่บ้านคุณ" เสียงทุ้มเอ่ยบอกคนตรงหน้าขณะที่จ้องมองกันผ่านช่องว่างประตูรั้ว   "ไม่ใช่บ้านฉันเหรอ 〜" เจ้าของเสียงหวานเอียงคอถาม "ไปส่งหน่อย 〜 เมาแล้วกลับบ้านไม่ถูก 〜" ไม่พูดเปล่าหากแต่ร่างเล็กนั้นยังทิ้งตัวลงกับพื้นก่อนจะเอนตัวพิงประตูรั้วบ้านเอาไว้ในสภาพอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรง    วูบ 〜   คนตัวใหญ่กว่าปรากฏกายเบื้องหน้าคนไม่มีสติอีกครั้ง ก่อนจะช้อนร่างเล็กขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนและหันซ้ายแลขวาไปมา หากจะเรียกมัดหมี่ให้มารับเพื่อนเธอตอนนี้ก็เกรงว่าจะเป็นการรบกวน เพราะเขาเห็นท่านปู่อุ้มมัดหมี่กลับเข้าบ้านไปได้เมื่อไม่นานนี้เอง   "จะพาไปส่งได้ยังไง เจ้าที่บ้านเธอเมาแอ๋อยู่บ้านท่านปู่โน่น แถมยังร่ายม่านอาคมล้อมรอบบ้านเธอจนแน่นหนาขนาดนั้น ขืนฉันเข้าไปได้แตกดับก่อนวัยอันควรพอดี" เพทายส่ายหัวไปมาก่อนจะหลุบตาลงมองคนที่หลับอยู่ในอ้อมแขนด้วยสีหน้าลำบากใจ หากไม่ช่วยก็จะใจร้ายเกินไปเพราะคนในอ้อมแขนของเขาเป็นผู้อาศัยในบ้านที่เพื่อนบ้านของเขาดูแลอยู่ "ไปนอนในศาลฉันก่อนก็แล้วกัน" พูดจบดวงวิญญาณหนุ่มก็พาร่างบางหายวับเข้าไปในศาลที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD