บ้านนี้เจ้าที่แซ่บ

ความฝัน

มะนาว…

หลังจากฉันทานมื้อเช้าเสร็จฉันก็ออกมาสัมภาษณ์งานเหมือนกับทุกวันที่มีนัดสัมภาษณ์ และทุกครั้งที่สัมภาษณ์เสร็จก็มักจะได้ยินประโยคสุดคลาสสิคจากฝ่ายบุคคลตอบกลับมาเหมือนกันทุกบริษัทฯ นั่นก็คือ 'แล้วจะติดต่อกลับไปนะคะ'

“ทั้ง ๆ ที่มีบริษัทฯ เป็นของตัวเองแท้ ๆ แต่ก็ยังอยากทำงานที่อื่นก่อน นี่ฉันยังปกติดีอยู่ไหมนะ” พอนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็เหนื่อยใจแทนแม่ฉันขึ้นมา ใช่ว่าฉันจะไม่อยากดูแลกิจการของครอบครัวแต่ฉันอยากลองออกมาหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ดูก่อนก็เท่านั้น

“ลืมถามนายนั่นจนได้ว่าเมื่อคืนมาส่งเราที่บ้านได้ยังไง แถมเมื่อเช้านายนั่นก็ไม่ยอมบอกด้วยว่าบ้านอยู่ที่ไหน เฮ้อ!” ฉันถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่เมื่อนึกถึงใบหน้าเรียบเฉยที่แฝงไปด้วยความร้ายลึกของใครบางคน บุคลิกภายนอกของเขานั้นดูสุภาพเรียบร้อยเป็นเหยื่อล่อชั้นดีที่ใครต่อใครเห็นแล้วก็ต้องตกหลุมพรางซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือฉัน แต่ภายในของเขากลับซ่อนความอันตรายเอาไว้

“ไม่น่าเสียรู้ไอ้หน้าอ่อนนั่นเลย” ฉันบ่นคนเดียวขณะเดินไปยังลานจอดรถของบริษัทฯ ที่มาสัมภาษณ์งาน “เรียนจบมาเดือนกว่าแล้วยังไม่มีงานทำเลย ทำไมงานมันหายากแบบนี้นะ หรือต้องไปช่วยงานแม่แล้วจริง ๆ” พอนึกถึงหน้าหล่อ ๆ ของคนที่ทำให้หงุดหงิดตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วก็มานึกถึงเรื่องงานก็ยิ่งทำให้ฉันอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่ “ทำไมต้องเจอเรื่องน่าเบื่อแบบนี้พร้อมกันด้วยนะ เฮ้อ!”

ฉันใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะขับรถมาถึงบ้านเพราะมัวแต่แวะซื้อของและเดินเล่นในห้างฯ แก้เบื่อ กระทั่งเลี้ยวรถเข้าไปในทางเข้าหมู่บ้านก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ คล้ายกับว่ากำลังง่วง และบรรยากาศรอบ ๆ ก็ดูเปลี่ยนไป

“ถึงสักที” ฉันสะบัดหัวไปมาขณะเดินเข้าไปในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า บางครั้งฉันก็อยากมีสามีเหมือนยัยมัดหมี่แล้วก็ทำธุรกิจส่วนตัวช่วยกันกับสามี พอว่างก็ไปเที่ยว เบื่อก็อยู่บ้านกันสองคนไม่ต้องวุ่นวายกับใคร แต่มันก็ได้แค่คิดเพราะตอนนี้คนที่ฉันกำลังยุ่งด้วยนั้นช่างแตกต่างจากพี่วายุสามีของเพื่อนรักโดยสิ้นเชิง “เป็นผู้ชายที่ไม่น่าฝากชีวิตไว้ด้วยสักนิดเดียว…”

“ดูแล้วเหมือนจะรักใครไม่เป็นด้วย แค่หาเรื่องหลอกฟันผู้หญิงไปวัน ๆ เท่านั้นแหละ…”

“เฮ้อ! แค่คิดว่าต่อไปต้องดูแลบริษัทฯ แทนแม่แล้วต้องเป็นสาวโสดไปตลอดก็เครียดแล้ว…”

“… z z Z”

เวลาต่อมา…

พรึ่บ!

สัมผัสเย็นวาบจากไอเย็นของเครื่องปรับอากาศที่เปิดทิ้งไว้กระทบผิว อยู่ ๆ ก็รู้สึกคล้ายกับว่าผ้าห่มผืนหนาที่คลุมตัวฉันอยู่นั้นหลุดลอยไป ฉันค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาด้วยความงัวเงียพลางควานหาผ้าห่มไปด้วย “ผ้าห่มหายไปไหน…”

“ฉันไม่น่านึกถึงนายก่อนนอนเลย ออกไปจากความฝันของฉันได้แล้ว” ฉันบอกคนตรงหน้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อหนีเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังจ้องมองมา

ว่ากันว่าหากก่อนนอนเราคิดถึงใครหรือนึกถึงเรื่องไหนมาก ๆ ก็จะเก็บเอาไปฝัน อย่างเช่นฉันตอนนั้นที่นึกถึงนายหน้าอ่อนนั่นก็เลยต้องมาเจอกันในฝันตอนนี้

“อื้ออ ~ หนาว ~” สัมผัสวูบโหวง โล่งโปร่งทำให้ฉันที่นอนอยู่เริ่มขดตัวเพราะความหนาวเย็น ความรู้สึกเย็นวาบราวกับคนกำลังเปลือยอยู่ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายตัว ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองอยู่ในอาการของคนครึ่งหลับครึ่งตื่น เหมือนจะลืมตาขึ้นแต่พอเอาเข้าจริง ๆ กลับปิดสนิท เหมือนจะสัมผัสบางอย่างที่กำลังวุ่นวายตามเนื้อตัวฉันได้แต่ก็สัมผัสไม่ได้ ทุกอย่างมันสับสนไปหมด

“อ๊าา ~” ฉันร้องครางออกมาเมื่ออยู่ ๆ ความรู้สึกเสียวซ่านก็เล่นงานที่ช่วงล่าง สัมผัสอุ่นชื้นจากบางอย่างที่ลากผ่านรอยแยกเบื้องล่างทำให้ฉันต้องจิกหมอนไว้แน่น “อื้ออ อ๊าา” เป็นอีกครั้งที่ฉันร้องครางออกมาขณะบิดตัวไปมาเพื่อหลีกหนีความเสียว ภาพความฝันที่ฉันกำลังเผชิญอยู่มีใครบางคนกำลังวุ่นวายอยู่กับเบื้องล่างของฉัน

“อ๊ะ ยะอย่าทำแบบนั้นอ๊าา” ฉันบิดตัวไปมาเมื่อเรียวลิ้นสากนั้นตวัดขึ้นลงตามรอยแยกเบื้องล่างที่กำลังชื้นแฉะ ความฝันประหลาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้คงเป็นเพราะฉันนึกถึงนายนั่นมากเกินไป ความสัมพันธ์ฉาบฉวยที่เกิดขึ้นในคืนนั้นถึงตามมาหลอกหลอนฉันถึงในฝัน

“อ๊ะ พะพอแล้วอ๊าา” ฉันดิ้นไปมาเมื่อเรียวลิ้นสากนั้นกำลังสอดแทรกเข้ามาในช่องทางคับแคบ สัมผัสเสียวซ่านเจ็บจี๊ดทำให้ฉันสะดุ้งโหยงจนต้องเม้มปากเข้าหากันแน่น มือเรียวสองข้างละจากหมอนมาขยุ้มกลุ่มผมหนานุ่มของคนที่กำลังซุกไซ้ใบหน้าไปมาตามซอกขาของฉัน

“อ๊าา” ฉันขยุ้มกลุ่มผมหนานุ่มแน่นขึ้นไปอีกเมื่อริมฝีปากร้อนขบเม้มช่วงล่างจนเกิดเป็นความเสียว ริมฝีปากหนาตะปมจูบและดูดดึงติ่งเกสรเบื้องล่างอย่างเอาแต่ใจจนฉันต้องแอ่นตัวขึ้นลงตามจังหวะหนักหน่วง “พะเพทายพอแล้ว อ๊าา” เป็นครั้งแรกที่ฉันเอ่ยชื่อใครบางคนตามที่ได้ยินแม่เรียกเขาและจากที่ยัยหมี่แนะนำให้เรารู้จักกันในงานแต่ง

ใบหน้าคมคายผละออกจากซอกขาของฉันก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากไปมาตามหน้าท้องเนียนจนรู้สึกขนลุก “ยะอย่าใช้นิ้ว มะไม่เอาอื้ออ” เป็นอีกครั้งที่ฉันเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นเมื่อนิ้วยาวเย็นเฉียบของคนที่เคลื่อนริมฝากขึ้นมาตะปมจูบยอดอกนั้นสอดแทรกไปในช่องทางคับแคบ จังหวะเชื่องช้าเนิบนาบจากนิ้วยาวเคลื่อนเข้าออกช้า ๆ จนรู้เสียว จังหวะสม่ำเสมอของนิ้วยาวใหญ่ทำให้ช่องทางคับแคบนั้นเริ่มหลั่งน้ำหวานสีใสออกมาและเริ่มรู้สึกแปลก ๆ

“อืมม” เสียงคลอเบา ๆ ของคนบนร่างดังขึ้นขณะเคลื่อนริมฝีปากมาประกบจูบ เรียวลิ้นสากสอดแทรกเข้ามาตักตวงความหวานในโพรงปากขณะที่นิ้วยาวใหญ่นั้นขยับเข้าออกช้า ๆ จนรู้สึกเสียวกระสัน

“อื้ออ เจ็บ!” ฉันร้องบอกคนที่ป้อนจูบมาให้เมื่อฟันคมนั้นขบลงบนเรียวปากบางจนรู้สึกเจ็บ ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกดีจนต้องโอบรอบคอหนาเอาไว้แล้วร้องครางออกมา